จากกรณีตำรวจ สภ.กันทรอม ได้รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตอยู่ในบ่อเกรอะหลังส้วมของบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 12 ต.โพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ตรวจสอบบริเวณส้วมที่ตั้งอยู่หลังบ้านภายในบ่อเกรอะ พบร่างชายวัยกลางคน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมิง  อายุ 40 ปี  จมอยู่ในบ่อเกรอะลักษณะยืนก้มหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำร่างผู้ตายขึ้นมาจากบ่อเพื่อตรวจพิสูจน์ จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่ากะโหลกซ้ายยุบ มีรอยช้ำที่คอ ลิ้นจุกปาก 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่มาที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซึ่งพบว่า ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม และนำโทรศัพท์ของคนตายมาตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือจุดที่เจอศพ จุดที่เจอรองเท้าบูทของผู้เสียชีวิต รวมทั้งจุดที่โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตตกอยู่ เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม

นอกจากนี้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ก็ได้เดินทางมาที่บ้านของยายมี เพื่อตรวจวัดพื้นที่ เตรียมสร้างห้องน้ำใหม่ให้กับคุณยายด้วยเนื่องจากนางมีไม่กล้าใช้ห้องน้ำเดิม โดยได้ประเมินราคาสร้างห้องน้ำไว้ที่ 20,000 บาท

ขณะเดียวกันเราได้พูดคุยกับนายสุวรรณ ผญบ.โพธิ์กระสัง เผยว่า ล่าสุดวันนี้พบรองเท้าบูทของคนตาย จำนวน 1 คู่ตกอยู่ข้างบ้านของนางหนึ่ง ห่างจากจุดพบศพ ประมาณ 100 เมตร และห่างจากจุดเจอโทรศัพท์มือถือผู้ตาย 100 เมตร ห่างจากจุดเจอรถอีแต๊กประมาณ 1 กิโลเมตร

ส่วนชาวบ้านที่อยู่ ในบริเวณที่เกิดเหตุส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่ทำไร่ทำนาแล้วจะกลับเข้าบ้านมาอีกทีคือในช่วงเย็น

ขณะเดียวกัน เราได้สอบถามผู้ใหญ่บ้านเกี่ยวกับสภาพบ่อส้วมของนางมีที่ไปเจอตอนแรก ก่อนที่จะมีการนำศพขึ้นมา ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบอกว่า บ่อส้วมนางมีสร้างมานานหลายปี สภาพบ่อจึงค่อนข้างผุพัง เนื่องจากถูกกัดกร่อน แต่ฝาท่อยังอยู่ในสภาพไม่ชำรุด อีกทั้งฝาท่อบ่อส้วมของนางมีไม่ได้ถูกปิดสนิท ซึ่งตอนนี้ตนเองสงสัยอยู่สองประเด็น คือผู้ตายอาจจะวิ่งหนีใครมาและตกลงไปและส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือถูกฆาตกรรมและนำมาทิ้งที่บ่อส้วมของนางมี

ส่วนผู้ตายมีนิสัยไม่ค่อยสุงสิงกับใคร โดยเฉพาะเวลากินเหล้าก็มักจะกินคนเดียว แต่ที่ตนเองสงสัยคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เนื่องจากยอมรับว่าก่อนหน้านี้หน้านั้นในหมู่บ้านมีวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเป็นจำนวนมาก

ต่อมานายสุวรรณ ผญบ.โพธิ์กระสัง ได้พาเราไปดูจุดที่พบรองเท้าบูทของคนตายตกอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า อยู่บริเวณข้างบ้านของนางหนึ่ง ชาวบ้านในหมู่บ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่อาศัย โดยจุดนี้อยู่ห่างจากจุดที่พบศพศพ 100 เมตร และอยู่ห่างจากจุดที่พบโทรศัพท์มือถือตกประมาณ 100 เมตร แต่อยู่ห่างจากจุดที่รถอีแต๊กน้ำมันหมด ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณดังกล่าวจากการสำรวจไม่พบรอยคราบเลือดในจุดที่พบรองเท้าบูท และไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย

