ตำรวจคุมตัวนายทหารยศร้อยโท สงศาลทหารหลังเจ้าตัวปฏิเสธแต่ พบพยานหลักฐานเชื่อ ก่อเหตุฆ่าสาวขายของออนไลน์เสียชีวิตจริงจึงแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้ต้องหาระบุ อ้างว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์และปีนตึกไม่เป็น

 

ความคืบหน้าคดีของนางสาวอัญพัชญ์ อายุ 47 ปี ทำอาชีพเป็นเซลล์และแม่ค้าออนไลน์ ถูกฆ่าปาดคอ เสียชีวิตภายในห้องพักชั้น 10 คอนโดมิเนียมย่านนนทบุรี โดยหลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถสืบทราบตัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ได้ คือ ร้อยโทจิระวัฒน์ อายุ 31 ปี เป็นนายทหารอยู่ที่สำนักงานงบประมาณ กองบัญชาการกองทัพไทย เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ไม่ได้เป็นคนลงมือก่อเหตุ

 

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ชุดสืบสวนได้นำตัวร้อยโทจิระวัฒน์ลงมาให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งไปศาลทหาร โดยได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” แม้ว่าเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานแน่นพอที่จะสามารถเอาผิดกับร้อยโทจิระวัฒน์ได้

 

ทีมข่าวได้สอบถามเจ้าตัวอีกครั้งว่ายังปฏิเสธอยู่หรือไม่ เจ้าตัวยืนยันว่า “ผมขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ผมไม่ได้ทำ” ก่อนจะเข้าไปในห้องเพื่อสอบปากคำทันที เพื่อให้การกับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ให้ร้อยโทจิระวัฒน์ กินข้าวไปด้วย จากการสังเกต ดูไม่ได้มีท่าทางเครียดแต่อย่างใด

 

สำหรับข้าวที่ร้อยโทจิระวัฒน์กินนั้น มีชายคนหนึ่ง นำข้าวหมูกรอบและน้ำอัดลมมาติดต่อเพื่อส่งให้กับผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามที่มาของชายคนนี้อ้างว่า เป็นไรเดอร์และได้รับการติดต่อจากร้านขายอาหาร ย่านนทบุรี ให้นำอาหารมาส่งให้กับคนชื่อ “จิระวัฒน์” ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุ และไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ้างให้มาส่งอาหาร

 

มีรายงานว่าการสอบปากคำในวันนี้ ร้อยโทจิระวัฒน์ นั่งนิ่งเงียบ กุมมือและสลับนิ้วชี้นิ้วโป้งวนไปวนมา แต่ไม่ตอบคำถาม หลังตำรวจถามว่าได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้เสียชีวิตหรือไม่

 

ภายหลังตำรวจร่างคำร้องและสอบปากคำร้อยโทจิระวัฒน์ เพิ่มเติมประมาณ 30 นาทีเสร็จสิ้น ตำรวจได้นำตัวร้อยโทจิระวัฒน์ไปส่งศาลทหารทันที โดยวันนี้พบว่าร้อยโทจิระวัฒน์ใส่หมวกสีดำ ปิดหน้าปิดตา เห็นเพียงดวงตาเท่านั้น ซึ่งในระหว่างที่นำตัวขึ้นรถ เจ้าตัวเปิดเผยด้วยหน้าตาและน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า “ไม่ได้ทำ ไม่ได้ก่อเหตุ เพราะอยู่แต่ห้องตลอด ส่วนบาดแผลเกิดจากทะเลาะกับแฟน ทำให้เกิดรอยขีดข่วนที่ใบหน้าและนิ้วมือ”

 

เมื่อถามว่าช่วงเวลาตี 1 หลังเกิดเหตุ ออกมาทำอะไรนั้น เจ้าตัวบอกว่า ”ออกมาทิ้งขยะ” ส่วนประเด็นติดการพนันหรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า “ไม่จริง ไม่ได้ติดพนัน ยืนยันไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน”

 

ส่วนประเด็นเรื่องการเล่นกีฬาอีสปอร์ต เจ้าตัวยอมรับว่า “เล่น แต่เรื่องปีนป่ายอ้างว่าปีนไม่ได้ พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่ได้รู้จักกับผู้ตายมาก่อน”

 

