จากกรณีพบศพ นายระพิน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณเทศบาลเมืองกำแพงเพชร อยู่ในสภาพเปลือยกายใช้กางเกงผูกคอตนเองกับกิ่งมะยม มีเสื้อยืดสีดำสวมอยู่ที่ปลายเท้า ด้านบนระเบียงบ้านพบเสื้อผ้า รองเท้า ซึ่งเป็นชุดทำงานของผู้ตายถอดวางไว้ รวมทั้งทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายยังคงวางอยู่บริเวณดังกล่าว และจากกรณีเสียชีวิตดังกล่าวครอบครัวยังคงติดใจเกี่ยวกับลักษณะการตาย นั้น

วันนี้ (7 เม.ย. 2567) ที่บ้านที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของ ผอ.ระพิน ภรรยาและลูกได้มีการเดินทางมาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณ ซึ่งหลังเกิดเหตุเพิ่งจะมีการเดินทางมาในวันนี้ โดยการเชิญดวงวิญญาณนั้นได้มีการแจกธูปให้กับคนในครอบครัว จากนั้นให้ภรรยาและลูกมีการปักธูปตรงของเส้นไหว้บริเวณลานกว้างหน้าบ้าน เพราะเนื่องจากเข้าไปบริเวณใกล้ตัวบ้านยังไม่ได้ ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจวัตถุพยานเพิ่มเติม

จากนั้นภายหลังเชิญดวงวิญญาณเสร็จ เวลาประมาณ 09.40 น. ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาทำการตรวจพยานแวดล้อมและวัตถุพยานเพิ่มเติมภายในบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมกับมีการเปิดรถของคนตายเพื่อมีการตรวจหาหลักฐานเชื่อมโยงในคดีเพิ่มเติม และมีทรัพย์สินบางอย่าง อาทิ เงินสด เครื่องรางของขลังที่อยู่ในรถ และบัตรประจำตัว เจ้าหน้าที่ได้มีการนำใส่ถุงและคืนให้กับภรรยา แต่ส่วนเรื่องของของและรายละเอียดอื่นภายในรถอยู่ระหว่างการเก็บเพิ่มเติม

ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้มีมีการเก็บวัตถุพยานเพิ่มและหลักฐานเพิ่มเติมภายในรถของ ผอ.ระพิน และเพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 12.30 น. โดยการเข้าไปตรวจภายในรถของผอ. นั้น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีการตรวจล้อรถทั้งสี่ล้อ บริเวณด้านหน้ารถ และในตัวรถ ซึ่งเน้นที่ตำแหน่งคนโดยสารด้านหน้า 1 จุด ด้านหลัง 2 จุด เพื่อหาดีเอ็นเอแฝงในการเชื่อมโยงหากพบว่าเกิดการฆาตกรรม จากนั้นตำรวจพิสูจน์หลักฐานก็ได้มีการตรวจรับทรัพย์สินของคนตาย จากภรรยา อาทิ กระเป๋าตังค์ พระเครื่อง ซึ่งอยู่ในรถรวมถึงในกระเป๋ากางเกง โดยนำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝง อีกครั้งได้มีการนำกางเกงในของคนตายไปตรวจเพิ่ม

ซึ่งระหว่างที่มีการตรวจวัตถุพยานภายในบ้าน มีช่วงหนึ่งที่ภรรยาและลูกชายของคนตาย ได้เข้าไปพูดคุยกับทีมสอบสวนและสืบสวน ที่ทำคดีตั้งแต่แรก โดยภรรยาได้เข้าไปสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของพนักงานสอบสวนในการเก็บหลักฐาน ซึ่งภรรยาสอบถามทำนองว่า “ทำไมตำรวจถึงทำงานไม่รอบคอบ ไม่ยอมเก็บเสื้อผ้าชุดที่คนตายใส่ในวันที่ไปกินเลี้ยงไปตรวจสอบ ไม่ยอมเก็บหลักฐานภายในรถ และไม่มีการป้องกันพื้นที่เกิดเหตุ แล้ววันนี้เพิ่งจะเข้ามาตรวจสอบ” ระหว่างนั้นเกิดการโต้เถียง ซึ่งภรรยามีการตำหนิทีมสอบสวน

