กรณีวันที่ 19 เม.ย.67 เวลา 20.00 น.ที่บริเวณซอย จัดสรร ถ.บ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ร.ต.อ ศุกฤกษ์ อัศวภูมิ รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ ประสานเจ้าหน้าที่นิติเวชพร้อมอาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊งรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นที่ดินว่างเปล่าบริเวณระหว่างซอย สวิงและซอย จัดสรร หมู่4 ถ.บ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เบื้องต้นพบชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นข้อมือข้างขวาและมีรอยสัก และตรวจสอบพบผ้าใบสีฟ้าวางปิดกองเลือดกองใหญ่อยู่ด้านหลังซอยจัดสรร ซึ่งเป็นป่ารกร้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครนั้น

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบกะโหลกศีรษะในซอยผู้ใหญ่เลี่ยม ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งห่างจากจุดแรกที่มีการพบชิ้นส่วนมนุษย์ ประมาณ 500 เมตร ต่อมาเมื่อคืนนี้ ตำรวจชุดสืบสวนได้เข้าควบคุมตัว นายเกมส์ ชาวไทยผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุมาทำการสอบปากคำ ซึ่งมีรายงานว่า นายเกมส์ ได้ให้การว่า ตนเองได้รับว่าจ้างจากชาวญี่ปุ่นมาขับรถให้ ก่อนที่ระหว่างที่ตนเองขับรถชาวญี่ปุ่นที่นั่งมาด้วยกันในรถสามคนได้เกิดการมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงและเมื่อถึงไปที่โกดังแห่งหนึ่งย่านบางบัวทองซึ่งเป็นของชาวญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจร่วมกันได้ไล่ให้ตนเองลงจากรถและจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด แต่ตนเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่ชาวญี่ปุ่นจะให้ตนเองขับรถเก๋ง ยี่ห้อนิสสันรุ่น อัลเมร่า สีขาว พาชาวญี่ปุ่นเพื่อตระเวนทิ้งชิ้นส่วนของศพ และนำรถไปจอดทิ้งไว้จนกระทั่งมีคนไปพบชิ้นส่วนและรถของกลางดังกล่าว

 

ล่าสุด ศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 24 เม.ย. ได้อนุมัติหมายจับ 1 คนไทย และ 2 ชาวต่างชาติ คือ

 

  1. นายฮิโรโตะ ชูซุกิ (MR.SUZUKI HIROTO) สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 33 ปี

ในข้อหา “ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีผู้กระทำ กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การ ชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป”

 

  1. นายคาโต้ ทาคุย (MR.KATO TAKUYA) สัญชาติญี่ปุ่น อายุ 50 ปี

ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันลอบฝัง ช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีผู้กระทำ กระทำการใดๆแก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การ ชั้นสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

 

  1. คือ นายกฤษกร หรือเกมส์ อายุ 30 ปี

ข้อหา “ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย และร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีผู้กระทำ กระทำการใดๆแก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป”

 

ส่วนคนตาย ทราบคือ Mr. Kabashima Ryosuke อายุ 47 ปี

 

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เดินทางมาสอบปากคำ นายกฤษกร หรือเกมส์ หนึ่งในผู้ต้องหากลุ่มที่ก่อเหตุ ฆ่าหั่นศพนายเรียวสุเกะ คาบาชิม่า ชาวญี่ปุ่น และติดนามความคืบหน้าทางคดี

 

โดยภายหลังสอบปากคำ พล.ต.ท.จิรสันต์ ระบุว่า หลังพบชิ้นส่วนมนุษย์ ตำรวจใช้เวลาเร็วที่สุดเพื่อให้ทราบว่าคนตายเป็นคนญี่ปุ่นอยู่กลุ่มแก๊งเดียวกับคนก่อเหตุ และมีประวัติการกระทำความผิดในญี่ปุ่น โดยทั้ง 3 คน เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็น ชาวญี่ปุ่น 2 คน และคนไทย 1 คน ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ ทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย

 

