จากกรณีที่แม่ปูนา ติดป้ายทวงหนี้ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม เรื่องการที่เอาปูนา ปูดองไปขาย แต่ไม่มีเงินมาให้ เป็นเงินกว่า 284,400 บาท นำไปสู่การออกรายการโหนกระแส และปะทะฝีปากกันอย่างดุเดือด ซึ่งจั๊กกะบุ๋มอ้างว่าตอนนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เพราะโดนเพื่อนโกงเงินไป ตอนนี้จั๊กกะบุ๋มต้องส่งหนี้รายวัน วันละ 40,000 บาท ต้องหยิบตรงนั้นมาโปะตรงนี้ และยิ่งพูดแม่ปูนายิ่งช้ำใจ จนต้องเอามืออุดหู และบอกให้จั๊กกะบุ๋มหยุดพูด แล้วจะคืนเงินให้

จากกรณี “แม่ปูนา” ขึ้นป้ายทวงหนี้ตลกชื่อดัง “จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม” เรื่องการที่เอาปูนา ปูดองไปขาย แต่ไม่มีเงินมาให้ โดยระบุว่า ได้โปรดเมตตาคืนเงิน 284,400 บาท เพราะเป็นเงินที่ต่อลมหายใจอีก 4 ชีวิต ขณะที่ จั๊กกะบุ๋ม ได้เดินทางไปแจ้งความว่าจะเอาผิดเรื่องหมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

จนนำไปสู่การออกรายการโหนกระแส ที่ทั้งคู่ได้ปะทะฝีปากกันอย่างดุเดือด โดยฝั่ง จั๊กกะบุ๋ม อ้างว่า ไม่ได้คิดจะโกง เพียงก่อนหน้านี้รับของมาแล้วสัญญากันกับป้าแล้ว ว่าทางป้าปูนาอนุญาตให้ตนเอาเงินทั้งต้นทุนและที่ขายได้ เอาไปหมุนก่อน เพราะตัวเองก็มีหนี้สิน ส่งหนี้รายวัน วันละ 40,000 บาท เพราะโดนเพื่อนโกงเงินไป ทำให้ฝั่งป้าปูนา พูดโต้ออกมาว่า "ไม่จริง" จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจำนวนมาก นั้น

ล่าสุด ตั๊ก ศิริพร โพสต์โพสต์ผ่านไอจีส่วนตัว แชร์ภาพเจ้าหนี้อีกรายของ จั๊กกะบุ๋ม ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องเสียง ที่เดินทางไปแจ้งความตลกชื่อดัง โดยเธอระบุว่า “รู้จักกับน้องบาสมาหลายปี พี่ตั๊กบอกเลยบ้านนี้เป็นคนดี ใจดีทั้งบ้าน ถ้าใครมาทำให้น้องบาสโกรธได้ ต้องพิจารณาตัวเองได้แล้ว น้องบาสทำบุญ ใจบุญ ช่วยคนเยอะมาก พี่ขอให้บุญกุศลในความเป็นคนดีของบาสจงคุ้มครอง อย่าให้คนพาล หรืออันตรายใด ๆ มากล้ำกรายน้องบาสและครอบครัวได้อีกเลย คนเราทำกรรมอะไรไว้ กรรมนั้นย่อมคืนสนองจ้ะ” หลังจากข้อความของ ตั๊ก ถูกแชร์ออกไป ทาง บอล เชิญยิ้ม ได้เข้ามาคอมเมนต์ “เป็นกำลังใจให้น้องครับ คนดี พ่อแก่คุ้มครองครับ”

ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ บาส เจ้าของร้านเครื่องเสียง ซึ่งเป็นเจ้าหนี้อีกรายของ จั๊กกะบุ๋ม เผยว่า ตนให้เงินจั๊กกะบุ๋มไปจริง ๆ โดยเรื่องราวเริ่มจากตนสนิทกับพี่นุ้ย และพี่ตั๊ก ศิริพร อยู่แล้ว อยู่ ๆ ทางจั๊กกะบุ๋มเข้ามาตีสนิทและบอกว่าเขานั้นเป็นน้องรักของพี่นุ้ยกับพี่ตั๊ก ทำให้ตนสนิทกับจั๊กกะบุ๋มไปด้วย ต่อมาจั๊กกะบุ๋มก็ติดต่อมาหาตน ทำทีมาประสานติดต่องานมาให้ บอกว่า ให้ตนรับงานนี้แล้วเอาเครื่องเสียงไปติดตั้ง จำนวน 65,000 บาท ตนก็นำไปติดจนเรียบร้อย

