จากกรณีที่มี นางสาวฝน (นามสมมติ) หญิงคนสนิท เข้ามาเกี่ยวข้องกับช่วงไทม์ไลน์ของ ผอ.ระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร ก่อนที่จะพบเป็นศพ ทั้งเรื่องของความสัมพันธ์ ภาพวงจรปิด รวมถึงเบอร์โทรศัพท์ที่มีการโทร. เข้ามาในเครื่องมากที่สุดถึง 145 ครั้ง และยังพบว่าในวันที่เกิด 3 เม.ย. (วันเกิดเหตุ) มีการโทร. เข้ามากว่า 9 ครั้ง นั้น




วันนี้ (8 เม.ย.) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่ห้องแถวของนางสาวฝน คนสนิทของ ผอ. โดยพบว่าห้องแถวดังกล่าวเป็นห้องแถวที่มีคนทำงานมาเช่าอาศัยอยู่ ปลูกเรียงกัน 8 ห้อง และมีโรงรถอยู่ข้าง ๆ ซึ่งทันทีที่ทีมข่าวเดินทางไปถึงหอพักของ นางสาวฝน คนสนิท ปรากฏว่ามีเพียงรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ และสภาพห้องปิดล็อก และไม่เห็นรถเก๋ง สีดำ ที่เจ้าตัวใช้ประจำจอดอยู่เช่นกัน




ทีมข่าวจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้องแถว ซึ่งจะจับภาพความเคลื่อนไหวของห้องพักที่นางสาวฝน คนสนิท เช่าอาศัยอยู่ โดยพบว่าในวันที่ 3 เม.ย. จับภาพรถกระบะของ ผอ. ขับออกมาจากห้องพักดังกล่าว เวลาประมาณ 08.09 น. ซึ่งเป็นเวลาที่กำลังออกไปทำงาน ที่เทศบาลเทศบาลเมืองกำแพงเพชร โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดจากภาพที่หน้าห้องในซอย และเลี้ยวออกปากซอย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจับภาพเอาไว้ได้




จากนั้นภาพกล้องวงจรปิดจับภาพต่อวันเดียวกัน 3 เม.ย. จะเห็นช่วงเวลาประมาณ 08.11 น. นางสาวฝน คนสนิท เดินออกจากห้องแถวออกมาทิ้งขยะ กลับเข้าไปเพื่อเตรียมตัวออกไปทำงาน


และเวลาประมาณ 08.19 น. ของวันเดียวกัน 3 เม.ย. กล้องวงจรปิดจับภาพ เห็นรถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝน คนสนิท ของ ผอ. ขับตามหลังออกมาจากหอพักดังกล่าว เพื่อที่จะไปทำงานที่ อบต. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจับภาพเอาไว้ได้




จากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพรถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝน คนสนิท ขับกลับเข้ามาที่ห้องแถวหลังเลิกงาน เวลาประมาณ 17.13 น. และกล้องวงจรปิดจับภาพความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม หลังจากที่นางสาวฝน คนสนิท กลับมาถึงห้องแถวหลังเลิกงาน ได้มีการขี่รถมอเตอร์ไซต์ออกไปซื้อกับข้าวเวลาประมาณ 18.41 น. และเวลาประมาณ 19.27 น. ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับมาพร้อมกับกับข้าวที่ซื้อ


และจากรายงานข้อมูลของชุดสืบสวน ซึ่งระบุว่า ในวันที่ 3 เม.ย. ตอนเช้าของวันเกิดเหตุ หลังจากที่เห็นว่ารถกระบะของ ผอ.ระพิน มีการขับออกจากห้องแถว ก่อนที่จะเห็นรถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝน คนสนิท ขับตามหลังออกไป และวันเดียวกันนั้นจะมีเพียงแค่รถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝนขับกลับเข้ามาที่ห้องแถว แต่ตัวของ ผอ. ไม่ได้ขับกลับเข้ามา เพราะเนื่องจากไปงานเลี้ยงและไปร้านข้าวต้ม


แต่มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในคืนวันเกิดเหตุ 3 เม.ย. พบรถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝน มีการขับออกจากห้องแถวช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม และกลับห้องเวลา ตี 1 ซึ่งเป็นช่วงเวลารอยต่อ ตามที่ปรากฏเห็นภาพวงจรปิดว่า ผอ. มีการขับรถออกจากร้านและผ่านกล้องวงจรปิดเพื่อกลับบ้านเวลาประมาณ 23.41 น. จึงเป็นช่วงรอยต่อที่ว่านางสาวฝนไปเจอ ผอ. หรือไม่ก่อนที่จะเข้าบ้าน




