ความคืบหน้ากรณีพบศพนางเล็ก สาวใหญ่วัย 50 ปี ในบริเวณพื้นที่หมู่ 8 อบต.เกาะหลัก  อ.เมืองประจวบฯ  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยในช่วงเช้าวันนี้เวลาประมาณ 4.30 น. หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้สอบสวนนายสม พ่วงสำราญ ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 23 เมษายนจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ  4.30 น. ของวันที่ 24 เมษายน จึงได้นำตัวนายสมไปทำแผนและชี้จุด บริเวณสำนักสงฆ์ และจุดที่นำศพไปอำพราง โดยหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายสมไปศาลเพื่อขอหมายขัง เนื่องจากนายสมได้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยตัวเองจึงไม่สามารถออกหมายจับได้

 

โดยในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสอบสวน ได้แจ้งข้อหา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ ไว้ก่อนหนึ่งข้อหา ส่วนในเรื่องการฆ่าหรือไม่นั้นจะต้องรอผลชันสูตรพลิกศพ จากแพทย์ออกมาก่อนจึงจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

 

ซึ่งในการดำเนินการตามขั้นตอนทั้งหมดนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเป็นความลับและไม่ได้แจ้งกับใครเนื่องจากว่ากลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะชาวบ้านภายในหมู่บ้านที่นางเล็กอาศัยอยู่นั้น จะคอยมาเฝ้าดูตลอดตั้งแต่ทราบเรื่องว่านายสมได้เข้าไปมอบตัวและสารภาพว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการตายของนางเล็ก

 

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของป้าเล็ก (ผู้ตาย) ซึ่งอยู่ห่างห่างจากจุดพบศพประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยเมื่อถึงบ้านป้าเล็กทีมข่าวจึงได้พบกับ นายสมศักดิ์ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นสามีคนปัจจุบันของป้าเล็กทีมข่าวจึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยลุงสมศักดิ์ได้เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า

 

“ในช่วงคืนวันที่ 21 เมษายน 2567 ตนได้กลับจากสวนสับปะรดมาในเวลาประมาณ 21.00 น. ก็ไม่พบพบว่าป้าเล็กอยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะปกติป้าเล็กจะกลับมาบ้านเวลาประมาณ 22.00 ถึง 23.00 น. เป็นประจำอยู่แล้ว โดยหลังจากนั้นตนได้นอนหลับไป กระทั่งสะดุ้งตื่นมาช่วงเวลา 4.30 น. ของวันที่ 22 เมษายน 2567 ตนก็ได้โทรศัพท์หาป้าเล็ก โดยโทรไปเป็น 10 สาย แต่ในบางช่วงก็ไม่รับและในบางช่วงก็มีการตัดสายทิ้ง ตนก็รู้สึกว่าผิดปกติจึงได้ไปบอกกับญาติของป้าเล็ก ว่าป้าเล็กหายตัวไป โดยหลังจากนั้นจึงได้มีการออกตามหา และมาพบว่ารถจักรยานยนต์ของป้าเล็กได้จอดอยู่บริเวณริมเขื่อนอ่างเก็บน้ำกลางหมู่บ้านในช่วงเย็นของ วันที่ 22 เมษายน โดยหลังจากนั้นจึงได้ค้นหากันต่อเนื่องจนถึงวันที่ 23 เมษายนช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. ก็ได้พบศพป้าเล็กอยู่ภายในบ่อกลางไร่สับปะรด ใกล้เคียงกับสำนักสงฆ์

 

โดยในช่วงแรกตนก็ได้สงสัยตัวนายสม อดีตสามีของป้าเล็ก เพราะตนทราบมาก่อนว่าป้าเล็กและนายสมยังแอบคุยกันอยู่ ซึ่ง สาเหตุที่ตนคิดไว้ สองสาเหตุก็คือ 1. ในเรื่องการกู้ยืมเงิน 2.ในเรื่องชู้สาว  โดยในเรื่องการกู้ยืมเงินนั้นหลังจากที่ทราบว่าป้าเล็กเสียชีวิตตนจึงได้มาตรวจสอบเงินเก็บที่อยู่ภายในบ้านก็พบว่าเงินเก็บที่อยู่ภายในบ้านประมาณ 100,000 บาทที่ก่อนหน้านี้ตนได้ทำสวนสับปะรดและขายสับปะรดได้มาได้หายไปทั้งหมด รวมทั้งทองอีก 1 บาทของป้าเล็ก ก็ได้หายไป ซึ่งตนคาดว่าป้าเล็กจะเอาไปให้นายสมกู้ยืมหรือไม่ และในกรณีที่ป้าเล็กเสียชีวิตอาจจะไปทวงเงินแต่นายสมไม่มีจึงก่อเหตุดังกล่าว

 

และในประเด็นเรื่องชู้สาวนั้นก่อนหน้านี้ตนได้ทราบอยู่แล้วว่าตัวป้าเล็กกับนายสมยังมีการแอบคุยกันอยู่แต่ตนไม่อยากพูดเพราะพูดไปเดี๋ยวก็เกิดปัญหา ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร และสนใจแต่การทำสวนอย่างเดียวโดยตนก็ทำคนเดียว ซึ่ง ป้าเล็กก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะก่อนหน้านี้เค้าเป็นโรคหอบหืด จึงทำให้ตนคิดถึงนายสมเป็นคนแรกที่จะเป็นผู้ที่ก่อเหตุ

 

โดย ในตอนนี้ตนก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้โกรธอะไร เพราะตนคิดอยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่ถ้านายสมจะมาขออโหสิกรรมหรือขอโทษ ก็ไม่ต้องมา เพราะตนไม่อยากจะเห็นหน้า“

 

โดยในวันนี้ทีมข่าวได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมซึ่งเป็นช่วงวันที่ 23 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 6.40น นายสมได้ขับรถกระบะคันเดียวกับที่ใช้บรรทุกศพของนางเล็กไปอำพราง มาจอดบริเวณหน้าบ้านของนายลี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับนายสม และขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านของนายลี เพราะบริเวณหน้าบ้านของนายลีเป็นเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังสำนักสงฆ์ซึ่งอยู่ห่างจากสำนักสงฆ์เพียง 200 เมตร โดยคาดว่านายสมมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าจะเห็นตนเองหรือไม่เพราะในเวลาช่วงนั้นยังมีการพบศพของนางเล็ก

 

โดยช่วงแรกในนี้ได้ให้นายสมดูกล้องวงจรปิดผ่านทางโทรศัพท์มือถือ แต่หลังจากนั้น ผ่านไปประมาณ 10 นาที คาดว่าน่าจะดูจากโทรศัพท์มือถือไม่ชัดเจน นายลีจึงได้พา นายสม เดินเข้าไปภายในบ้านเพื่อไปดูจากหน้าจอที่ติดอยู่ด้านในของบ้าน

 

หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 3 นาทีในส่วนถึงได้เดินออกมาจากบ้านและเดินกลับไปยังรถกระบะให้หลังจากนั้นจึงได้ขับออกจากบริเวณดังกล่าวไป

ไขปมตาย! สาวใหญ่แอบแซ่บผัวเก่าช็อกดับ