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยภายหลังส่งตัวผู้ต้องหาไปศาลทหาร ว่า จากการสอบปากคำร่วมกับนานทหารพระธรรมนูญตลอดทั้งคืน ผู้ต้องหายังคงปฏิเสธข้อกล่าวหา และมีลักษณะนิ่งเฉย โดยตำรวจได้แจ้งพฤติการณ์ และพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ กับผู้ต้องหา แต่ยังให้การเหมือนเดิมว่า ‘ไม่รู้ไม่เห็นและไม่ได้กระทำความผิด’

 

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยใช้ทีมพิสูจน์หลักฐานตำรวจและทีมนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า ในที่เกิดเหตุพบรอยเท้าของคนร้าย เป็นเท้าเปล่าที่เหยียดเลือด และเปื้อนเลือดออกไปหลังเกิดเหตุแล้ว โดยออกไปทางระเบียงหลังห้องพักของผู้เสียชีวิตชั้น 10 ไปเชื่อมโยงกับรอยปีนเหล็กระแนงที่บังคอมเพสเซอร์แอร์ข้างหลังที่เชื่อมชั้น10ไปถึงชั้น12 และรอยเท้าไปสิ้นสุดที่ชั้น12 จากนั้นรอยเท้าเปื้อนเลือดเชื่อมโยงเข้าไปในห้องด้วย ซึ่งคราบเลือดนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บร่องรอยไปตรวจดีเอ็นเอต่อไป

 

ส่วนจะเตรียมการมาก่อนโดยไปนั่งรอหรือไม่นั้น พ.ต.อ.พิสุทธิ์ บอกว่า จากที่ดูอาจจะเข้าไปในจังหวะสั้นๆ แล้วผู้เสียชีวิตเข้ามาพอดี จึงลงมือก่อเหตุ

 

ขณะที่แรงจูงใจของการก่อเหตุตอนนี้อันดับแรกยังประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนประสงค์ต่อชีวิตเป็นอันดับรอง และเท่าที่ตรวจเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีอะไรหายไปบ้าง เพราะจะต้องรอญาติผู้เสียชีวิตเข้ามาตรวจสอบก่อน เนื่องจากผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่คนเดียว และยังไม่พบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ยังตืดตามสัญญาณไม่ได้จากเดิมที่คิดว่าอาจจะตกหล่นในห้องหรือไม่เพราะมีร่องรอยการต่อสู้แต่เมื่อเข้าตรวจสอบห้องพักที่เกิดเหตุซ้ำก็ยังไม่พบ จึงต้องเร่งตรวจสอบ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

 

ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาว ก็ยังไม่พบความเชื่อมโยง และผู้เสียชีวิตกับผู้ต้องหาไม่รู้จักกัน ขณะนี้จึงยังไม่มีความเชื่อมโยงกับผู้ตายในทุกลักษณะ ทั้งนี้ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาไปดูเป้าหมายอย่างไร อาจจะเคยปีนเข้าไปในห้องแล้วมีรอยฝุ่นจับหรือไม่แต่ไม่สามารถตรวจพบได้ แต่ลักษณะเกิดเหตุจากรอยเลือดตรวจพบได้อย่างชัดเจน เมื่อเลือดจับกับเหล็กจะจับตัวได้นาน

 

สำหรับอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ระบุว่ายังไม่เจออาวุธจริง แต่ตรวจจากบาดแผลป็นของมีคม ซึ่งเป็นไปได้ทั้งมีดและกรรไกร และเมื่อวานเจ้าหน้าที่ก็ตรวจเจอกรรไกรในห้องพักของผู้ต้องหา และได้ตรวจสอบเจอคราบเลือดที่กรรไกร จึงได้นำไปส่งแล็ปเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ ซึ่งหากนำมาใช้กรรไกรมาใช่ในการก่อเหตุก็เป็นอาวุธที่ผู้ต้องหานำมาที่ห้องผู้ตายด้วย

 

พ.ต.อ.พิสุทธิ์ ยังบอกอีกว่า จากการตรวจร่างกายในเบื้องต้นของผู้ต้องหา พบร่องรอย 3 จุด คือ บริเวณใบหน้าผู้ต้องหามีรอยเล็บข่วนชัดเจนที่แก้มซ้ายและแก้มขวา และที่นิ้วมือ 2-3นิ้ว มีรอยคล้ายของมีคมบาด รวมถึงต้นขาขวามีรอยข่วน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้ส่งไปให้แพทย์ตรวจละเอียดจะต้องรอผลอีกครั้งว่ามีรอยตรงจุดอื่นอีกหรือไม่