ทั้งนี้จากการสอบปากคำนายกฤษกร หรือนายเกมส์ให้การเป็นประโยชน์ โดยนายเกมส์ จะรับจ็อบเป็นคนขับรถให้กลุ่มผู้ต้องหา เป็นจ็อบๆไป โดยนายเกมส์ ขับรถพากลุ่มผู้ก่อเหตุ มาที่โกดัง แล้วผู้ก่อเหตุชาวญี่ปุ่นใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมแก๊ง หลังยิงแล้วก็ออกไปซื้ออุปกรณ์แล้วกลับมาชำแหละก่อนจะนำศพไปทิ้งในวันที่ 28 มี.ค. ส่วนจุดที่ยิงจะยิงจากในรถหรือนอกรถ อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ

 

สำหรับรถที่ใช้ในการก่อเหตุมีทั้งหมด 2 คัน คือรถเก๋งอัลเมร่า สีขาว 1 คัน เป็นคันที่พบศพ และ นำชิ้นส่วนศพไปทิ้ง ส่วนรถเก๋งนิสสันโน้ส สีแดง ใช้ขับรถพาผู้ก่อเหตุมาจากร้านอาหาร พาไปส่งที่พัก ส่วนผู้ก่อเหตุชาวญี่ปุ่น 2 รายขณะนี้ อยู่ระหว่างการติดตามตัว โดยแนวทางการสืบสวนพบว่ายังอยู่ในประเทศ ซึ่งทั้ง 3 คนชาวญี่ปุ่น เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย และมีเรื่องคอลเซนเตอร์ด้วย หนึ่งในนี้ มีหมายจับที่ญี่ปุ่นอยู่ 1 คน ทั้งนี้จากการตรวจสอบโกดังของพิสูจน์หลักฐาน พบชิ้นเนื้อเล็กๆ ภายในโกดังด้วย

 

วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 12:54 น. ตำรวจได้มีการคุมตัวนายเกมส์ มาจากสภ. บางบัวทอง นนทบุรี ซึ่งมีการคุมตัวมาเพื่อที่จะสอบปากคำและพูดคุยกับพนักงานสอบสวนรวมถึงทีมสืบสวนเป็นครั้งสุดท้าย ในการไล่ลำดับเหตุการณ์ก่อนที่จะพาไปทำแผลประกอบรับคำสารภาพ โดยในช่วงที่มีการคุมตัวมาที่ห้องประชุมของเทศบาลเทศบาลเมืองพิมลราช เจ้าหน้าที่ได้มีการคุมเข้มเพื่อที่จะคุมตัวขึ้นไปบริเวณชั้น 4 เพื่อที่จะมีการพูดคุยต่อหน้าพนักงานสอบสวนและผู้การจังหวัดนนทบุรี โดยระหว่างที่มีการคุมตัวขึ้นไปนั้นยังคงมีสื่อมวลชนรอสัมภาษณ์

 

จากนั้นเวลาประมาณ 14.25 น. ของวันเดียวกัน ตำรวจได้มีการคุมตัวนายเกมส์ออกจากห้องประชุมที่ชั้น4 ของเทศบาลเมืองพิมลราช เพื่อที่จะพาลงไปชั้นล่าง ก่อนพาไปทำแผลประกอบรับคำสารภาพ บริเวณจุดที่ พบชิ้นส่วน และทิ้งรถ จอดแยกย้ายหลบหนี

 

ระหว่างนั้น กล้องเทศบาลฯ จะเห็นขบวน รถที่พาผู้ต้องหาไปทำแผน โดยมี รถตู้ของตำรวจขับนำ และมีรถเก๋งสีแดงยี่ห้อนิสสันขับตามหลัง ซึ่งเป็นคันที่ใช้จำลองเหตุการณ์ ขับตาม และจะเห็นรถทีมข่าวช่องแปดขับตามหลังประกบ ก่อนที่จะเห็นรถตำรวจสายตรวจขับปิดท้าย

 