จากนั้นก็ถึงเวลาต้องเคลียร์เงิน แต่ก็เงียบไป ซึ่งตอนแรกตนนึกว่าทางเจ้าของงานเป็นคนที่เบี้ยวไม่จ่าย กระทั่งมาทราบภายหลังว่า คนติดตั้งให้เงินจั๊กกะบุ๋มมาแล้ว แต่จั๊กกะบุ๋มกลับไม่เอาเงินมาเคลียร์กับตน ทำให้ตนต้องโทร. ไปหาจั๊กกะบุ๋ม ว่า ถ้าหากร้านที่ติดตั้งยังไม่จ่ายเงิน ตนจะยกเครื่องเสียงคืน ด้านจั๊กกะบุ๋มจึงยอมรับว่า "ทางร้านจ่ายเงินมาแล้ว ทยอยจ่ายมาบ้างแล้ว แต่พี่เอาเงินไปใช้หมดแล้ว" ตนได้ฟังแบบนั้นก็ตกใจ ทำไมจั๊กกะบุ๋มทำกันแบบนี้ เขามีหนี้สินอะไร ทำไมไม่เอาเงินมาให้ตนก่อน

ต่อมา 20 ก.พ. ที่ผ่านมา จั๊กกะบุ๋มก็จ่ายมาให้ตนจำนวน 5,000 บาท และมีการนัดกันว่า มีนาคมจะมีการมาเคลียร์หนี้กัน ทว่า ทางจั๊กกะบุ๋มก็หายเงียบไปเลย กระทั่งมาเกิดกรณีของป้าปูนาเกิดขึ้น ซึ่งยอดหนี้ของตนที่จั๊กกะบุ๋มค้างไว้ยังเหลืออีก 61,000 บาท แถมมาทราบว่ามีเจ้าหน้าคนใหม่โผล่มาอีก

ขณะที่ทวิตเตอร์ (X) Red Skull เผยคลิป จั๊กกะบุ๋ม สมัยเป็นสมาชิกพรรคทางเลือกใหม่ โดยในคลิปจั๊กกะบุ๋ม พูดว่า "เมื่อการเมืองมีปัญหา ผมขออาสา มาแก้ไขปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ นับแต่นี้ต่อไปทุกการกระทำหรือคำพูดของผม ผมขอพูด ในนามของสมาชิกพรรคทางเลือกใหม่ ครับ กล้าคิดกล้าทำและทำจริง โดยท่าน... รับประกันว่านโยบายของพรรคทางเลือกใหม่ จะนำท่านไปสู่การเมืองใหม่ ๆ และนโยบายที่สุดยอดแน่นอนครับ ฝากไว้ด้วย ลงการเมืองแล้วนะ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม เจอกันแน่"

ต่อมา ด้าน จั๊กกะบุ๋ม โพสต์ข้อความปริศนา ลักษณะดีใจเอามาก ๆ ระบุว่า “เย้ ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ ทีโพ...แอ๊ะแอ๋ ขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจดี” และอีกข้อความระบุว่า “ตื่นแล้ว ขายของต่อสิครับ ลุย...”

ขณะที่เพจ อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์แซะจั๊กกะบุ๋ม หลังมีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวจะไปบวช โดยระบุว่า “คิดว่าการบวชจะช่วยล้างซวย ช่วยให้มึงล้างหนี้ได้เหรอ ? เอาเวลาบวชไปทำงานหาเงินให้หนี้ชาวบ้านดีกว่า ทีโพนะมึง”

นอกจากนี้ เพจ ดาวแปดแฉก ก็ได้โพสต์โยงจั๊กกะบุ๋มอีกด้วย ระบุว่า “ดับกระแสตีกลับปมเบี้ยวหนี้ แม่ปูนา #จั๊กกะบุ๋มตัดสินใจลาบวช หลังลาสิกขาจะถอนแจ้งความทั้งหมด...#ไปฟอกตัวแป๊บ”

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (3 เม.ย. 2567) บรรยากาศที่ปั๊มน้ำมัน บางจากเทียนทะเล 7 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร โดย กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาหา นางสาวรชต หรือ แม่ปูนา อายุ 52 ปี ผู้เสียหาย ที่ถูกจั๊กกะบุ๋มเบี้ยวหนี้เกือบ 3 แสน และแจ้งความนั้น

ก่อนที่ กัน จอมพลัง จะเข้ามาพูดคุยกอดให้กำลังใจแม่ปูนา ซึ่งแม่ปูนาก็ซาบซึ้งใจขณะสวมกอดกับกันจอมพลัง จากนั้นกัน จอมพลัง ได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ที่เจ้าตัวรวบรวมได้จากคุณวู้ดดี้ และเพื่อน ๆ เพื่อมาอุดหนุนสินค้าของแม่ปูนา