ทีมข่าวจึงดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าหอพัก ปรากฏว่าเห็นรถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝน คนสนิท มีการขับออกจากหอพักจริงในคืนดังกล่าว ซึ่งขับออกเวลาประมาณ 20.31 น. โดยในรถไม่สามารถมองเห็นได้ชัดว่ามีคนนั่งโดยสารด้านข้างหรือไม่ แต่มีการขับออกจากหอช่วงเวลาดังกล่าวจริง และมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้หลายมุม


และกล้องวงจรปิดจับ เวลา 01.08 น. รถเก๋ง สีดำ ของนางสาวฝนคนสนิท ได้ขับกลับเข้ามาที่หอพัก ซึ่งก็ไม่มีรถคันอื่นขับตามหลังเข้ามา มีเพียงรถของนางสาวฝนเพียงคันเดียว และไม่มีรถของผอ. เพราะเข้าใจว่าเวลาดังกล่าวที่นางสาวฝนขับกลับเข้ามานั้น ผอ. เสียชีวิตแล้ว (เวลาสมาร์ตวอตช์ บันทึกหัวใจของ ผอ. หยุดเต้น เวลา 00.44 น.) และหลังจากที่ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพว่านางสาวฝนกลับเข้ามาแล้ว เวลาประมาณ 01.13 น. จะเห็นว่าไฟในห้องพักซึ่งเป็นห้องแถวของนางสาวฝน คนสนิท เริ่มทยอยปิดไฟเข้านอน


และรุ่งเช้าหลังพบว่า ผอ. เสียชีวิตแล้ว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับความเคลื่อนไหวของนางสาวฝน คนสนิท ซึ่งได้มีการขับรถออกไปทำงานตามปกติ แต่สายกว่าเมื่อวาน วันที่เห็นขับออกตามหลังรถของ ผอ. โดยภาพจากกล้องวงจรปิด ช่วงเช้าหลัง ผอ. เสียชีวิต ประมาณ 08.32 น. ของวันที่ 4 เม.ย. นางสาวฝนปิดประตูห้องพักเพื่อไปขึ้นรถ และเวลา 08.36 น. เห็นว่านางสาวฝนได้มีการขับรถออกจากห้องแถวเพื่อไปทำงาน ในเช้าวันที่ ผอ. เสียชีวิต




ต่อมาทีมข่าวยังได้ย้อนกลับไปที่ห้องแถวของนางสาวฝน คนสนิท ที่ปรากฏภาพว่ามีการเข้า-ออกพร้อมกับ ผอ. อีกครั้ง ด้าน นางสาวสไบทอง (นามสมมติ) คนในหอพัก ได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งเจอชายหญิงปริศนา ที่โผล่บริเวณสามแยกแถวลานดินและไม่ไกลจากบ้าน ผอ. ในคืนวันเกิดเหตุ และทีมข่าวยังได้มีการนำภาพรถกระบะไปสอบถามว่า เคยพบเห็นหรือเกี่ยวข้องกับคนในหอพักหรือไม่


นางสาวสไบทอง เผยว่า จากรูปพรรณสัณฐานของชายหญิงปริศนาที่ขี่รถผ่านแยก ในกล้องวงจรปิด ชายคนขับตนเองไม่รู้จักและไม่เคยพบเห็น และไม่รู้รูปพรรณสัณฐาน แต่สำหรับผู้หญิงที่นั่งซ้อนท้าย มีส่วนคล้ายกับนางสาวฝน เพราะเนื่องจากตัดผมสั้นบ๊อบ แต่ใบหน้ามองไม่ชัดเพราะเนื่องจากกล้องวงจรปิดอยู่ไกล จึงไม่ชี้ชัดว่าใช่นางสาวฝนหรือไม่ แต่สำหรับรูปพรรณสัณฐานโดยรวมมีความใกล้เคียง


