จากกรณีคดี ผอ.ระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร อยู่ในสภาพเปลือยกายใช้กางเกงผูกคอตนเองกับกิ่งมะยม ซึ่งพบพิรุธหลายอย่างซึ่งต่อมาทางทีมข่าวช่อง 8 ได้พบหลักฐานพลิกคดีที่คาดว่า ผอ. อาจถูกฆาตรกรรม นั่นคือ สมาร์ตวอตช์ของ ผอ. สัญญาณ GPS และข้อมูลดาต้าเบสโทรศัพท์มือถือ รวมถึง ภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถกระบะต้องสงสัยขับวนบริเวณลานดินที่ ผอ. ไปจอดไว้ 10 นาที รวมถึงรถ จยย. ที่ชายหญิงขี่วนลานดินใกล้กับ GPS รถของ ผอ. ขับมาที่ลานดินก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้มีการตรวจสอบกล้องเพิ่มเติม เกี่ยวกับรถกระบะ และรถมอเตอร์ไชค์ต้องสงสัยที่มีหญิงซ้อนท้าย โดยมีกล้องวงจรปิดหลังสนามยิงปืนจับภาพของรถกระบะ ขับวน เพื่อจะผ่านทะลุไปแถวบ้านคนตาย และลานดิน ซึ่งจับภาพว่ามีการวน 2 รอบ รอบแรกผ่านกล้อง 00.04 น. และผ่านรอบ 2 เวลา 01.08 น.

จากนั้น มีภาพจรปิดถนนทางเข้าอีกเส้น จากถนนใหญ่เข้าด้านข้างสหกรณ์ฯ จับภาพรถกระบะ ขับวน มุ่งหน้าไปบ้าน ผอ. และลานดิน เวลา 01.01 น. โดยเป็นเวลาใกล้เคียงกับที่สมาร์ตวอร์ต ถูกปิดเวลา ตี 1

และนอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้มีการแกะรอยตามเส้นทางของรถมอเตอร์ไซค์ปริศนา ที่เห็นชายใส่เสื้อขาวเป็นคนขับ และหญิงนั่งซ้อนท้าย โดยเบื้องต้นหลังจากที่ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อวาน ที่มีการขับออกจากแถวลานดิน และมาทำทีเหมือนขับรถหลงอยู่บริเวณสามแยก นั้น

ซึ่งหลังจากที่เห็นว่า รถมีการขับมุ่งหน้าย้อนกลับไปที่ลานดินและผ่านบ้านของ ผอ.ระพิน โดยมีกล้องวงจรปิด เวลา 00.19 น. เส้นทางเรียบแม่น้ำปิง มุ่งหน้าไปบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อกลับเข้าไปในเมืองกำแพงเพชร จับภาพรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวเอาไว้ได้ มีการขับย้อนกลับเส้นทางเดิมกับที่ ผอ. เคยขับผ่าน ตอนเวลา 23.40 น. เพื่อนกลับบ้าน โดยขี่โผล่แถวแยกลานดิน เวลา 00.06 น. และขี่กลับออกมาเข้าเมือง เวลา 00.19 น.

และจากกรณีสัญญาณมือถือ ซึ่งถูกวัดเป็นเรียลไทม์ ในมือถือของ ผอ. วันที่ 3 เม.ย. ก่อนที่จะไปที่ร้านอาหารได้มีการแวะซื้อของที่ระลึกที่ร้านในเมือง ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและกรอบรูป โดยตัวของ ผอ. และเพื่อนได้มีการมาแวะซื้อของที่ร้านดังกล่าวก่อนที่จะไปร้านอาหาร เวลาประมาณ 17.00 น.

