จากกรณีเพจร้านชาบูแห่งหนึ่ง ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมระบุข้อความเล่าเหตุการณ์ที่ครอบครัวหนึ่งมากินชาบู จากนั้นได้โวยวายพนักงานร้านบอกว่าเจอทิชชูในหม้อ แต่เมื่อร้านเช็กวงจรปิดดูแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่ครอบครัวนี้กล่าวหา

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดในวันที่ 3 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 21.20 น. จะเห็นว่าโต๊ะของลูกค้ารายหนึ่งมีกันทั้งหมด 3 คน คือผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน จากนั้นผู้หญิงเสื้อสีม่วงได้มีการหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปาก ก่อนจะโยนใส่ไปในถาดอาหาร แล้วไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น หญิงคนเดิมก็ได้ใช้ตะเกียบคีบทิชชูชิ้นเดิมลงไปจุ่มในหม้อชาบู ลักษณะเหมือนกำลังจะลวกเนื้อหมู แล้วก็หยิบขึ้นมาใส่ในจานของตัวเอง ก่อนจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้นตามที่เป็นข่าว นั้น

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังร้านชาบูดังกล่าว ในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และได้พูดคุยกับ น.ส.ดวงกมล ผู้จัดการร้าน เผยว่า วันที่เกิดเหตุมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ร้าน 3 คน โดยเป็นผู้ใหญ่ 2 คน เด็ก 1 คน หลังจากที่ลูกค้านั่งทานอาหารไปสักพักก็มีการเรียกพนักงานเข้าไปคุย โดยลูกค้าได้โวยวายเรื่องมีทิชชูในหม้อชาบู

ตอนนั้นตนรู้สึกตกใจและรีบเข้าไปขอโทษลูกค้า พร้อมกับยื่นข้อเสนอจะทำการเปลี่ยนหม้อให้ แต่ก็เหมือนลูกค้าจะยังไม่พอใจ และได้เบี่ยงประเด็นไปติเรื่องปูอัดรสชาติเปลี่ยน ซึ่งตนและในครัวชิมแล้วพบว่ารสชาติปูอัดปกติดี ตอนนั้นตนจึงยื่นข้อเสนอใหม่บอกว่าจะลดราคาค่าหัวของลูกค้าที่เป็นเด็ก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจขอเช็กบิล แต่ก็ยังมีการโวยวายเสียงดัง จนลูกค้าโต๊ะอื่นรวมถึงพนักงานในร้านตกใจ หลังจากนั้นลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มทยอยเช็กบิลต่อ

เมื่อจัดการปัญหาทุกอย่างแล้ว ตนจึงได้กลับไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และพบว่าทิชชูที่อยู่ในหม้อชาบูนั้นไม่ใช่ความผิดพลาดของพนักงาน แต่ลูกค้านั้นเป็นคนคีบและนำใส่ลงไปในหม้อชาบูเอง หลังจากเห็นดังนั้นตนจึงตัดสินใจนำภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดลงไปโพสต์บนเพจของร้าน โดยจุดประสงค์ที่ตนต้องการโพสต์นั้นไม่ได้เพื่อที่จะโจมตีลูกค้า แต่ทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงของร้านและปกป้องพนักงานภายในร้าน

และหลังจากที่ได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวไป ทางด้านลูกค้าก็ได้มีการเดินทางเข้ามาพูดคุยที่ร้านเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา แต่ลูกค้านั้นไม่ได้เข้ามาขอโทษหรือพูดคุยเกี่ยวกับการแสดงความรับผิดชอบต่อชื่อเสียงของร้าน แต่ลูกค้ากลับพูดทำนองว่าไม่พอใจที่ร้านนำภาพเหตุการณ์ไปโพสต์ โดยมีการบอกว่าจะทำให้เขาเสียหาย ซึ่งทางร้านขอยืนยันว่าไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำให้ใครเสียหาย แต่ทางร้านต้องออกมาปกป้องชื่อเสียงของร้าน เพราะในวันที่เกิดเรื่องก็มีลูกค้าหลายคนที่เห็นเหตุการณ์

สุดท้ายก็อยากจะขอฝากถึงลูกค้าทุกคนว่าทางร้านตั้งใจที่จะคัดสรรวัตถุดิบดี ๆ และมีคุณภาพให้กับลูกค้าอยู่แล้ว เราทุกคนตั้งใจทำงานและไม่ได้อยากให้เกิดปัญหาใด ๆ อยากขอให้ลูกค้ากลับมาเชื่อมั่นต่อร้านของเราอีกครั้ง

ล่าสุดทางร้านชาบูได้ออกหนังสือชี้แจง ว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางร้านจะดำเนินคดีกับลูกค้ารายนี้ทั้งทางแพ่งและอาญา เพราะถือว่าทำให้ร้านเสื่อมเสียชื่อเสียง และเพื่อป้องกันมิให้บุคคลใด ๆ มีการกระทำดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นนี้กับทางร้านและร้านอื่น ๆ อีก

ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับ อีฟ (นามสมมติ) ลูกค้าที่โวยวายกับทางร้านชาบู เผยว่า เอาจริง ๆ อยากจะขอโทษ ตนไม่ได้มีเจตนาโกงค่าชาบูเลย ส่วนประเด็นเจอทิชชูในหม้อ ความจริงตอนนั้นเป็นจังหวะที่ตนหันไปเล่นโทรศัพท์มือถือ และก็ลืมไปว่าถาดอาหารมันหมดแล้วตนก็ทิ้งทิชชูเอาไว้ในถาด ด้วยความที่เล่นมือถือเพลิน ๆ ตนจึงเอาตะเกียบคีบเข้าไปในถาดคิดว่าทิชชูเป็นอาหารก็เลยเอาไปจุ่มลงหม้อ

จากนั้นตนก็ยังเล่นโทรศัพท์ต่อ แล้วก็หยิบทิชชูที่คิดว่าเป็นอาหารมาใส่จาน จากนั้นตนเลยเลิกเล่นโทรศัพท์เพื่อจะกินอาหาร แต่พอมองไปที่จานจึงเห็นว่าเป็นทิชชู จึงคิดว่าทิชชูมันมาจากในหม้อตั้งแต่แรก จึงโวยวายออกไป ยอมรับว่าตอนนั้นตนไม่ได้ด่าพนักงาน แต่ด้วยความที่ตนเองเป็นคนพูดห้วน ๆ เสียงมันก็เลยดัง อยากจะขอความเห็นใจกับสังคมด้วย