ซึ่งจากการสำรวจเส้นทาง คาดว่า หลังจากที่ผู้ตายขับรถอีแต๊กออกจากฟาร์มและได้ไปน้ำมันหมดอยู่ระหว่างบ้านของนางจันทร์หอม พยานที่ได้คุยกับผู้ตายคนสุดท้าย จากนั้นผู้ตายได้เดินตามถนนคอนกรีตเข้ามาในหมู่บ้านโพธิ์กระสัง ก่อนที่จะมาทำโทรศัพท์มือถือตกห่างจากบ้านของนางจันทร์หอมเกือบ 1 กิโลเมตร จากนั้นได้วิ่งผ่านหลังบ้านของนางหนึ่ง จุดที่เจอรองเท้าบูทตกอยู่ ซึ่งจุดนี้สอดคล้องกับคำให้การของนางรส แต้มงาม พยานที่ผู้ตายวิ่งลัดรอบทุ่ง ก่อนจะวิ่งตรงเข้าไปในซอยที่เกิดเหตุ จนกระทั่งมาพบศพอยู่ในบ่อส้วมหลังบ้านนางมี ซึ่งจากการสันนิษฐานคาดว่าผู้ตายน่าจะเจอกับคนร้ายในระหว่างที่เดินจากบ้านนางจันทร์หอมเข้ามาในหมู่บ้านโพธิ์กระสัง จากนั้นก็ได้วิ่งหนีจนทำให้โทรศัพท์ตกระหว่างทาง และทำรองเท้าบูทหลุดในระหว่างที่วิ่งลัดทุ่งจะเข้าไปในซอยบ้านที่เกิดเหตุ

ขณะเดียวกันเราได้พูดคุยกับนางบุศกร  แม่ของผู้ตาย ที่วันนี้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติม เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรศพเบื้องต้นระบุว่า นายสมิง อายุ 40 ปี ลูกชายถูกฆาตกรรม ส่วนปมเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทั้งนี้ตนเองยังคงสงสัยคนในพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุจะมีส่วนรู้เห็น เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีบ้านคนอยู่ติดกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียง รวมไปถึงคำให้การของพยานที่ระบุว่าไม่รู้จักลูกชายตนเอง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะลูกชายอยู่ที่หมู่บ้านนั้นจนเติบโตค่อยมาอยู่กับตน ตอนตนเองแยกทางกับสามี

นางบุศกร บอกกับเราว่า ตนเองยอมรับว่าสมัยก่อนลูกชายมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และในปัจจุบันตนเองก็เชื่อว่าลูกยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพราะลูกชายไม่ได้ให้เงินตนเองใช้มาหลายเดือนแล้ว ตนจึงคาดว่าวันเกิดเหตุลูกชายจะไปเจอกับกลุ่มค้ายาเสพติด และถูกไล่ทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนจะนำร่างไปหมกบ่อส้วม

นอกจากนี้แม่คนตาย ยังบอกกับเราอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ลูกสาวกำลังขับรถมาจากกรุงเทพ ได้เล่าให้ฟังว่า ได้กลิ่นเหม็นเน่าภายในรถ และลูกสาวก็มีอาการแปลกๆ คล้ายกับจะถูกผีเข้าและจะร้องไห้ ซึ่งลูกสาวก็เชื่อว่าเป็นพี่ชายที่เสียชีวิต จึงได้กำสร้อยพระและบอกให้คนตายไปสู่สุขคติ ซึ่งหลังจากที่ลูกสาวมาเล่าให้ฟัง ตนชื่อเต็ม 100 ว่าเป็นลูกชายแน่นอน ที่ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ตัวญาติพี่น้อง เพราะต้องการทวงความยุติธรรมให้กับตนเอง

ต่อมา เราได้เดินทางมาที่สภ. กันทรอม และได้พบกับด.ช.ไผ่ (นามสมมติ) คนที่เก็บโทรศัพท์ของคนตายได้เล่าให้เราฟังว่าในช่วงเย็น ของวันที่ 3 เมษายน ในขณะที่ตนเองกำลังไล่ต้อนวัวกลับบ้าน ระหว่างทางเจอโทรศัพท์สีเขียวอ่อน ตกอยู่ข้างทางในลักษณะหน้าจอคว่ำอยู่ จึงได้หยิบขึ้นมาดูก็พบว่าหน้าจอโทรศัพท์มือถือแตกและแบตหมด จึงได้เก็บเอาโทรศัพท์มือถือ กลับมาที่บ้าน ก่อนจะนำมาชาร์จแบตและลองเปิดเครื่องดูก็พบว่าเปิดติด ซึ่งหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้เปิดดูข้างใน ก่อนจะเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่หน้าตะกร้ารถจักรยานยนต์

สักพักไม่นานก็มีสายโทรเข้า ตนจึงให้ยายเป็นคนรับสาย ซึ่งยายได้มาบอกตนเองทีหลังว่าโทรศัพท์เครื่องที่ตนเองเก็บได้เป็นของนายสมิงที่หายตัวไปและตอนนี้ทางญาติกำลังตามหาตัวอยู่

น้องไผ่ยังบอกเราอีกว่าในระหว่างที่ไล่ต้อนวัวกลับเข้าคอกตนเองไม่เห็นสิ่งผิดปกติหรือเห็นบุคคลต้องสงสัย ใกล้กับจุดที่ตนเองเจอโทรศัพท์ตกอยู่