ซึ่งทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านดังกล่าว พบว่ามีของที่ระลึก สำหรับมอบให้ในโอกาสต่าง ๆ ทั้งลักษณะเป็นกรอบรูปและกล่องกระจก และในวันที่ ผอ. พร้อมกับเพื่อนเดินทางมาซื้อของที่ระลึกนั้น มีการเลือกซื้อกรอบรูป หลวงพ่อมงคลมหาเศรษฐี ซึ่งมีการเลือกซื้อไปจำนวน 4 ชิ้น

โดยในวันที่ ผอ. เดินทางมามีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ วันที่ 3 เม.ย. เวลา 17.00 น. จะเห็นว่าตัวของ ผอ. มาพร้อมกับเพื่อนที่เป็นทหารเรือด้วยกัน เดินเข้าไปเลือกกรอบรูปภายในร้าน ก่อนที่จะมาสแกนจ่าย จากนั้นไปยืนรออยู่ที่บริเวณหน้าร้านช่วงที่มีการผูกโบว์ ก่อนเดินทางออกจากร้าน

ด้าน นางสาวปุณณมา ลูกสาวของเจ้าของร้าน เผยว่า ในวันนั้นตนเองสังเกตว่าตัวของ ผอ. เดินทางมาซื้อของที่ระลึกเพื่อจะเอาไปมอบให้เพื่อน โดยมาตามปกติซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต และมาพร้อมกับเพื่อนที่คาดว่าเป็นทหารด้วยกัน โดยตัวของ ผอ. กับแม่รู้จักกัน และเวลาที่มาเลือกซื้อของที่ระลึกไปฝากหรือมอบให้โอกาสสำคัญก็จะมาที่ร้านประจำ แต่วันนั้นตนเองเป็นคนที่เป็นคนผูกโบว์ให้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดสังเกตว่า ผอ. จะมีความเครียดหรือกลับไปในคืนนั้นจะฆ่าตัวเองตาย

ทีมข่าวช่อง 8 ยังได้รับรายงานข้อมูลหลังเปิดโทรศัพท์มือถือของ ผอ. ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลการโทรเข้าและออก โดยมีข้อมูลการโทรในช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง 3 หมายเลข ที่โทรมากที่สุด หมายเลขแรก เป็นเบอร์โทรศัพท์ปริศนาที่ไม่ได้มีการเมมชื่อในเครื่อง แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นของหญิงคนสนิท มีการโทร 145 ครั้ง , เบอร์โทรที่โทร. รองลงมา เป็นภรรยา มีการโทร 106 ครั้ง , และโทรหาหัวหน้างานในเทศบาลเมืองกำแพงเพชร จำนวน 34 ครั้ง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับเบอร์โทรปริศนา หรือเบอร์โทร. ที่ไม่มีการเมมชื่อ ซึ่งอาจเป็นเบอร์ต้องสงสัย เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ ผอ.ระพิน โดยจากข้อมูลข้อมูลพบว่าระหว่างวันที่ 1-3 เม.ย. มีเบอร์โทรศัพท์ 4 หมายเลข ซึ่งมีการโทร. เข้า-ออกโดยมีการพูดคุยกับ ผอ.

โดยในวันที่ 3 เม.ย. ทาง ผอ.ระพิน มีข้อมูลการโทร. เข้า-ออก กับเบอร์ที่ลงท้ายด้วย 8755 โดยเป็นเบอร์ของหญิงสาวคนสนิท ที่เดือนที่แล้วมีการโทร. ไม่ต่ำกว่า 145 ครั้ง โดยพบว่าวันดังกล่าวก็มีมีการโทร. หากัน 9 สาย คือ เวลา 08.39 น., 08.46 น., 09.50 น., 12.31น., 16.00 น., 16.12 น., 16.46 น., 17.01 น., และเวลา 19.44 น.

ซึ่งวันนี้ทีมข่าวได้ลองโทรศัพท์ไปยังเบอร์ที่ลงท้ายด้วย 8755 ที่เป็นเบอร์ของหญิงคนสนิท พบว่า วันนี้ยังคงปิดเครื่อง หลังจากที่เมื่อวานโทร. ติดบ้างเป็นบางช่วง ส่วนอีก 3 เบอร์ คือ เบอร์ที่ลงท้ายด้วย 1386 พบว่า เบอร์ดังกล่าว โทรไม่ติด แต่มีสัญญาณตอบกลับลักษณะแปลก "หมายเลขที่ท่านเรียกอยู่ระหว่าง การระงับการรับสาย" และหมายเลขปริศนาสุดท้ายลงท้าย 1348 พบว่าปิดเครื่อง

