เมื่อคืน (6 เม.ย.) เวลา 02.28 น. เกิดเหตุชายหนุ่มถูกรุมฟันแทงและฟันเข้ากลางอก ก่อนรีบวิ่งหนีตายหลบหนีเข้าหลังพุ่มไม้

ทราบชื่อ ต่อมาคือ นายพงษ์ศธร อายุ 25 ปี มีอาชีพเป็นไรเดอร์ ขณะเกิดเหตุตอนนั้น ไปรับแฟนที่เพิ่งเลิกงานกลับบ้าน มาจากสุขุมวิท ขับตรงมามุ่งหน้ารามคำแหง ผ่านทางซอยชุมชนโรงปูน ถนนเพชรพระราม บางกะปิ

จากภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นได้ว่า น้องพงษ์ศธร สวมเสื้อสีดำ ลายจุดสีขาว กางเกงยีนขายาว ขับรถมอเตอร์ไซต์ Honda เวฟ 125 มา โดยตัวเองเป็นคนขับ แฟนสาว และเพื่อนแฟนซ้อนท้าย ผ่านบริเวณริมทางรถไฟหมู่บ้านโรงปูน ก่อนเลี้ยวเข้าไปทางเลียบแอร์พอร์ตลิ้งค์รามคำแหงไปถึงจุดเกิดเหตุ ห่างกันเพียง 200 เมตร ซึ่งขณะนั้นเองมีรถมอเตอร์ไซต์ 2 คัน ไม่ทราบยี่ห้อ ขับตามกันมาติดๆ ซ้อนกันมา คันล่ะ 2 คน พร้อมอาวุธมีดดาบ และไม้เบสบอล

เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณเลียบแอร์พอร์ตลิ้งค์รามคำแหง ตรงข้ามตึก UM Tower มีรถชายปริศนา สองคันที่ตามมา สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขับเข้ามาในระยะประชิด รถคันแรกใช้ไม้เบสบอล ฟาดเข้ากลางรถของน้องพงษ์ศธร ก่อนจะถีบรถให้ล้มลง จากนั้นรถคันที่ 2 จอดและรีบลงไปทำร้าย และผู้ก่อเหตุคันแรกที่จอดอยู่ด้านหน้า ก็วิ่งลงมาสมทบ พร้อมไม้เบสบอลและมีดยาว ประมาณ 1 ฟุต ฟันเข้ากลางหน้าอกของคนเจ็บ จนเสื้อขาดซี่โครงโผล่ เป็นแผลเหวอะ และแทงเข้าบริเวณหลัง 2 แผล จากนั้นก็รุมกระทืบ

แต่น้องคนเจ็บได้จังหวะ หนีข้ามฝั่งออกมาได้ รีบวิ่งเข้าไปหลบในศูนย์ Volvo หลังพุ่มไม้เดินเลียบๆไป ผู้ก่อเหตุที่ถือไม้เบสบอล วิ่งตามไป แต่ก็วิ่งกลับมาคว้ามอเตอร์ไซค์ขับตามมา

ด้านผู้ก่อเหตุจอดรถและเหมือนจะข้ามถนนเพื่อวิ่งมาตามมาทำร้ายต่อ แต่เนื่องจากมีคนกำลังขับรถมา จึงข้ามกลับไป ก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีไป

จากนั้นนายพงษ์ศธร ผู้บาดเจ็บก็ถอดเสื้อออก และนอนฟุบลงบริเวณหลังพุ่มไม้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รีบออกมาดู และประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยร่วมกตัญญูเข้าให้การช่วยเหลือ

ด้านคุณแม่ สกุณา อายุ 57 ปี เผยกับทางทีมข่าวว่า ลูกเป็นเด็กดีขยันทำมาหากิน มีอาชีพขับไรเดอร์ ปกติอาศัยอยู่กับตัวเอง แต่ในทุกวันประมาณเวลาตี 1 - ตี 2 ก็จะขับรถไปรับแฟนซึ่งทำงานกลางคืน อยู่บริเวณถนนสุขุมวิทเป็นประจำอยู่แล้ว วันเกิดเหตุแม่ได้รับแจ้งจากแฟนสาวของลูกว่า ลูกถูกแทง นำตัวส่ง รพ.เรียบร้อยแล้ว จึงรีบเดินทางมาหา ไม่กล้าดูบาดแผล เพราะกลัวทำใจไม่ได้ ได้แต่นำเสื้อของลูกไปซัก เห็นรอยเสื้อขาดเป็นทางยาว ก็พอจะทราบได้ว่ามีแผลเหวอะบริเวณใต้ราวนม

ส่วนด้านปมก่อเหตุในครั้งนี้ ตัวเองไม่ทราบเลย เพราะปกติลูกเป็นคนเงียบๆ หลังจากพ่อเสียก็ไม่ค่อยพูดกับใคร มีใจร้อนบ้าง แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ขยันทำมาหากิน ส่วนสาเหตุจะมาจากแฟนสาวของลูกหรือไม่ ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ด้วยแฟนของลูกหน้าตาดี และทำงานกลางคืน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีปัญหาเขม่นกัน

อาการล่าสุดของลูกตอนนี้ ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว พอจะสื่อสารได้บ้าง แต่ก็ยังเบลอๆ ต้องคอยสังเกตและอัพเดทอาการวันต่อวัน

ในส่วนของด้านคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายแต่ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพราะสิ่งที่ลูกโดนมันสาหัสเกินไป ทั้งรุมฟันทั้งรุมแทง คือการพยายามฆ่าด้วยซ้ำ