จากนั้น กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์ว่า เนื่องจากเมื่อวานนี้ตัวเองได้ติดตามรายการโหนกระแส เรื่องของ คุณจั๊กกะบุ๋ม และแม่ปูนาแล้ว ตัวเองก็รู้สึกสงสานแม่ปูนา ผู้เสียหาย พร้อมกับได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม จนสามารถรวบรวมเงินจำนวน 30,000 บาท ตั้งใจว่านำมามอบให้กับแม่ปูนา เพื่อช่วยเหลือแต่แม่ปูนา เขาไม่อยากรับเงินนั้นฟรี ๆ จึงเป็นการนำมาอุดหนุนสินค้าแทน

โดยในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ตัวเองจะพาแม่ปูนาไปแจ้งความดำเนินคดีกับศิลปินตลกรายดังกล่าว ในข้อหาฉ้อโกง ที่ สน.ท่าข้าม และตัวเองขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ช่วยเหลือ อุดหนุนสินค้า แม่ปูนา และหากตัวเองทราบว่า มีคนรู้จักของตัวเอง ไปช่วยเหลือฝั่งตลกตกอับคนดังกล่าวนั้น ตัวเองจะขอตัดขาดกับคนรู้จักเลย เพราะถือเป็นการไปสนับสนุนคนไม่ดี โดยหลังให้สัมภาษณ์ กัน จอมพลัง และทีมข่าวก็ได้ชิมอ่องมันปู สินค้าของ แม่ปูนา ซึ่งทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีรสชาติที่อร่อยมาก

ด้านนางสาวรชต หรือแม่ปูนา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า วันนี้ตัวเองรู้สึกดีใจมากที่ กัน จอมพลัง นำเงินจำนวน 30,000 บาท มาอุดหนุนตัวเอง ซึ่งตั้งแต่ตัวเองไปออกรายการโหนกระแส แล้วเปิดเผยเรื่องราวออกไป ตอนนี้ก็มีคนเข้ามาอุดหนุน อ่องมันปู ของ “ปูนาฟ้าใส” ไปแล้วกว่า 10,000 กระปุก (กระปุกละ 140 บาท) ซึ่งตัวเองก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ซึ่งถ้าหากตัวเองขายอ่องมันปูจนสามารถตั้งหลักได้แล้ว ตัวเองจะนำเงินจำนวน 284,400 บาท เท่ากับจำนวนเงินที่ตลกคนดังกล่าวติดหนี้ตัวเองอยู่ ไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลศิริราช เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้กับคนอื่นต่อไป

และมีหลายคนที่อยากจะเข้ามาบริจาคช่วยเหลือตัวเอง ตัวเองขอบอกเลยว่า ตัวเองไม่ขอรับบริจาค แต่ขอให้มาอุดหนุนสินค้ากันจะดีกว่า ตั้งแต่จบรายการโหนกระแสเมื่อวาน ทางคู่กรณีก็ยังไม่ได้ติดต่อมาหาตัวเองเลย และก็ไม่มีขอโทษตัวเองอีกด้วย ตอนนี้ตัวเองก็เห็นข่าวว่าตลกคนดังกล่าว เขามีเจ้าหนี้หล่ยคนออกมาแฉ ตัวเองก็อยากฝากถึงตลกรายนั้นว่า “พอเถอะ” คุณอย่าสร้างปัญหาให้คนอื่นอีกเลย ถ้าเจ้าหนี้บางคนเขาเดือดร้อนจริง ๆ เขารับปัญหาไม่ไหว เขาอาจฆ่าตัวตายได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตลกคู่กรณี เขายุ่งเกี่ยวกับการพนันหรือไม่นั้น ถึงได้เป็นหนี้ขนาดนี้ ตัวเองก็ไม่อยากออกความคิดเห็นในประเด็นนี้ ตัวเองยอมรับว่า หลังจากที่ตลกคนดังกล่าวเอาสินค้าตัวเองไป ช่วงเดือนธันวาคม 2566 เขาเอาไปชายแล้วไม่ให้เงินตัวเองนั้น หละงจากนั้น ตัวเองก็เดือดร้อน ถึงชั้นไปยืมเงินเพื่อนจำนวน 2 ราย มาเหมือนกัน แต่ตัวเองก็จ่ายหนี้เพื่อนมาตลอด ไม่เคยเบี้ยวหนี้ และตัวเองก็อยากขอบคุณผู้จัดการปั๊มน้ำมัน บางจากเทียนทะเล 7 ที่เอื้อเฟื้อให้สถานที่ขายสินค้ากับตัวเอง โดยที่ไม่เก็บค่าเช่าเดือนแรก และเดือนต่อ ๆ ไป เขาก็ลดราคาค่าเช่าสถานที่ให้ตัวเองด้วย ตัวเองอยากขอบคุณเขามาก ๆ