จากกรณี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ จับกุมตัว นายภูดิศ อายุ 39 ปี และนายอดิศักดิ์ อายุ 45 ปี หลังร่วมมือกัน งัดบ้านของครูส้ม เทรนเนอร์สอนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทางสื่อโซเชียล ได้เงินที่ทางผู้เสียหายนำเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางไปร่วม 40 ล้านบาท หลบหนีไป หลังจากที่โจรกรรมเงินมาแล้วได้แบ่งทรัพย์สินกัน จนเหลือจำนวน 37,083,000 บาท ที่ตำรวจติดตามยึดมาได้พร้อมกับทรัพย์สินอีกจำนวนหนึ่ง




โดยเบื้องต้น ผู้ต้องหา ให้การว่าได้นำทองรูปพรรณและเครื่องเพชรบางส่วนไปทิ้งไว้ริมตลิ่งแม่น้ำปิง ข้างสะพานเหล็ก ใกล้ ๆ กับถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตำบลวัดเกต ในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วก็ขนเงินไปซ่อนไว้ที่ห้องพักจนมาถูกตำรวจจับได้ในที่สุด ซึ่งรวมมูลค่าทรัพย์สินที่โจรกรรมมาทั้งหมดร่วม 81 ล้านบาท นั้น




ล่าสุด (20 เม.ย. 2567) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ควบคุมตัวนายภูดิศ และนายอดิศักดิ์ ฝากขังศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยระหว่างนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พยามสอบถามข้อมูลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยนายภูดิศ ได้บอกกับทีมข่าวว่า ตนจะพูดทั้งหมด ตนได้โดนผู้เสียหายโกง ตนได้จำนวนเงินเพียงแค่ 50,000 บาท




ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่กำลังตามหาอยู่ ตนไม่ได้โยนทิ้งลงแม่น้ำ แต่วางไว้แถวสะพานเดินริมแม่น้ำปิง เพราะไม่อยากได้แล้ว ที่ตนได้มาก็มากพอแล้วเอาไปทิ้งง่ายกว่า หากตนขายต้องใช้บัตรประชาชนจึงตัดสินใจทิ้งเพื่อให้คนเอาไป โดยทิ้งท้ายกับทีมข่าวว่า ตนจริงใจ ตนได้เยอะมากพอแล้ว


ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปบริเวณริมแม่น้ำปิง ตามคำกล่าวอ้างของคนก่อเหตุว่าได้นำกระเป๋าสีดำมาวางไว้บริเวณนี้ โดยบริเวณดังกล่าวอยู่ที่ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะติดกับแม่น้ำปิง เป็นถนนสองเลนสวนกันและมีต้นไม้ตามทาง จากที่ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไม่พบกระเป๋าตามคำกล่าวอ้างของคนก่อเหตุ




จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้ โดยบอกกับทีมข่าวว่า ส่วนตัวมองว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่คนก่อเหตุจะเอากระเป๋ามาทิ้งบริเวณนี้ เพราะจุดนี้มีคนเดินพลุกพล่าน และช่วงเวลาดึกคนในพื้นที่ชอบมานั่งบริเวณนี้เยอะ ในเวลากลางคืนเป็นจุดที่สว่างมีไฟเยอะ หากนำกระเป๋ามาวางบริเวณนี้จริงจะต้องมีคนเห็น จากคำกล่าวอ้างของคนก่อเหตุ ที่บอกว่าตนได้ทรัพย์สินเยอะแล้วเลยเอามาวางไว้ตรงนี้เพื่อที่จะแบ่ง ส่วนตัวมองว่าคนก่อเหตุกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของคนก่อเหตุ และไม่เชื่อว่าคนก่อเหตุจะนำกระเป๋ามาทิ้งที่นี่ และไม่เห็นกระเป๋าสีดำดังกล่าวในบริเวณนี้ โดยหากตนเจอกระเป๋า คงส่งคืนตำรวจไม่เก็บเอาไว้แน่นอน


ต่อมา ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดกับพนักงานทำความสะอาด บริเวณที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างว่าทิ้งกระเป๋าไว้บริเวณนี้ โดยได้บอกกับทีมข่าวว่า ส่วนตัวมองว่าก็มีความเป็นไปได้ที่คนก่อเหตุจะมาทิ้งกระเป๋าดังกล่าวบริเวณนี้ แต่ถ้าหากทิ้งจริงชาวบ้านในพื้นที่จะต้องเห็น เนื่องจากบริเวณนี้เป็นจุดสาธารณะ และมีคนสัญจรอยู่ตลอดเวลา โดยเวลาดังกล่าวจากคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จุดนี้จะมีป้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตามพื้นที่ หากมีวัตถุต้องสงสัยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะควบคุมตัว




อีกทั้งลักษณะของคนก่อเหตุที่ทีมข่าวให้ดู ตนไม่เคยเห็นมาก่อน และทางพนักงานที่ทำความสะอาดบริเวณนี้ ก็ไม่มีใครพูดถึงกระเป๋าดังกล่าว หากเจอจะต้องมีการพูดถึงแน่นอน ซึ่งบริเวณจุดดังกล่าว ส่วนมากจะมีผู้สูงอายุและวัยรุ่นในพื้นที่เข้าไปนั่งเล่นบริเวณนั้น ส่วนตัวถ้าหากตนเจอกระเป๋าดังกล่าวแล้วเปิดมาเจอทอง มองว่าไม่กล้าหยิบ เนื่องจากตอนนี้มีกล้องวงจรปิดจับภาพชัดเจน ไม่กล้าหยิบแน่นอน


ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับนางสาวกชภาณัฐฏ์ หรือ ครูส้ม ผู้เสียหาย บอกกับทีมข่าวว่า ประเด็นต่าง ๆ ในโซเชียลเป็นการเข้าใจผิด มีการตั้งคำถามว่ามีเงิน 30-40 ล้านบาทได้ยังไง ตนอยากจะชี้แจงว่า ตนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มา 14 ปี เริ่มจากการลงทุนเพียง 150,000 บาท และตนไม่ได้มีธุรกิจเดียวแต่มีถึง 3 ธุรกิจ


โดยแต่ละบริษัทจะมียอดขายแตกต่างกันออกไป โดยธุรกิจที่ได้ยอดขายเยอะที่สุดจะเป็นคอร์สสอนเรียนอสังหาริมทรัพย์มา 4 ปี มีนักเรียนทั่วประเทศประมาณ 3,000 กว่าคน แค่ธุรกิจคอร์สสอนเรียน ยอดขายประมาณ 100,000,000 ต่อปี และได้เสียภาษีแบบถูกต้องตามกฎหมาย 100% จ่าย vat ประมาณ 500,000 ถึง 1,000,000 ต่อเดือน สามารถชี้แจงสเตทเมนต์และตรวจสอบได้ทั้งหมด และสามารถตรวจสอบผ่าน เว็บ DBD ข้อมูลของทางบริษัท โดยตนยืนยันว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินสีขาว 100%




ส่วนตัวเข้าใจที่กระแสสังคมมองว่าเป็นธุรกิจสีเทาหรือดำ แต่ถ้าหากมองในนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มียอดขาย 100,000,000 ต่อปี เงินจำนวน 30-40 ล้านบาทนั้น ไม่ได้เป็นจำนวนที่เยอะ บางคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่ฝากธนาคาร ตนยืนยันว่าเงินบางส่วนของตนก็มีเก็บฝากไว้ที่ธนาคาร แต่จำนวนเงินที่ถูกขโมยเป็นเงินสดที่ตนจะเอามาต่อรองในเรื่องของธุรกิจ โดยการซื้อทรัพย์ หากใช้เงินสดจะสามารถตกลงราคาที่ตนพอใจได้


ทั้งนี้ อยากจะฝากว่า หากเงินที่ตนถูกขโมยไม่ใช่เงินที่บริสุทธิ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจยึดแต่ทางตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเรียบร้อย และส่งเงินคืนทุกบาท หากไม่โปร่งใสคงไม่กล้าเอาตำแหน่งยศสูงมาเสียกับจำนวนเงินนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบข้อมูลเส้นทางการเดินเงินของตนและการเสียภาษีอย่างละเอียด ตนยืนยันว่าเงินที่ได้มาเป็นเงินบริสุทธิ์ หากคนไหนมีข้อสงสัยให้เข้าไปดูเพจอสังหา 100 ล้าน




ส่วนประเด็นเรื่องของการตั้งคำถามในโซเชียล ว่าแหล่งที่มาของเงินตนเป็นการฟอกเงินหรือเปล่า ตนมองว่า หากมีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบเส้นทางการเดินเงินของตนได้ โดยมีการเตรียมทาน Session ไว้ให้ตรวจสอบแล้ว ส่วนตัวเข้าใจ บางคนไม่ได้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจไม่เข้าใจ มองว่าเงินจำนวนที่ถูกขโมยจำนวนเยอะ แต่ถ้าหากเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะมองว่าเงินจำนวนนี้ไม่มากเท่าไร ตนอยากจะให้มองสองมุมไม่ใช่ตัดสินเพียงมุมเดียว โดยทิ้งท้ายว่าก่อนที่จะตัดสินคนอื่นควรเช็กประวัติ หรือข้อมูลของตนให้ดีก่อน


ส่วนลักษณะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ตนทำจะเป็นลักษณะการใช้หนี้ สร้างรายได้ เหมือนเป็นการกู้ เช่น สมมุติว่าราคาซับที่ตลาด 2,000,000 บาท หากซื้อในราคาตลาด 50% จะเป็น 1,000,000 บาท จากนั้นยื่นกู้ที่ธนาคารจำนวน 2,000,000 บาท เป็นการกู้ยืมและได้ผลกำไร


วันนี้ทีมข่าวได้พบกับคนก่อเหตุ ตัวคนก่อเหตุได้บอกว่าผู้เสียหายได้โกงเงินไปจำนวน 50,000 บาท เบื้องต้นตนเองจะชี้แจงว่า คำพูดของคนก่อเหตุ อาจพูดไม่เป็นความจริง ส่วนตัวตนไม่ได้ทำธุรกิจกับคนก่อเหตุ รู้จักเพียงการทำรีโนเวทให้กับอสังหาริมทรัพย์ ตนเคยมีเหตุการณ์หนึ่งที่ตัวคนก่อเหตุเขียนบิลเกินจำนวนรายได้ พอสอบถามข้อมูลคนก่อเหตุ ยอมรับว่าเขียนบิลขึ้นมาเอง ตนจึงบอกคนก่อเหตุว่าไม่สามารถจ่ายจำนวนเงินดังกล่าวได้ ให้เอาบิลจริงมาเบิก อาจเป็นสาเหตุให้คนก่อเหตุรู้สึกว่าโดนโกง ส่วนทรัพย์สินที่สูญหายยังไม่ได้คืน ส่วนตัวมองว่าสิ่งของไหนที่เป็นของเรา มันจะได้กลับคืนมา

 

จับพิรุธโจรปล้น 40 ล้านซุกเพชรทิ้งริมปิง-เจ้าของแจง เงินทุกบาทเป็นเงินสีขาว 100%