หลังจากที่ตำรวจสอบปากคำนายเกมส์ ได้รายละเอียดทั้งหมดมาแล้ว ช่วงบ่ายวันนี้ก็คุมตัวนายเกมส์ ไปชี้จุดประกอบคำให้การ ซึ่งเป็นการไปโดยสมัครใจไม่ได้บังคับ

 

จุดแรก ไปที่ โกดัง ภายในซอยสวิง หมู่ที่ 4 ต.พิมลราช ซึ่งเป็นจุดที่นายคาโต้ ยิง นายเรียวสุเกะ เสียชีวิตภายในรถ ซึ่ง ตำรวจได้จำลองเหตุการณ์ โดยใช้ชุดสืบสวนเป็นตัวแสดงแทนชาวญี่ปุ่นทั้ง 3 คน ตอนขับรถนิสสันโน้ส สีแดง มาจอด นายเกมส์ เป็นคนขับ นายซูซูกิ นั่งหลังคนขับ นาคาโต้ นั่งข้างหน้า / และผู้เสียชีวิตชาวญี่ปุ่น นั่งด้านหลังฝั่งนายคาโต้ และนายเกมส์ ก็ชี้จุด อธิบายว่า ตัวเขา ยืนรออยู่ตรงรถเก๋งนิสสันโน้สสีแดง หน้าโกดัง กับนายซูซูกิ แล้วไม่ทราบว่า นายคาโต้ กับ นายเรียวสุเกะ เข้าไปภายในโกดังแล้วพูดคุยอะไรกัน พอสิ้นเสียงปืน จึงเดินเข้าไปเห็นนายเรียวสุเกะ นอนเสียชีวิตอยู่บริเวณเบาะข้างคนขับแล้ว

 

ใช้เวลาชี้จุด ประมาณไม่ถึง 10 นาที ก็ไปยังจุดต่อไป ซึ่งนักข่าว พยายามถามนายเกมส์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงการรู้จักกับชายชาวญี่ปุ่นทั้ง 3 ราย เจ้าตัวบอกว่า ตัวเองไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทำ ไม่ได้วางแผน ขับรถอย่างเดียว และไม่ได้ตอบคำถามว่า เคยขับรถให้กี่ครั้ง

 

จากนั้น คุมตัวเกมส์ ไปชี้จุดที่ 2 บริเวณป่าหญ้า จุดที่ทิ้งชิ้นส่วน ห่างจากโกดังประมาณ 500เมตร ซึ่งเป็นจุดที่พบชิ้นส่วน 12 ชิ้น และช่วงท่อนแขนที่มีรอยสักโดยหลังชี้จุดนี้ นายเกมส์ ตอบคำถามสั้นๆว่า ตนเองถูกข่มขู่ด้วย

 

จุดที่ 3 คือ ไปชี้จุด ซอยผู้ใหญ่เลี่ยม หมู่ที่ 4 ต.พิมิลราช จุดที่พบกะโหลกศีรษะ และสะบัก เมื่อวานนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากโกดังประมาณ 1 กิโลเมตร ซอยนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยโกดังหั่นศพ

 

โดยหลังชี้จุดเสร็จ นักข่าวก็พยายามจะถามนายเกมส์เพิ่มเติมว่า ที่บอกว่า ถูกข่มขู่ โดนข่มขู่ยังไง เป็นการขู่เอาชีวิตหรือไม่นายเกมส์ ตอบด้วยท่าทางอิดโรย และมีอารมณ์ ว่า ‘ต้องให้บอกด้วยเหรอ ว่าข่มขู่ว่าอะไร ให้การตอบไปหมดแล้ว และยืนยันถูกข่มขู่เอาชีวิต’

 

จากนั้นไปชี้จุด ยังจุดที่ 4 คือ จุดที่ทิ้งอาวุธมีด บริเวณคลองบ้านกล้วย

และจุดที่ 5 จุดทิ้งเลื่อยไฟฟ้า บริเวณคลองบ้านยายลี ก่อนที่จะคุมตัวนายเกมส์ กลับมาที่ สภ.บางบัวทอง

 

