กรณีเมื่อเวลา 14:00 น. ของวันที่ 2 เม.ย. ตำรวจ สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุมีชายถือปืนคลั่ง พยามยิงลูกศิษย์วัดหนองใหญ่ เขตสายไหม กรุงเทพฯ โดยเบื้องต้นเป็นการยิงเปิดทางออกจากวัด เพื่อหลบหนี หลังมีการก่อเหตุภายในวัด เบื้องต้นตำรวจทราบชื่อคือ นายชัยรัตน์ หรือเสี่ยเอิร์ธ ออเงิน ซึ่งหลังก่อเหตุได้มีการขึ้นรถมาสด้าสีดำหนีออกไป และจากเหตุการณ์ครั้งนี้มีรถส่งดอกไม้และรวมถึงชาวบ้านได้รับความเสียหายจากเหตุรถพุ่งชนนั้น

วันนี้ 4 เม.ย.67 มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 ร่วมกับฝ่ายสืบสวนสน. คันนายาว ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมห้องพัก ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่า นายชัยรัตน์ ได้หลบหนีพักอาศัยยังห้องเช่าแห่งนี้ ใช้เวลาปิดล้อมประมาณ 10 นาทีก่อนนายเอิร์ธ จะยอมจำนนเดินยกมือออกมาจากห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ซึ่งอยู่ระหว่างควบคุมตัวไปทำการตรวจค้นอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ จากนั้นได้นำตัวมาสอบสวนที่ สน. คันนายาว

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับพระบอย (นามสมมติ) พระลูกวัดที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 10:00 น. ตัวเองเห็น นายเอิร์ธนั่งรถเก๋ง คันสีดำ มากับเพื่อนชายหนึ่งคน ก่อนที่เค้าจะขึ้นมาใส่บาตรที่กุฏิของพระรุ่นน้องที่เพิ่งบวชใหม่ ซึ่งตอนนั้นตัวเองก็เห็นว่าทั้งสองคนพูดคุยกันตามปกติ ไม่ได้มีเหตุทะเลาะอะไรกันเลย

กระทั่งเวลาประมาณ 11 โมงกว่าๆ เกือบเที่ยง ตัวเองเห็นนายเอิร์ธ ได้พูดคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสียงดัง และมีอาการโมโห มีอาการคลั่งขณะที่เขาคุยโทรศัพท์ ก่อนที่ตัวเองจะเห็นนายเอิร์ธ เขาเดินเดินลงไปจากกุฏิ แล้วก็เอาปืนไปจ่อยิงชาวบ้าน (ชายเสื้อขาว) ที่เดินทางมาทำบุญ โดยตอนที่เขายิงชายเสื้อขาวนั้น กระสุนปืนไม่ออก จากนั้นนายเอิร์ธได้ไปก่อเหตุยิงที่บริเวณหน้าปากซอยทางเข้าวัด มีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด แล้วก็นั่งรถเก๋งคันสีดำหลบหนีไป

ส่วนปมในการก่อเหตุครั้งนี้นั้น จากที่ตัวเองได้ยินเสียงนายเอิร์ธคุยโทรศัพท์ เหมือนเขาคุยกับใครบางคนที่กำลังตามหาเขาอยู่ และเหมือนว่าบุคคลนั้นกำลังตามมาจะถึงวัดแล้ว ตัวเองจึงคาดว่านายเอิร์ธเขาได้เกิดอาการคลั่ง เพราะกลัวคนมาตาม พอเดินออกไปเจอกับคนขับรถกระบะตู้ทึบ ที่มาส่งของ จึงคิดว่าคนนั้นเป็นคนมาตามหาเขาหรือไม่ เขาถึงได้ก่อเหตุ ยิงปืนที่บริเวณหน้าปากทางเข้าวัด

ส่วนประเด็นที่ว่า นายเอิร์ธมาทวงค่ากัญชากับพระที่บวชใหม่นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตอน ที่เกิดเหตุนั้น นายเอิร์ธเขาไม่ได้ทะเลาะกับพระรูปดังกล่าวแม้แต่นิดเดียวเลย ตัวเองก็อยู่ในเหตุการณ์ แต่เขาทะเลาะกับคนที่อยู่ในสายโทรศัพท์

ซึ่งหลังจากหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาเชิญพระรุ่นน้องของนายเอิร์ธ ไปสอบปากคำ รวมถึงตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ ตรวจแชตในโทรศัพท์มือถือ และตรวจสเตทเมนท์ในบัญชีของพระรูปดังกล่าวแล้ว ก็ไม่ปรากฏเห็นว่าเกี่ยวข้องกับการซื้อขายกัญชา และไม่เจอสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด ตำรวจจึงปล่อยตัวพระรูปดังกล่าวกลับมาที่วัดตั้งแต่เมื่อวาน เพราะถ้าหากพระรูปดังกล่าวเค้ามีความผิดจริง เขาก็คงถูกควบคุมตัวไว้แล้ว