ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายศุภพร หรือ นายบอย คู่กรณีของนายเอก และเป็นน้องของเจ้าของบ้าน ที่เสียหาย บอกว่า เรื่องปืนนั้นตนได้คืนนายเอก คู่กรณีตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เขามาว่าหาว่าตนไปแบล็กเมล์ ส่วนเรื่องเงิน ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปยุ่งเรื่องเงินของเขา โดยก่อนหน้านั้นนายเอก คู่กรณี พาตนไปเลี้ยงที่ร้านอาหาร แล้วนายเอกก็จ่ายเงินให้ แต่ตนก็ไม่รู้รายละเอียดว่าเท่าไหร่ พอเวลาผ่านไป นายเอก ก็จะมาเก็บเงินที่ตน 5 หมื่น ตนก็ถามไปว่าเก็บได้ไง เงินไม่ได้ผ่านที่ตน พี่คนจ่ายคุยกับเด็กเอง เงินที่ผมเอามาแค่ 2 หมื่น ส่วนที่เหลือให้ผม 5 พันตนก็เอาแค่ 5 พัน และตนก็คืนเงินหมื่น 5 ของเขาไปแล้ว มันจบไปแล้วแต่ก็ยังกลับมาเป็นประเด็นจนถึงทุกวันนี้ เพราะเขาไม่ยอมจบ

 

วันเกิดเหตุล่าสุด เขาก็มาโวยวายหน้าบ้าน มาทวงเรื่องเงิน ตนก็บอกว่า เอาอะไร ตนไม่ได้เอาเงินพี่ไป พี่คุยกับทางร้านไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีผมด้วย แล้วผมก็ไม่ได้เอาเงินพี่มา เรื่องทั้งหมดมันก็มีแค่นี้ ตอนนี้ตนก็มองว่าเรื่องยังไม่จบ เพราะเขาเอาเรื่องอื่นเข้ามารวมด้วย ซึ่งมันไม่เกี่ยวในเรื่องที่เขามีปัญหากับตน ตอนนี้ต้องอย่างหวาดระแวง เพราะไม่รู้ว่าคู่กรณีจะมาหาเรื่องเมื่อไหร่

 

ด้านคุณจริยา แสงเดือน พี่สะใภ้ของนายบอย และเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ พาทีมข่าวดูประตูรั้วที่ถูกนายเอกคู่กรณีใช้มีดฟันเสียหาย วันนี้ที่บ้านได้รื้อเอาไม้ตรงรั้วออก และทำเหล็กดัดไว้ที่ประตูบ้านด้านอกทั้งหมดแล้ว

 

คุณจริยา เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา รปภ.โทรมาบอกว่า นายเอก คู่กรณีขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน ตนก็เลยรีบโทรบอกแฟนว่าให้ระวังไม่รู้ว่านายเอก จะมาที่หน้าบ้านหรือเปล่า ซึ่งยังไม่ทันได้วางสายเลย นายเอกก็ขับมาจอดที่หน้าบ้านแล้ว ก่อนที่นายเอกจะไลฟ์สดบอกว่า “ว่าไง ๆ มึงเอาไง ๆ” ตนมองว่าถ้าคนปกติจะมาคุยกัน ก็ควรมาคุยกันดี ๆ ไม่ควรที่จะบีบแตรลั่นมา แล้วคู่กรณีก็บอกว่า น้องชายไปต่อยเขา เหมือนเขามาแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อยั่วโมโห เพราะว่าเรื่องมันก็เกิดตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้วมันก็ยังไม่จบ เราเองก็ระวัง ระแวงว่ามาทำไมอีก ตนไม่อยากคุยดีกับเขา จะต้องคุยดีทำไม ในเมื่อเขามาทำบ้านเราแบบนี้

 

พอคุยไม่เท่าไหร่ นายเอก ก็ถามว่า “อยากเจอลูกซองกูไหม อยากเจอลูกซองกูไหม” แบบนี้ใครจะอยากคุยดีด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าเขามีอาวุธ หรือมีมีดมาหรือเปล่า ถ้าเราไปยืนเกาะรั้วคุยกับเขาพวกตนจะไม่โดนเสียบเหรอ