 สำหรับไทม์ไลน์ในการก่อเหตุคือ

คืนวันที่ 26มี.ค.ต่อเนื่องจนถึงตี2 วันที่ 27 มี.ค. ชาวญี่ปุ่นทั้ง3คนไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านฝั่งธน และเกิดไม่พอใจกันเรื่องส่วนตัว

 

จากนั้นออกจากร้านอาหารประมาณตี 2 ด้วยรถเก๋ง นิสสันโน้ส สีแดง ขับมาที่โกดังในซอยสวิง 1 หมู่ที่ 4 ต.พิมลราช เมื่อมาถึงโกดัง นายเกม และนายซูซูกิ ยืนสูบบุหรี่รอ อยู่หน้าโกดัง ส่วนนายคาโต้ และนายเรียวสุเกะ ผู้เสียชีวิต เข้าไปพูดคุยกันภายในโกดัง ซึ่งภายในโกดัง มีรถเก๋งอัลเมร่า สีขาว จอดอยู่

 

และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดหลังเสียงปืน นายเกม และนายซูซูกิ เดินเข้าไปภายในโกดัง พบนายเรียวสุเกะ ถูกยิงเสียชีวิตอยู่บริเวณเบาะด้านหน้าข้างคนขับ

 

ก่อนที่ทั้ง 3 คน จะเดินออกจากโกดังมาขึ้นรถเก๋งสีแดง กลับไปยังที่พัก และทิ้งศพไว้ที่เดิม โดยมีนายเกมส์ เป็นคนขับรถไปส่ง นายซูซูกิ และนายคาโต้

 

วันที่ 27 มี.ค.เวลา ประมาณ 10.00 น. นายเกมส์ ไปรับนายซูซูกิ และนายคาโต้ มาจากที่พัก และมีการซื้ออุปกรณ์ที่เซเว่นก่อนหน้านี้ เพื่อนำเข้ามายังโกดัง เพื่อทำการหั่นศพ ในวันที่ 27 มี.ค. จนถึงเวลาประมาณ 20.00น. นายเกมส์ ขับรถเข้ามารับ นายซูซูกิ กับนายคาโต้ แล้วกลับไปส่งยังที่พัก ทิ้งศพที่หั่นแล้วไว้ที่รถเก๋ง อัลเมร่าสีขาวอีก1คืน

 

วันที่ 28 มี.ค. นายเกมส์ ไปรับ นายซูซูกิ กับนายคาโต้ เพื่อไปยังโกดัง แล้วเปลี่ยนใช้รถเก๋งสีขาว อัลเมร่า ที่หั่นศพใส่ถุงดำ ออกไปตระเวนทิ้งศพ

 

วันที่ 29 มี.ค. นายเกมส์ ไปรับ นายซูซูกิ และนายคาโต้ เพื่อกลับมาที่โกดัง และโบกปูนอำพรางบางอย่าง ก่อนจะนำรถเก๋งนิสสันโน้ส สีแดง กลับไปคืนเต็นท์ที่เช่ารถมา

 

วันที่ 30 มี.ค. นายเกมส์ ขับรถเก๋ง อัลเมร่า สีขาว ไปจอดทิ้งไว้ ในจุดใกล้กับที่ทิ้งอุปกรณ์เลื่อยไฟฟ้า

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวช่องแปด ยังได้ย้อนเส้นทางตามไทม์ไลน์ ที่นายกฤษกร หรือเกมส์ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ มีการให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน ระบุว่า ในช่วงวันที่ 28 มี.ค. เวลาประมาณ 17.09 - 17.21 กลุ่มก่อเหตุได้มีการใช้รถนิสสันสีแดง ขับวนเพื่อหาจุดทิ้งศพ โดยมีการขับเข้าไปที่ซอยบริสุทธิ์1 และวนไปที่ ซอยสองพี่น้อง

 

