เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 23.20น. ทาง ร.ต.อ.กิตติพันธ์ อายุยืน รอง.สว.(สอบสวน) สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายที่บ้านป่าสักน้อย ซอย 15 ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐพล จันมะโน ผกก.สภ.สันกำแพง และชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.สันกำแพง กู้ภัยโพธิ์เงิน รุดไปที่เกิดเหตุ

 

พบผู้เสียชีวิต คือ นางทิพย์มณี อายุ 49 ปี ที่ สภาพศพนอนคว่ำหน้าใส่เสื้อยืดสีเทา สวมกางเกงสามส่วนลายส้มถูกยิงเข้าที่ลำคอด้านหลัง 2 นัด

 

ส่วนผู้ต้องหามือปืนคือ นายสิทธิโชค อายุ 52 ปี คนเช่าบ้านหลังดังกล่าว ไม่อยู่ที่เกิดเหตุหลบหนีไป โดยขี่รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน สวมเสื้อ ยืดคอกลมสีดำ กางเกงสามส่วน

 

ส่วนพฤติการณ์แห่งคดีนั้น น้องสาวคนตายได้ โทรศัพท์มาหาผู้ตายแล้วไม่มีคนรับสายจึงมาตามหาที่บ้านพักก็ไม่พบ จึงไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ว่า นางทิพย์มณี ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเย็น ที่บ้านพักหลังดังกล่าว

 

ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติมาตรวจสอบที่หน้าบ้านเช่าหลังเกิดเหตุ พบรอยเลือดหยดที่บริเวณถนนบ้าน และมีรอยลากเข้าไปในบ้าน จึงแจ้งให้ทางพนักงานสอบสวนทราบออกมาตรวจที่เกิดเหตุ และจนพบศพนางทิพย์มณี นอนตายคว่ำหน้า ซ่อนอยู่บริเวณในรั้วบ้านหลังบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว สภาพสวมเสื้อสีเทากางเกงสามส่วนลายออกส้ม

 

ส่วนเจ้าของบ้านได้หลบหนีไปแล้วทราบชื่อว่า นายสิทธิโชค คุณพันธ์ เป็นเจ้าของบ้านผู้ต้องสงสัยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอกตกอยู่บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ

 

จากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้ตายมันจะมีปากเสียงกับนายสิทธิโชคฯผู้ต้องสงสัยปล่อยเพราะอาศัยอยู่บ้านติดกัน จึงเชื่อว่าเป็นผู้กระทำผิดหลบหนีไป ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุเก็บไว้เป็นหลักฐาน จะได้ติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีสอบสวนเรื่องราวที่แท้จริงต่อไป

 

ภาพจากกล้องวงจรปิดของศูนย์การเรียนรู้บ้านป่าสักน้อย ซอย 15 ม.3 ต.แม่ปูคา อ.สันกำแพงจ.เชียงใหม่ ได้บันทึกเสียง ปืนรอยิง จำนวน 4 นัดเมื่อเวลา 10 น.เศษ ของวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่นายสิทธิโชค คนเช่าบ้านได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงนางทิพย์มณี อายุ 49 ปี เพื่อนบ้านจนเสียชีวิตก่อนที่จะลากศพไปซ่อนไว้ในบ้าน

 

จากนั้นคลิปกล้องวงจรปิดบริเวณ สามแยกทางเข้าวัดพระนอนปูคา พบว่าคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์ ลัดเลาะออกมาจากซอย ในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ หลบหนี เลี้ยวขวาเข้าไปในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางหลบหนี หลังจากเกิดเหตุ

 

ด้านนางขันคำ 65 ปี แม่ของผู้ตายได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าลูกสาวมีอาชีพเป็นหมอนวดแผนโบราณเดินทางไปมาระหว่างกรุงเทพฯถ้าหากไม่มีงานก็จะกลับมาอยู่บ้าน ที่สันกำแพงเชียงใหม่ ช่วงเกิดเหตุเมื่อวานนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ลูกสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับเจ้านายเก่าของคนก่อเหตุ โดยได้บอกกับทีมข่าวว่า แต่ก่อนคนก่อเหตุอยู่จังหวัดกาญจนบุรีอำเภอพนมทวน คนก่อเหตุเคยก่อคดีมาก่อนมีคดีเผาป่าอ้อยและเคยแทงคนแต่ไม่ตาย แต่ก่อนที่ตนเป็นเจ้านายคนก่อเหตุเพราะว่าคนก่อเหตุมาขอทำงานและขออาศัยโดยเป็นแฟนกับลูกน้องตน

 

จากนั้นหลบหนีมาอยู่ที่เชียงใหม่ จากนั้นและมาก่อเหตุกับเหตุการณ์ล่าสุดตนมองว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการทะเลาะเบาะแว้งของเพื่อนบ้านโดยนิสัยปกติของคนก่อเหตุติดยาเสพติดและมีอาการหลอน เพิ่งมาทราบว่าคนก่อเหตุมายิงเพื่อนบ้านตาย คนก่อเหตุกับผู้ตายเป็นเพื่อนบ้านกันแต่มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

 

สุดท้ายนี้หากคนก่อเหตุฟังอยู่อยากจะบอกว่าให้มามอบตัว ถ้าหนียังไงก็ไม่พ้น ทำเค้าขนาดนี้หนีไม่ได้หรอก

 

ผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ได้ลงพื้นที่ได้ไปพบกับนายรุ่งเพชร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทางญาติได้มาแจ้งฝ่ายปกครองว่า แม่ได้หายไป ได้ออกตามหาแต่ไม่พบ ตนจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปตรวจสอบพบรอยเลือดอยู่ที่หน้าบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งมาเช่าบ้านอยู่ติดกับบ้านของผู้ตายและมีรอยเลือดถูกลากเข้าไปข้างใน จึงเข้าไปตรวจสอบพบศพของผู้ตายนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ข้างบ้านจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

 

ส่วนสาเหตุนั้น เนื่องมาจากการที่บ้านทั้ง 2 หลังเคย มีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้งและตน เคยมาไกล่เกลี่ยแล้ว สาเหตุมาจาก ทางผู้ก่อเหตุเคยมาร้องเรียนว่าทาง ลูกของผู้ตายซึ่งทำงานในเวลากลางคืน ชอบ ส่งเสียงดังและ ขี่รถมอเตอร์ไซค์เสียงดัง และเคยมีปากเสียงกัน จึงไปไกลเกลี่ยมาตลอด

 

ส่วนมือปืนคนก่อเหตุนั้นเป็นคนมาเช่าบ้านอาศัยอยู่ใน หมู่บ้านดังกล่าว เก็บตัวไม่ชอบสุงสิงกับใคร หลังจากก่อเหตุแล้วได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกซอยหลังหมู่บ้าน ไปทะลุ ออกไป ปรากฏตามกล้องวงจรปิด

เพื่อนบ้านยิงสาวนวดแผนโบราณดับ ลากศพซ่อนในบ้าน แว้น จยย.หนี