 

ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์ได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าจะมาคุยดี ๆ ก็ควรขับรถมาดี ๆ ไม่ต้องปิดทาง ไม่ต้องบีบแตรลั่นแบบนี้ เล่นมายั่วยุ มาปั่นประสาทแบบนี้เป็นใครใครก็โมโห เราป้องกันตัวอยู่ในบ้าน เราไม่ได้เปิดประตูไปปะทะกับเขา ตอนนี้ตนเครียดมาก เพราะหลายคนมองเหมือนว่าพวกตนกลายเป็นคนผิดแล้ว

 

ส่วนความต้องการของคู่กรณีหลัก ๆ คือ ต้องการเรื่องเงิน แต่พอข่าวออกไปตั้งแต่รอบแรกที่เกิดเรื่อง กลายมาเป็นเรื่องปืน ซึ่งเรื่องปืนนั้น น้องชายตนได้ติดต่อกับคู่กรณี เพื่อจะขอซื้อปืน พอตนรู้เรื่องก็บอกกับน้องว่า ไม่อนุญาตให้เข้าบ้านนะ น้องชายเป็นแค่ผู้อาศัย ตนเป็นเจ้าของบ้าน จากนั้นน้องชายก็เอาปืนไปคืนตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ไม่คิดว่ามันจะมาเป็นประเด็นอีก เพราะคืนไปเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า บ้านของคนไม่มีปืน

 

ตอนนี้ตนอยากให้จบแบบที่ไม่ต้องมาระรานกันอีกเลย ส่วนเรื่องค่าเสียหายก็ขอให้ชดใช้ตามจริงที่มาพังรั้วประตูบ้าน และทำให้รถเสียหาย ซึ่งตนเรียกค่าเสียหายของประตูไป 5 หมื่น ส่วนรถเรียกค่าเสียหายไป 3 หมื่น 5 เพราะว่าเรามีเอกสารให้ทางศูนย์ประเมินมา อยากให้ทุกคนลองคิดว่า ถ้าเกิดบ้านใครที่โดนแบบนี้ แล้วถ้าเรียกความเสียหายไม่ได้ตนผิดเหรอ คู่กรณีมีปัญหากับน้องชาย แล้วมาถอยรถชนบ้านตน แล้วเอามีดมาฟันรั้วบ้านอีก ส่วนเรื่องค่าเสียหายก่อนหน้านี้คู่กรณีไม่ยอมมาเคลียร์เรื่องค่าเสียหายเลย ผ่านมาหลายเดือนจนมายอมเคลียร์

 

คุณจริยา พูดทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ตนอยากจบเรื่องทั้งหมด ถ้าบ้านตนทำผิดก็ขอโทษ (พร้อมยกมือไหว้) ขอโทษที่ตนไปเรียกร้องค่าเสียหาย แต่มันก็ไม่สมควรไง ตอนนี้คนเครียดมาก อ่านคอมเมนต์ทุกคนก็บอกว่า เรียกค่าเสียหายแพงเกิน แต่อยากให้คิดว่าถ้าเป็นบ้านของตัวเอง เป็นบ้านหลังแรก คุณจะเรียกร้องแบบตนไหม บ้านนี้ตนอยู่ได้แค่ 8 เดือน ไม่เคยไประรานหน้าบ้านคู่กรณีเลย มีแต่เข้ามาระรานที่บ้าน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเขาเมาหรือเปล่า

 

