จากกรณีเมื่อวานนี้ (3 เม.ย.) เวลาประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้ควบคุมตัวนายสุพจน์ อายุ 62 ปี ที่มีอาการเมาสุราอย่างหนัก ลักษณะมีการสวมจีวรคล้ายพระภิกษุสงฆ์เดินตามคุกคามผู้หญิงกลางตลาด ย่านกิ่งแก้ว จ.สมุทราปราการ อีกทั้งเมื่อตรวจค้นร่างกายยังพบเครื่องรางของขลังมัดเต็มตัว เดือดร้อนกู้ภัยต้องนำอุปกรณ์มาช่วยตัดออกให้ นั้น




ล่าสุดวันนี้ (4 เม.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ก็ได้เข้าไปตรวจสอบชิ้นส่วนเหล็กต่าง ๆ ที่นายสุพจน์ได้สวมใส่ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะทำการตัดถ่างออก พบว่าห่วงเหล็กนั้นมีหลายขนาดทั้งเล็กทั้งใหญ่ และมีจำนวนมากกว่า 20 ชิ้น น้ำหนักรวมกว่า 10 กิโลกรัม




เบื้องต้นชิ้นส่วนเหล็กต่าง ๆ นั้นถูกดัดแปลงมาจากบานพับประตู คลิปหนีบกระดาษ กระป๋องสแตนเลส ซึ่งมีการนำมาประกอบใหม่ให้เป็นห่วงสวมคอ ห่วงรัดแขน ห่วงรัดขา รวมไปถึงนำมาประดิษฐ์ให้เป็นกางเกงเตี่ยวคล้องเอวและสวมยึดไว้กับอวัยวะเพศ ซึ่งคาดว่าชิ้นส่วนเหล็กต่าง ๆ น่าจะถูกมัดพันธนาการอยู่บนร่างกายของนายสุพจน์นานแล้ว เพราะบางส่วนก็เริ่มมีสนิมและร่องรอยของการผุกร่อนแล้ว




ต่อมาทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในตลาด โดยในเวลา 16.53 น. ทางด้านพลเมืองดีซึ่งเป็นพ่อค้าในตลาด ก็ได้เดินเข้าไปเรียก ด.ต.เสกสรรค์ ที่กำลังเฝ้าประจำจุดร้านทอง โดยระหว่างนั้นก็มีการชะเง้อคอดูเหตุการณ์อยู่เป็นระยะ เมื่อ ด.ต.เสกสรรค์ ออกมาก็ได้มีการชี้ให้ดูยังจุดเกิดเหตุ ก่อนที่ ด.ต.เสกสรรค์ จะเดินออกไปควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น




จากนั้นในเวลา 17.18 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายหนึ่งก็ได้เดินทางเข้าไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยควบคุมสถานการณ์ และประสานนำตัวนายสุพจน์ออกจากพื้นที่ ก่อนจะนำตัวไปที่ สภ.บางแก้ว


ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดกิ่งแก้วและพบกับ ด.ต.เสกสรรค์ ชิดนอก ผบ.หมู่(ป.)สภ.บางแก้ว ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นสายตรวจเดินเท้าอยู่ภายในตลาดกิ่งแก้ว โดย ด.ต.เสกสรรค์ ก็ได้เปิดใจเล่าเรื่องราวเมื่อวานนี้ให้กับทีมข่าวช่อง 8 เล่าว่า ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่กำลังเฝ้าดูแลความเรียบร้อยที่ร้านทอง ก็ได้มีพลเมืองดีเข้ามาเรียกพร้อมกับแจ้งว่ามีบุคคลแต่งตัวคล้ายพระ แต่พฤติกรรมน่าสงสัยให้ช่วยไปตรวจสอบหน่อย หลังจากนั้นตนจึงรีบเดินไปที่จุดเกิดเหตุพบว่าชายที่แต่งตัวคล้ายพระ กำลังยืนอาละวาดอยู่หน้าร้านขายโทรศัพท์ ตนจึงเข้าไปแสดงตัวพร้อมกับขอตรวจสอบใบสุทธิ


แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ให้คงามร่วมมือและเริ่มตะโกนโวยวายเสียงดังด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด.ต.เสกสรรค์ เห็นท่าไม่ดีจึงจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ไว้ แต่จังหวะนั้นอีกฝ่ายก็ปรี่เข้ามาและง้างมือจะชกตน โชคดีที่หลบทันทำให้ชายคลั่งรายดังกล่าวเสียหลักล้ม ตนจึงใช้จังหวะนั้นเข้าไปใส่กุญแจมือ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังคงดิ้นและไม่ยอมง่าย ๆ ทำให้มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันพอสมควร โดยที่ชายคลั่งก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า เพราะอุปกรณ์ลวดเหล็กที่เขาได้สวมใส่ ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ฝ่ามือ เนื่องจากมีการกระทบกระแทกระหว่างที่จะเข้าไปใส่กุญแจมือ




โดย ด.ต.เสกสรรค์ เผยว่าบริเวณตลาดแห่งนี้ มักจะเกิดเรื่องลักษณะนี้บ่อย เนื่องจากเป็นศูนย์กลางที่รวมคนไว้หลากหลาย เพราะบริเวณด้านหน้าตลาดก็เป็นท่ารถเมล์ คนมากหน้าหลายตาก็สัญจรผ่านไปมาตลอดทั้งวัน ตนเองก็คอยเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมกับบอกว่ารู้สึกดีใจที่ประชาชนในตลาดชื่นชมการทำงานของตน