สำหรับรถกระบะที่ทีมข่าวเอามาให้ดู ยืนยันว่าไม่เคยขับเข้ามาที่หอพักทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ และไม่ใช่รถของคนที่อยู่ในหอพักแห่งนี้ จึงไม่สามารถให้เบาะแสได้ว่าเป็นรถที่ไหน เพราะไม่เคยเห็น ขณะเดียวกัน นางสาวสไบทองในฐานะคนในห้องแถว เผยอีกว่า ตนเองเคยพบเห็นนางสาวฝนและ ผอ. อยู่ด้วยกันที่ห้องดังกล่าวประจำ แต่ช่วงหลังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเห็น ผอ. หายไป และเพิ่งมารู้ภายหลังว่าเจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว แต่ส่วนของนางสาวฝนก่อนหน้าก็ยังเดินทางมาแต่ช่วงนี้หายไป แต่ช่วงที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ก็มักจะพบเจอเฉพาะวันจันทร์ถึงพฤหัสบดี แต่วันหยุดจะไม่ค่อยเจอและเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะ โดยอยู่ด้วยกันตามปกติ




นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ ต้นไม้ (นามสมมติ) ในฐานะคนอาศัยอยู่ใกล้ ๆ ห้องแถวที่นางสาวฝนอาศัยอยู่ เผยว่า ห้องแถวที่นางสาวฝนอาศัยอยู่ เป็นห้องแถวด้านในสุด โดยในวันนั้นเห็นรถกระบะของ ผอ. เข้ามา แต่ตนเองไม่รู้ว่าเป็น ผอ. หรือทำงานด้านอะไร หลังจากที่ขับเข้ามาในหอ ได้มาถามตนเองว่า ห้องที่ไม่มีคนอยู่อีกห้องสามารถขอจอดรถได้หรือไม่ ตนเองก็ไม่ได้ติดขัดจึงให้รถกระบะคันดังกล่าวจอด แต่หลังจากจอดเสร็จแล้วก็เข้าไปอยู่ภายในห้องกับนางสาวฝน ซึ่งก็ไม่ได้เดินออกมาหรือใช้ชีวิตอยู่นอกห้อง และตอนเช้าก็จะเห็นออกไปทำงาน เวลาไล่เลี่ยกันแต่ใช้รถคนละคัน


และจากพฤติกรรมของนางสาวฝน กับ ผอ. ทุกคนก็รู้กันดีว่าอยู่ในฐานะคนที่คบหากัน แต่คงไม่ใช่โลกใบแรก อาจจะเป็นโลกอีกใบที่มาสร้างขึ้นที่ห้องแถว เพราะจากการสังเกตรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นรถของ ผอ. จะเข้ามานอนและอยู่อาศัยที่ห้องแถวช่วงวันจันทร์-วันพฤหัสบดี และวันศุกร์-อาทิตย์ จะไม่มาที่นี่ที่นี่ เข้าใจว่าไปอยู่กับบ้านใหญ่ โดยมีการแบ่งเวลาค่อนข้างชัดเจน แต่ส่วนเจ้าของห้องคือนางสาวฝน ก็ยังอยู่อาศัยตามเดิม แล้วตลอดช่วงที่ตนเองเห็นทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ก็ไม่เคยเห็นมีภรรยาหลวงหรือใครมาตาม ไม่เห็นทั้งคู่ใช้ชีวิตกระหนุงกระหนิง เพราะใช้ชีวิตอยู่ภายในห้อง 2 คน และไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกัน จึงไม่แน่ใจว่ามีประเด็นเรื่องของการทะเลาะกันหรือไม่


ด้าน นางรัตติกร ดิษทับ อายุ53ปี ภรรยาคนตาย เผยว่า วันนี้ตัวเองพาตำรวจชุดใหม่เข้ามาทำการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในบ้าน เพราะเนื่องจากตำรวจประสานว่าจะขอเก็บหลักฐานเกี่ยวกับเสื้อกางเกงและถุงเท้า ที่ก่อนหน้านี้ตนเองเคยบอกกับตำรวจชุดก่อนหน้านี้ให้ช่วยเก็บไปตรวจสอบ เผื่อเป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดีหรือพบดีเอ็นเอแฝง แต่ทางตำรวจชุดก่อนหน้าอ้างว่ามีการปนเปื้อนไปแล้วจึงไม่อยากเก็บไป แต่วันนี้ตนเองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันว่าในเมื่อมีตำรวจชุดใหม่เข้ามามาช่วยทำคดี ทำไมเค้าถึงให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าชุดวันที่ใส่ไปสังสรรค์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็แปลกใจเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของตำรวจที่ทำไม่เหมือนกัน




