จากกรณีตำรวจ สภ.กันทรอม ได้รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตอยู่ในบ่อเกรอะหลังส้วมของบ้านหลังหนึ่ง ต.โพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ตรวจสอบบริเวณส้วมที่ตั้งอยู่หลังบ้านภายในบ่อเกรอะ พบร่างชายวัยกลางคน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมิง อายุ 40 ปี จมอยู่ในบ่อเกรอะลักษณะยืนก้มหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำร่างผู้ตายขึ้นมาจากบ่อเพื่อตรวจพิสูจน์ จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่ากะโหลกซ้ายยุบ มีรอยช้ำที่คอ ลิ้นจุกปาก

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า ฝาท่อบ่อเกรอะมีลักษณะความกว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60 เซนติเมตร ความลึกประมาณ 160 เซนติเมตร (4ท่อซีเมนต์)

 

ส่วนการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธหรือรอยคราบเลือด โดยในเบื้องต้นได้มีการเรียกสอบปากคำบุคคลใกล้ชิดกับคนตาย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งผ่านพิสูจน์ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ

 

ขณะเดียวกันเราได้ไปสอบถามนางมี อายุ 82 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งพิการทางสายตา เล่าว่า ช่วงวันที่ 1 ตนเองนั่งเล่นอยู่แคร่หน้าบ้าน ส่วนบ่อเกรอะอยู่บริเวณหลังบ้าน ตอนนั้นไม่ได้ยินเสียงคนวิ่งมา หรือเสียงคนร้องเอะอะโวยวายแต่อย่างใด

 

จนเมื่อประมาณสองวันก่อนตนเองนอนอยู่ที่ห้องนอนใต้ถุนบ้านติดอยู่กับห้องน้ำได้กลิ่นเหม็นเน่า ในตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจนึกว่าเป็นกลิ่นของซากสัตว์ที่ตาย จึงได้ไปบอกเพื่อนบ้านให้ออกไปตามหาซากสัตว์ เพื่อจะนำไปฝัง แต่ก็ไม่เจอต้นตอของกลิ่นเหม็นเน่า

 

จนเพื่อนบ้านมาถามว่าตนเองที่บ้านส้วมเต็มหรือดูดส้วมไหม เพราะกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงจนไม่สามารถกินข้าวลง ตนเองจึงเริ่มมาเอะใจ จึงได้ไปบอกเพื่อนบ้านให้ออกตามหาสาเหตุของกลิ่นเหม็นเน่า จนกระทั่งมาพบว่ามีคนตายอยู่บ่อเกรอะตนเอง

 

ส่วนฝาท่อบ่อเกรอะตนเองก็ไม่ทราบว่าได้ปิดสนิทหรือไม่ เนื่องจากว่าหลานเป็นคนทำ อีกทั้งตนเองมองไม่เห็น จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในบ้าน

 

เปิดภาพสุดท้าย พบคนตายขับอีแต๊ก ออกจากฟาร์ม ก่อนน้ำมันหมด และพบเสียชีวิตปริศนาในบ่อเกรอะหลังบ้านชาวบ้าน

 

ต่อมาเราได้ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในฟาร์มวัว พบว่า วันที่ 1 เมษายน ก่อนหายตัวไป ช่วงเวลา ตั้งแต่ 17:04 น. พบผู้ตายเลี้ยงวัวอยู่ที่ฟาร์ม เห็นเดินไปเดินมาอยู่บริเวณ ภายในฟาร์ม

 

จากนั้นเวลา 17.13 น. ผู้ตายได้สตาร์ทเครื่องรถไถนาเดินตาม แล้วก็ขับออกจากฟาร์มไปช่วง 17:14 น.

 

จากนั้นกล้องอีกตัวภายในหมู่บ้านสามารถจับภาพของคนตายขับรถอีแต๊กผ่านช่วงเวลา 17.29 น. 1 เมษายน ซึ่งห่างจากจุดที่พบรถอีแต๊กจอดทิ้งไว้ประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายที่พบผู้ตาย ก่อนถูกพบเป็นศพเสียชีวิตปริศนาในบ่อเกรอะ

 