โดยทีมข่าวช่องแปดได้มีการย้อนเส้นทางเข้าไปสำรวจ ทั้ง2ซอย ซึ่งพบว่าห่างจากซอยสวิง 2 เพียง 1 กิโลเมตร โดยทีมข่าวเข้าไปสำรวจภายในซอยดังกล่าว พบว่าแม้จะมีบางช่วงที่ไม่มีบ้านคน มีลักษณะเป็นหนองน้ำและป่ากก แต่มีบ้าน และคนอยู่อาศัยตลอด จึงทำให้ลักษณะซอยไม่ใช่ซอยเปลี่ยว มีคนพลุกพล่าน

 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยบริสุทธิ์ กับ ซอยสองพี่น้อง ซึ่งพบว่าวันที่ 28 มี.ค. เวลาประมาณ 16.53น. มีวงจรปิดบริเวณปากซอยบริสุทธิ์-สองพี่น้อง ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย จับภาพเก๋งแดงเอาไว้ได้ โดยลักษณะขับรถเลยซอย แล้วมีการกลับรถวนหาทางเข้าซอย

 

วงจรปิดวันเดียวกัน จับภาพเก๋งแดง เวลา 17.00 น. เห็นว่า เก๋งแดงมีการขับเข้าซอย เพื่อไปหาที่ทิ้งศพ และของกลาง โดยสังเกตว่า มีการขับโดนเปิดกระจกรถเอาไว้ จะเห็นสีเสื้อคนขับ

 

ทิ้งห่าง 5 นาที เวลา 17.05 น. เก๋งแดง ขับออกซอย เพราะทิ้งศพและทำลายหลักฐานไม่ได้ เนื่องจากในซอยมีคนพลุกพล่าน จึงได้ได้วนออกทันที แต่ตอนขาออก ก็ยังลดกระจก เหมือนเดิม จึงเห็นฝั่งคนโดนสารนั่งหน้ารถเห็นแขนและเห็นสิ่งของซึ่งไม่ทราบว่า คืออะไร อยู่เบาะหลังคนขับและคนนั่ง

 

ด้าน นายวัวชน (นามสมมติ) ชาวบ้านในซอย สองพี่น้อง เผยว่า ย้อนกลับไปช่วงประมาณ 4สัปดาห์ก่อน ตนเองอยู่บ้านที่ท้ายซอย แต่สังเกตว่ามีรถเก๋งตูดตัด ซึ่งไม่ใช่รถคนในซอยขับเข้ามาจอดบริเวณใต้ต้นไม้ ลักษณะขับหลงเข้ามา แต่มีการกลับรถบริเวณกลางซอย และจอดนิ่งอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะขับออกไป ซึ่งตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเป็นรถที่เกี่ยวข้องในคดีฆ่าหั่นศพ เข้าใจว่าอาจเป็นรถที่หลงผิดเข้ามา แต่หลังจากที่ทราบข่าวยอมรับว่าตกใจ และรถคันดังกล่าว หลังจากที่มาจอดนิ่งอยู่กลางซอย ไม่มีคนขึ้นลง และไม่มีใครลงมาโยนทิ้งอะไร ตนเองจึงไม่เห็นความผิดปกติ

 

สำหรับพฤติกรรมของรถสีแดงที่เข้ามาจอดนิ่ง ตัวเองเข้าใจว่าน่าจะมีการเข้ามาบ่นเพื่อที่จะก่อเหตุทิ้งอำพรางศพ แต่เนื่องด้วยซอยที่ขับเข้ามาทั้ง 2 ซอย มีบ้านคน และมีคนงาน รวมทั้งคนสวนอยู่อาศัยตลอด แม้ว่าจะมีหนองน้ำหรือป่ากก ก็ไม่สามารถก่อเหตุทิ้งอำพรางหรือทิ้งสิ่งของได้ เพราะเนื่องจากมีคนอยู่ตลอด หากมีการโยนสิ่งของทิ้งก็จะมีคนเห็นทันที จึงทำให้ซอยดังกล่าวจึงเป็นเพียงแค่การดูต้นทางแล้วขับออกไปเท่านั้น

เปิดแผน! "ยากูซ่า" ฆ่าหั่นศพ ช็อก! รองบอสลงมือเองตามเก็บสมาชิกแหกกฎ