จากนั้นทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นายเฉลิมชัย เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจุดปู่เจ้า 20 ได้เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนได้รับแจ้งเหตุว่ามีชายแต่งตัวคล้ายพระสงฆ์มีอาการทางจิตได้อาละวาดที่ตลาด ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวมาที่โรงพัก และตรวจพบกับห่วงเหล็กที่พันธนาการอยู่เต็มตัว จึงประสานให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยตัดถ่าง ซึ่งทันทีที่นายเฉลิมชัยเข้าไปที่โรงพักก็พบกับนายสุพจน์ (ผู้ต้องหา) ตามร่างกายนั้นเต็มไปด้วยเหล็กที่มัดติดตัวไว้




โดยคาดว่าน่าจะมีการสวมใส่เอาไว้นานแล้วเพราะสังเกตเห็นว่าเนื้อตัวของนายสุพจน์นั้นมีร่องรอยการถูกรัดแน่นจนมีเลือดคั่ง เป็นไปได้ว่านายสุพจน์อาจจะใส่เหล็กตั้งแต่ตอนที่ผอมกว่านี้ เมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้น จึงทำให้ห่วงเหล็กรัดแน่นจนไม่สามารถถอดออกได้ด้วยมือเปล่า ซึ่งการทำงานนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะนายสุพจน์เองก็ไม่ยอมให้ถอดเหล็กออก โดยอ้างว่าเหล็กเหล่านั้นเป็นเครื่องรางของขลัง ใส่แล้วรู้สึกมีพลัง ถ้าถอดออกจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็พยายามถอดไป กล่อมไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดก็ถอดออกมาทั้งหมดมากว่า 20 ชิ้น และใช้เวลานานกว่า 20 นาที




โดยจุดที่ถอดยากที่สุดก็คงเป็นอวัยวะเพศ เพราะนายสุพจน์มีการเชื่อมเหล็กให้เป็นกางเกงเตี่ยวและสวมยึดเอาไว้กับอวัยวะเพศตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงต้องค่อย ๆ ทำการตัดถ่างทีละนิดเพราะเหล็กที่นายสุพจน์นำมาใช้ก็ค่อนข้างหนา บางชิ้นมีความหนาถึง 1 นิ้ว ซึ่งนายเฉลิมชัยก็ยอมรับว่า เป็นครั้งแรกที่ต้องมาตัดถ่างเหล็กในกรณีแปลก ๆ แบบนี้ เพราะปกติส่วนใหญ่จะมีแค่ช่วยตัดถ่างแหวนที่ติดตามนิ้วประชาชน ไม่คิดว่าวันนี้จะต้องมาตัดตรงอวัยวะลับของคน


ล่าสุดวันนี้ทีมช่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยัง สภ.บางแก้ว และได้พบกับนายสุพจน์ (ผู้ต้องหา) ที่กำลังนอกพักอยู่ในห้องขังรวม โดยเมื่อทีมข่าวเดินเข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายสุพจน์ก็ได้เดินออกมาพูดคุยด้วย ซึ่งเบื้องต้นนายสุพจน์นั้นยังคงอยู่ในอาการเมาค้างพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง


ทีมข่าวก็ได้สอบถามว่านายสุพจน์เป็นพระจริง ๆ หรือเปล่า เจ้าตัวก็ยืนยันว่า ตัวเองนั้นเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี โดยที่ตนเองนั้นบวชมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ทีมข่าวจึงถามต่อว่า “แล้วมาทำอะไรแถวนี้” เจ้าตัวก็ตอบสั้น ๆ ว่า “มาเที่ยว” จากนั้นทีมข่าวก็ถามต่อว่า “แล้วไปต่อยตำรวจทำไม” นายสุพจน์ก็ไม่ได้ตอบอะไร พร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่บาดแผลตรงศีรษะของตัวเอง




โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาออกมาสอบปากคำข้างนอก แต่พนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาที่ห้องขัง เนื่องจากผู้ต้องหานั้นยังคงอยู่ในอาการเมาคลั่งไม่ได้สติและไม่สามารถควบคุมได้ หากมีการพาตัวออกมาจากห้องขังก็เกรงว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงพูดจาวกไปวนมา โดยอ้างว่าตัวเองนั้นเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี และบวชมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็กำลังพยายามติดต่อไปที่วัดดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง


เบื้องต้นตรวจร่างกายไม่พบสารเสพติด มีเพียงปริมาณแอลกอฮอล์ 212 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าผู้ต้องหาน่าจะมีการดื่มเหล้าขาวมาก่อนก่อเหตุที่ตลาด ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหาใช้ห่วงเหล็กมัดตามตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการสอบถาม โดยนายสุพจน์ ก็บอกว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่เอาไว้ใช้ป้องกันภูตผีวิญญาณ รวมไปถึงคุณไสยมนต์ดำจากผู้ไม่หวังดี และเบื้องต้นจึงได้มีการแจ้ง 4 ข้อหา และพร้อมส่งฝากขังที่ศาลแขวงสมุทรปราการ ในเช้าของวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.)

 

สาวผวา! หนุ่มแต่งเป็นพระ พันธนาการ "เจ้าโลก" ไล่จับนมสาวกลางตลาด