จนกระทั่ง พ.ต.อ.นเรศ พูลหน่าย รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร ในฐานะหัวหน้าทีมที่ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุในวันนี้ ได้เข้ามาพูดคุยกับทางภรรยาและลูกชาย โดยมีการยอมรับและคุยกับญาติว่า “ พนักงานสอบสวนอ่อนประสบการณ์” จนทำให้ญาติไม่พอใจมีการโต้เถียงอีกครั้ง ทำนองว่า พนักงานสอบสวนกำลังจะเกษียณ ทำไมถึงใช้คำว่าประสบการณ์

ระหว่างนั้น พ.ต.อ.นเรศ ก็พยามอธิบายเกี่ยวกับการเก็บวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานอธิบายเหตุและผล ให้สอดคล้องกับวัตถุพยานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นที่ตรวจพบ โดยเข้าใจว่าคนตายอาจจะกลับมาถึงบ้าน และถอดเสื้อผ้าเตรียมจะอาบน้ำ แต่ระหว่างที่กำลังเปิดเข้าไปภายในบ้านนั้น อาจจะปวดท้องจึงได้วิ่งไปที่หลังบ้าน แต่ท้องเสีย แล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ก่อนที่จะจะมีอาการน้อยใจจากอะไรบางอย่างแล้วตัดสินใจผูกคอตายหรือไม่

ซึ่งหลังจากที่ภรรยาของคนตาย ทราบประเด็นดังกล่าวจาก พ.ต.อ.นเรศ ก็ถึงกับไม่พอใจอีกครั้ง และยังมีการ ขึ้นเสียงคุยกันระดับหนึ่ง จนดับให้ลูกชายต้องมีการอธิบายในหลักการของแพทย์เกี่ยวกับสิ่งที่พบ และภรรยาก็พูดถึงแรงจูงใจว่ามันไม่มีเหตุใดที่สามีจะฆ่าตัวตายได้ ยังคงเชื่อว่ามีบุคคลอื่น

และหลังจากที่ พ.ต.อ.นเรศ ได้มีการพูดคุยกับภรรยาและลูกชายของคนตายแล้ว ภรรยาได้หันมาที่กล้องของทีมข่าวช่อง 8 พร้อมกับพูดเหน็บแนมว่า “ตำรวจมีประสบการณ์ นักข่าวมีประสบการณ์ไหม ต้องไปเรียนฝึกประสบการณ์ใหม่แล้วมั้งนักข่าว”

และช่วงหนึ่งหลังจากที่มีการตรวจที่เกิดเหตุเสร็จแล้ว ทางด้านของ พ.ต.อ.นเรศ ได้เดินไปพูดคุยกับทางครอบครัวและภรรยาของคนตาย เพื่อที่จะอธิบายเกี่ยวกับหลักการการทำงานของตำรวจ และรวมถึงการเก็บพยานในที่เกิด ว่า จะต้องมีการรอตรวจจากผลดีเอ็นเอ และที่สำคัญมีความเป็นไปได้สูงที่คนตายอาจจะผูกคอตายเอง เนื่องจากอาจมีภาวะซึมเศร้าโดยที่ครอบครัวไม่รู้

ระหว่างนั้นทางด้านของลูกชายซึ่งเป็นหมอ ได้มีการพูดแทรกขึ้นมาทันที โดยมีการสอบถามเกี่ยวกับน้ำหนักส่วนสูงของ พ.ต.อ.นเรศ ซึ่งทราบว่า น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 70 ถึง 80 กิโล ลูกชายจึงบอกว่าเป็นน้ำหนักที่ตรงกับตัวของพ่อ ดังนั้นเราลองทดสอบสาธิตกันไหม ซึ่งระหว่างนั้น พ.ต.อ.นเรศ ก็รับปากกับทางลูกชาย แล้วพากันเดินไปที่ใต้ต้นมะยม ลักษณะเหมือนจะเป็นการทดสอบผูกคอ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเนื่องจากไม่มีใครกล้าทำ จึงทำให้เป็นเพียงแค่การท้าทายกันระหว่างครอบครัวคนตายกับทางตำรวจเท่านั้น