แต่มี 1 หมายเลข ลงท้ายด้วย 1963 ทีมข่าวสามารถโทร. พร้อมกับได้ไปพูดคุยกับเจ้าตัว ซึ่งยืนยันตัวตนเป็นอดีตลูกน้องที่รู้จักกัน ในสมัยที่ ผอ.ระพิน เคยทำงานอยู่ที่ อบจ. ก่อนย้ายไปสังกัดที่เทศบาลเทศบาลเมือง

โดย นายมน (นามสมมติ) เผยว่า ตนเองยอมรับว่าเป็นเบอร์ที่ใช้โทรศัพท์ลงท้ายด้วย 1963 ที่เป็นหนึ่งในเบอร์โทร. ที่โทร. เข้าไปหา ผอ. ก่อนที่จะเสียชีวิต โดยตนเองโทร. ไปเพราะมีเจตนาดี ไม่ได้มีเจตนาร้ายหรือเกี่ยวข้องกับการตาย เพราะวันนั้นเป็นช่วงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 1 เม.ย. ไม่ใช่วันที่ 3 เม.ย. ตอนเกิดเหตุ โดยตนเองได้มีการขับรถตามหลังรถของ ผอ. ออกจากซอยเดียวกันเพื่อที่จะไปทำงาน แต่ระหว่างที่จะจอดติดไฟแดง เห็นว่าไฟเบรกฝั่งซ้ายของรถเสียเปิดไม่ติด จึงได้มีการโทรศัพท์เข้าไปหารถของ ผอ. ที่จอดอยู่คันหน้า โดยมีการพูดคุยกันไม่ถึง 1 นาที โดยตนเองบอกว่า “ไฟท้ายซ้ายเปิดไม่ติด” ซึ่ง ผอ. ก็ขอบคุณ พร้อมกับบอกว่า “มันเสียมาสักพักแล้ว” หลังจากนั้นตัวเองก็วางสาย และส่วนตัวก็ไม่ได้กังวลใจแม้จะเป็นหนึ่งในเบอร์โทร. ปริศนา หากตำรวจสงสัยหรือเรียกสอบตนเองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ และยืนยันว่า ตนเองไม่มีเหตุปัจจัยอะไรที่จะก่อเหตุหรือทำร้าย ผอ.

สำหรับส่วนตัวในฐานะที่รู้จักกับ ผอ. คนตาย หลังจากที่เห็นข่าวก็ตกใจ และไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และไม่คิดด้วยซ้ำว่า ผอ. จะฆ่าตัวตาย เนื่องจากเจ้าตัวไม่เคยมีความเครียดหรือกังวลใจอะไร และที่สำคัญทุกครั้งที่กินเหล้าด้วยกัน ก็ไม่เคยเห็นถึงขั้นเมาต้องถอดเสื้อผ้า เพราะแม้แต่กางเกงขาสั้นตนเองยังไม่เคยเห็น ผอ. สวมใส่ เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนเนี้ยบใส่แต่กางเกงขายาว ดังนั้นจึงมองว่าค่อนข้างแปลกที่เจ้าตัวจะก่อเหตุเอง แล้วตายเปลือยแบบนั้น

สำหรับประเด็นเรื่องของหญิงสาวคนสนิทที่ตนเองก็รู้จัก เพราะเนื่องจากเคยทำงานที่ อบจ. ด้วยกัน ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะไปทำงาน อบต. ส่วน ผอ. ย้ายไปสังกัดเทศบาล แต่ในช่วงนั้นก็ไม่เคยสังเกตความผิดปกติ หรือจะคิดว่าตัวของผู้หญิงคนนั้นจะไปยุ่งเกี่ยวกับ ผอ. จนวันนี้เกิดเรื่องขึ้น และตำรวจโยงไปที่ประเด็นชู้สาว จึงทำให้มีการออกมาให้ข้อมูลรวมถึงการพูดถึงผู้หญิงคนนั้น ตนเองทราบข่าวภายหลังก็ตกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่าเพื่อนของตนเองจะไปมีพฤติกรรมแบบนี้กับ ผอ. และยังไม่ชี้ชัดว่า จะเกี่ยวข้องมากน้อยอย่างไร