 

ส่วนผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานเนื้อเยื่อที่เล็บไปแล้ว รอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง โดยจะเร่งให้ผลเร็วที่สุด

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบหลังเกิดเหตุตี1ครึ่ง ตามภาพวงจรปิดที่ผู้ต้องหาถือถุงดำไปทิ้งนั้น พบว่า ถุงดำดังกล่าวเป็นขยะพวกขวดน้ำ กล่องนม ไม่มีร่องรอยพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับคดีนี้

 

 ส่วนจะเคยผ่านมีการฝึกหรือไม่นั้นตนเองไม่ทราบ แต่ผู้ต้องหาเป็นทหารมีความแข็งแรง และลักษณะเหล็กก็พอดีมือจับ

 

ส่วนการสอบปากคำแฟนสาวของผู้ต้องหาเมื่อวานนี้ ยืนยันชัดเจนว่า ผู้ต้องหาเป็นหนี้ และมักจะขอเงินแฟนใช้หลักร้อยถึงหลักพัน คาดว่าคงมีปัญหาเรื่องเงินและจากการสอบถามแฟนผู้ต้องหายังพบอีกว่า เคยทะเลาะกันบ่อย ปกติผู้ต้องหาจะเป็นคนนิ่งๆเรียบร้อย แต่ถ้ามีอารมณ์ฉุนเฉียว ก็จะมีอารมณ์รุนแรง แต่ไม่ทราบว่า ถึงขั้นลงไม่ลงมือหรือไม่ ทั้งนี้ในห้องยังพบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะตรวจสอบคอมพิวเตอร์ว่ามีการเล่นพนันอย่างไร แต่เบื้องต้นมีการเล่นเกมออนไลน์แน่นอน

 

สำหรับคดีนี้ ถือว่า เป็นผิดตามกฎหมายอาญา แต่ผู้ต้องหากระทำความผิดคนเดียวไม่ได้ร่วมกับพลเรือน จึงไปขึ้นศาลทหารเพื่อพิจารณาคดี ตาม พรบ.ธรรมนูญ แต่เป็นการไปพิจารณาที่ศาลหารเท่านั้น ส่วนสำนวนคดียังเป็นคดีความผิดทางอาญาตามปกติ

 

ผู้ต้องสงสัยต่อมาทราบที่อยู่ ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ หลังผู้สื่อข่าวเข้าที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่า บ้านปิดตาย ล็อกกุญแจประตูหน้าบ้านทิ้งไว้ คาดไม่มีคนอยู่อาศัยนานแล้ว จากสภาพบ้านมีเถาวัลย์ขึ้นโดยรอบตัวบ้าน แล้วมีลักษณะเพิ่งตัดนำเอาเศษหญ้าออกไป

 

คุณยายปากซอยทางเข้าบ้านของนายจิระวัฒน์ บอกว่าทราบข่าวเหตุที่เกิดขึ้นตนตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าผู้ก่อเหตุจะใช่นายจิระวัฒน์ เนื่องจากนายจิระวัฒน์ เมื่อตอนยังเด็กๆ วิ่งเข้า ออก ปากซอยนี้ทุกวัน นิสัยไม่ค่อยพูด ยิ้มง่าย นิสัยดีมาก และเป็นคนเรียบร้อย หลังจากบิดาของนายจิระวัฒน์ เสีย มารดาก็ไปมีครอบครัวใหม่ บ้านหลังดังกล่าวตามที่อยู่ของนายจิระวัฒน์ ได้ยกให้ป้าของนายจิระวัฒน์ไป ส่วนตัวนายจิระวัฒน์ ได้มาอาศัยอยู่กับญาติซึ่งรับราชการทหารยศสูงในกรุงเทพ ฯ และคาดว่าปลดเกษียณไปแล้ว ส่วนตัวนายจิระวัฒน์ ก็เป็นทหารเช่นกัน ซึ่งยายไม่ทราบว่ายศอะไร เนื่องจากออกจากบ้านหลังนี้ไปนานมากหลายสิบปี

ทหารโหดปัดเสียงแข็ง สังหารแม่ค้าออนไลน์ดับ หลักฐานมัด กรรไกร-รองเท้าเปื้อนเลือด