ต่อมาเราได้เดินทางไปคุย นางบุศกร อายุ 56 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ก่อนลูกชายได้หายตัวไปได้ไปทำงานอยู่ที่ฟาร์ม ก่อนจะออกจากฟาร์มมาประมาณ 6 โมงเย็น จากนั้นลูกชายได้โทรศัพท์มาหาตนเอง 5 สาย แต่ตนเองไม่ได้รับสาย เนื่องจากว่าชาร์จแบตอยู่ในบ้าน และตนเองก็ออกไปทำธุระ จนกระทั่งกลับเข้ามาบ้านก็มาเห็นว่าลูกชายโทรหาจึงได้โทรกลับ จึงคิดว่าลูกชายไม่สบาย เนื่องจากว่าลูกชายมีโรคประจำตัว จึงได้โทรศัพท์กลับไปแต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้โทรศัพท์ปิดเครื่อง ตนจึงได้โทรศัพท์กลับไปสอบถามที่ฟาร์มวัว ซึ่งเจ้าของฟาร์มวัวบอกกับตนเองว่าลูกชายนำรถอีแต๊กไปเอาก้อนฟางมาให้วัว หลังจากนั้นจึงได้ออกตามหา จนกระทั่งเช้าวันถัดมาพบรถอีแต๊กของลูกชายจอดทิ้งไว้กลางทาง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร

 

ส่วนชีวิตประจำวันของลูกชายช่วงเช้าก็จะเข้ามาที่บ้านเพื่อมากินข้าวเช้าและช่วงเย็นก็จะกลับมาเอาอาหารหรือว่ามาทานข้าวเย็นกับตนเองก่อนจะกลับไปที่ฟาร์มวัว

 

ส่วนลูกชาย ยืนยันว่าไม่มีที่ไหนเพราะลูกชายเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครและส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอยู่ในฟาร์มวัว

 

แม่คนตาย ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยไปเส้นทางที่เกิดเหตุ เนื่องจากว่าไม่ใช่บ้านญาติ อีกทั้งบ้านของอดีตสามีอยู่อีกทาง ซึ่งตนเองเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกทำร้ายและนำศพมาทิ้งในบ่อเกรอะหลังบ้านนางมี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา และตนเองไม่ปักใจเชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตาย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะไปฆ่าตัวตายที่บ้านของคนอื่น อีกทั้งตนเองเชื่อว่าโทรศัพท์ 5 สาย ที่ลูกชายโทรมาหาตนเองเป็นการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

 

ขณะที่ทางด้านนางสาวจันทร์หอม อายุ 42 ปีชาวบ้านอีกคนที่เห็นนายสมิง ก่อนพบเป็นศพ เล่าว่าเมื่อช่วงประมาณ 4 โมงเย็น ขณะที่ตนเองกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ตนเองได้ยินเสียงหมาที่บ้านเห่า จึงได้ออกมาดู เห็นนายสมิงคนตายเดินลัดเลาะมาตามทุ่งนา ตนจึงได้ทักคนตาย ว่า “มึงสบายเนาะ เดินไปเดินมาให้หมาเห่าเล่น” จากนั้นคนตาย ได้ตอบกลับว่า “พี่น้ำมันรถอีแต๊กผมหมดอยู่ทางนู้น” หลังจากนั้นคนตายก็เดินหนี ส่วนตนเองก็รดน้ำต้นไม้ต่อ โดยไม่ได้สนใจคนตายเดินไปทางไหน ส่วนตอนที่คุยกันคนตายก็ไม่ได้บอกว่ามาขอน้ำมันหรือว่าจะไปหาน้ำมันมาเติมรถอีแต๊กแต่อย่างใด

 

นางสาวจันทร์หอม ยังบอกอีกว่าตอนที่ตนเองคุยกับคนตายก็ยังคงมีท่าทางปกติไม่ได้เหมือนกับคนที่จะถูกลอบทำร้ายหรือหนีอะไรมา ส่วนคนตายไม่ใช่คนที่หมู่บ้านนี้ แต่เป็นคนอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ส่วนฟาร์มเลี้ยงวัวที่คนตายไปรับจ้างเลี้ยงวัวก็อยู่ห่างจากที่บ้านที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ตนเองจึงไม่ทราบว่าวันเกิดเหตุคนตายมาทำอะไรที่หมู่บ้านนี้ และทำไมถึงไปที่เกิดเหตุเนื่องจากว่าโซนดังกล่าวไม่ใช่บ้านญาติของคนตาย ส่วนบ้านพ่อของคนตายก็อยู่คนละโซนกับที่เกิดเหตุขณะเดียวกันยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

"สมิง" หายตัวปริศนา พบเป็นศพถูกยัดบ่อขี้