และสำหรับส่วนตัววันนี้ที่พาทีมข่าวมาดูบ้าน มีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับสวิตช์ไฟและไฟข้างบ้านที่เปิด โดยตนเองทราบจากข้อมูลตำรวจว่าไฟถูกเปิดเอาไว้ในวันที่เจอศพ แต่ที่ตนเองมาไม่ทันได้สังเกตว่าเปิดหรือปิด แต่สวิตช์ไฟดังกล่าวหากจะเปิดหรือปิดต้องเปิดประตูเข้าไปด้านในเพราะสวิตช์เปิดจากด้านนอกไม่ได้ ดังนั้น จากลักษณะบ้านในวันที่เจอศพ ประตูยังถูกล็อกเนื่องจากกุญแจอยู่ในรถ และกุญแจก็มีเพียงแค่สามีที่ถืออยู่คนเดียว ส่วนกุญแจอีกดอกอยู่บ้านที่จังหวัดนครสวรรค์ตนเองไม่ได้พกมา และไม่มีคนอื่นพกกุญแจอีก จึงเข้าใจว่าในวันนั้น ถ้าหากไฟจะถูกเปิดก็ต้องมีการเปิดประตูเข้าไป แต่ยังสงสัยว่ากุญแจอยู่ในรถไฟเปิดได้อย่างไร และด้วยนิสัยของสามีเป็นคนที่ไม่ค่อยเปิดไฟทิ้งเอาไว้


ส่วนอีกประเด็นที่ตนเองยังคาใจและยังไม่ได้รับคำตอบจากตำรวจ คือเรื่องของแผลถลอกที่อวัยวะ และมีน้ำหรือสารคัดหลั่งไหลออกมา ลักษณะสีเหมือนเลือด และเปื้อนอยู่ที่ขาหนีบฝั่งซ้าย จากปมประเด็นดังกล่าวถ้าเข้าใจว่าเป็นการผูกคอตายคอ ทำไมถึงมีเลือดไหลออกมา ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบหรือประเด็นคลายข้อสงสัยจากตำรวจ


แล้วส่วนตัวจนถึงวันนี้ก็ยังยืนยันว่า ไม่มีเหตุผลใดที่สามีจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนร่าเริง และเป็นคนไม่ได้มีความเครียด ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะต้องจบชีวิตแบบนั้น แม้ว่าจะเป็นโรคความดันเบาหวาน แต่ก็ไม่เคยมีภาวะอื่นที่จะทำให้ถึงขั้นฆ่าตัวตาย


หากย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะพบว่าสามีผูกคอตาย ตนเองยอมรับว่าได้มีการโทร. เข้าไปหาสามีจริง ช่วงเวลา 21.04 น. และมีการพูดคุยประมาณ 5 นาที ซึ่งในวันนั้นสามียังอยู่ที่ร้านอาหารร้านแรก และตอนที่โทร. ไปก็ยังได้ยินเสียงของนายอำเภอ มาโนช นายอำเภออุ้มผาง เพราะเจ้าตัวนั่งอยู่ข้างสามี ก็ยังได้ยินเสียงผ่านเล็ดลอดกันเข้ามาในโทรศัพท์ แล้วตนเองก็มีการพูดทักทายกันถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุกดิบประจำวันทั่วไป ไม่ได้มีอะไรผิดพลาดและยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกันก่อนที่วางสาย


อย่างไรก็ตาม ภรรยาของคนตาย ยังเผยถึงกรณีหญิงปริศนาที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตของ ผอ. ก่อนที่จะพบว่าผูกคอตาย โดยผู้หญิงคนนั้นตนเองไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการคบหากัน และไปอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่า ปรากฏภาพว่าเห็นเข้า-ออกด้วยกัน ตัวเองก็เพิ่งมารู้ตามที่เป็นข่าวว่าสามีมีโลกอีกใบ แต่ทั้งนี้ตนเองก็ไม่อยากปักใจเชื่อหรือจะไปพุ่งเป้าไปที่เขา ก็ขึ้นอยู่กับการสืบพยานหรือสืบสวนของตำรวจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะมันเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ส่วนตัวอยากจะชี้ชัดให้ชัดเจนวันนี้ว่า สามีไม่ได้ฆ่าตัวตาย และไม่มีแนวโน้มว่าจะผูกคอตายแน่นอน ต้องมีคนอื่น




และเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ที่วัดบาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งมีวิธีบำเพ็ญกุศลศพของ ผอ.ระพิน โดยยังคงมีเพื่อนร่วมงาน เจ้าหน้าที่เทศบาล และเจ้าหน้าที่จาก อบจ. รวมทั้งหน่วยงานในพื้นที่กำแพงเพชร เดินทางมาร่วมฟังสวดอภิธรรม โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งเดิมทีมีกำหนดการฌาปนกิจศพในวันที่ 9 เม.ย. และในวันพรุ่งนี้จะเป็นคืนสวดอภิธรรมคืนสุดท้าย แต่ญาติยังคงมีการชะลอการฌาปนกิจศพออกไปยังไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีผลทางคดีที่ครอบครัวเชื่อมั่น และคลายในประเด็นข้อสงสัย จึงจะมีพิธีฌาปนกิจศพ ผอ.




ขณะที่ทีมข่าวได้ข้อมูลเพิ่มเติมมา กรณีภาพวงจรปิดที่นางสาวฝนออกจากบ้านช่วงเวลา 01.08 น. วันที่ 4 เม.ย. ซึ่งเป็นหลังเกิดเหตุ ว่า ทางนางสาวฝนเดินทางไปดูแลหลาน และขับรถเก๋งกลับมาที่บ้านพักเพื่อพักผ่อน


ประกอบกับข้อมูลไขปริศนาคดี ผอ.ระพิน ที่พบชายหญิง ขี่รถ จยย. ในคืนวันที่ 4 เม.ย. นั้น ทาง พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ชี้ว่า เป็นใครก็ได้ที่ใช้รถช่วงกลางดึก ส่วนประเด็นรถกระบะที่ขับวนบริเวณลานดิน เส้นทางตรงนั้น ใครก็มีสิทธิ์เดินทางผ่านไปได้




ขณะที่วันนี้ ทีมข่าวได้การทดสอบบินโดรนเพื่อดูภาพมุมสูง จากจุดบ้านของ ผอ. ไปแถวละแวกลานดินหลัง อบจ. ลานดินจุดแรก ที่ลูกและคนในครอบครัวให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 8 ว่าสัญญาณ GPS ของสมาร์ตวอตช์ไปโผล่ โดยมีการขับเลยบ้านออกไป ซึ่งจากการบินโดน จะเห็นภาพมุมสูงกว่าจะไปถึงบริเวณลานดินดังกล่าว จะมีบ้านคนสวนข้าวโพด ซึ่งจะห่างออกจากบ้าน ผอ. เราประมาณ 300 เมตร




และจากการบินภาพมุมสูงจะเห็นฝั่งขวา ซึ่งเป็นหลังคาสีขาว บริเวณดังกล่าวเป็นส่วนงานโยธาของอบจ. โดยติดกับรั้วของหลังคาดังกล่าวเป็นเขตของพื้นที่ อบจ. จะลักษณะเห็นเป็นลานดิน ที่เพิ่งมีการไถพรวนเพาะปลูก โดยจุดนั้นเป็นจุดที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปเก็บดินเป็นจุดที่ 2


และหากมีการสำรวจจากภาพมุมสูงบ้านของ ผอ. จะเห็นบ้านของ ผอ. หลังคาสีแดง และมีโรงรถอยู่ฝั่งซ้ายของบ้าน ด้านหน้าจะเป็นต้นมะยม ส่วนรอบบ้านจะเป็นลักษณะสวน เพราะเจ้าตัวมีการซื้อที่มีการเพาะปลูกกระท้อน มะม่วง และพืชชนิดอื่นรอบบ้านเพื่อทำลักษณะบ้านสวน จึงไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิด แต่ส่วนด้านหลังจะมีส่วนข้าว ซึ่งมีขนำตั้งอยู่ แต่เป็นขนำของชาวบ้านที่ใช้สำหรับเวลามาสวนไม่ได้อยู่อาศัย และหลังบ้านของ ผอ. จะมีลักษณะเป็นคลองเล็ก ๆ ซึ่งไม่สามารถที่จะเดินทะลุมาได้ เพราะเนื่องจากจะต้องมีการข้ามคลอง ฉะนั้นจากภาพมุมสูงหากคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุ จึงต้องผ่านถนนด้านหน้าบ้านเท่านั้น เพราะเนื่องจากมีทางเข้าออกทางเดียว ฝั่งซ้ายและขวาเป็นสวน บางช่วงรกทึบ

 

ช่อง8 ที่แรก! หลักฐานสาวสนิท ผอ.งบฯ หายจากหอตรงเวลาตาย พยานเห็นคาตามีโลกอีกใบ?