ด้านเอกลักษญ์ หรือ นายเอก ซึ่งเป็นคนที่ถอยรถและบุกฟันบ้านของผู้เสียหาย บอกว่า เรื่องปืนตนก็ไม่ได้ตั้งใจหาให้นายบอยเลย และตนก็ไม่ได้ค้าขายอะไรพวกนี้ด้วย ไม่ได้ยุ่งเลย ตนเล่นปืนตั้งแต่เรียน ปวช. มีสั่งซื้อจากนักเรียนผิดระบบ ผิดกฎหมาย ปืนปากกาตนก็มีหมด แต่พอทำงานก็ต้องเลิกหมด หยุดหมด ซึ่งปืนที่มีนั้น เป็นปืนมีทะเบียนซื้อมาให้แฟน ซึ่งคนบ้านคู่กรณีมากวน มาขอซื้อเร้าหรือจะซื้อ 2 หมื่น 6 ตนก็หาให้ฟรี ๆ ไม่ได้เอากำไรอะไร เพราะไม่ได้ค้าขาย แต่ปืนที่หาไปให้นั้นตนคงบอกที่มาไม่ได้ว่าเอามาจากไหน ตนเป็นคนรักษาสัจจะ และยังต้องมาติดคุกแทนมันอีก

 

ส่วนที่เอามีดไปเคาะที่หน้าบ้านคู่กรณี เพราะว่า นึกว่าเขายังไม่ซ่อมบ้านไม่ทันได้ดู และจะเข้าไปพูดคุยเจรจาว่าจะเอายังไง แต่กลับโดนคู่กรณีตบ โดนรังแกก่อน พอไปแจ้งความ ตำรวจก็บอกว่า เอาหน้าไปให้เขาตบเอง แบบนี้มันใช่เหรอ ตนไปแจ้งความกลับถูกค้นตัว ค้นรถ ตอนนี้อยากบอกคู่กรณีว่า ให้มารับปืนคืนไปเถอะ เพราะมันเป็นของคุณ ที่ตกลงซื้อขายแต่ไม่มีปัญญาจ่าย แล้วก็เอามาวางคืน เพราะคุณไม่กล้าบอกความจริงกับญาติๆ ของคุณ สุดท้ายตนต้องมาถูกจับ พอไปออกข่าวก็ยังไปให้ข่าวเท็จอีก ตนติดคุกคู่กรณีต้องรับผิดชอบด้วยซ้ำ เพราะปืนนั้นเป็นของคู่กรณี

 

ตนไม่ได้รับความเป็นธรรมหลายเรื่อง คือ 1.เรื่องปืน 2. เรื่องโดนสังคมประณาม ตนอยากจะพูดถึงหมู่บ้านที่ตนอยู่ อยากจะบอกว่า หลายครั้งที่ของหาย เสื้อช็อปหาย พอถ่ายรูปไปให้ดูก็หาว่าตนไปก่อกวนอาละวาด อยากถามว่า หมู่บ้านมีความปลอดภัยเหรอ บริษัท รปภ.ที่นั่นไม่ได้ทำอะไรเลย ก่อนที่จะพัฒนามาถึงขั้นนี้ ตนนี่แหละเป็นคนทำ ตนอยากจะเข้าไปดูแลหมู่บ้านนี้ ตนเคยไม่ดี เหมือนผมเป็นนักเลง ก็ใช่ ผมเก๋า สู้ตายจนรอดมาถึงทุกวันนี้ นี่คือตน นักศึกษาอาชีวะคนหนึ่งที่โตมาสายนักเลง แต่ไม่เคยทำใครก่อน สัจจะ ซื่อตรง ไม่เคยทำใครก่อน นั่นคือผมครับ “เอก มีดี”

 

นายเอก บอกปิดท้ายด้วยว่า ตอนนี้ก็อยากจบ บ้านก็อยากขายคืน 6 ล้าน ถ้ากลัวตนกันนัก จบไม่เข้าไปอยู่ ไม่เข้าไปยุ่งด้วย ใครจะซื้อมาเอาไปเลย ตนทำบ้านไว้อย่างดีซื้อบ้านมา 4 เดือน แต่ไม่เคยได้อยู่ได้นอนเลยสักคืน เพราะเขาไม่ให้เข้า ขอให้เข้าใจตนบ้างไม่ใช่ฟังความข้างเดียวตลอด

เพื่อนบ้านมหาประลัย! ควงมีดฟัน-ถอยกระบะชนรั้ว ก่อเรื่องซ้ำซาก