จากกรณีเมื่อเวลา 04.40 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.กาจน์พศุตม์ พรวรรณศิริกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุรถรถจักรยานยนต์ล้ม มีผู้เสียชีวิตบนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ขาเข้าพัทยา ก่อนถึงทางขึ้นต่างระดับสะพานข้าวหลาม หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบศพนายจักรภัทร นักศึกษาแผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง นอนเสียชีวิตที่พื้นถนนสภาพศรีษะแตก ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ และมีหมวกกันน็อกสภาพแตกอยู่

จากการสอบถาม ส.ต.ต.วทัญญู แย้มปราศัย ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองชลบุรี เปิดเผยว่า ตนมาตั้งด่านตรวจกับนายตำรวจแต่ด่านเลิกแล้ว ตนรอตำรวจมาเก็บของกำลังก้มดูโทรศัพท์ ได้ยินเสียงดังโครมหันมองดู ไม่มีรถคันอื่น มีรถรถจักรยานยนต์คันนี้คันเดียว จึงรีบวิ่งมาดูก็พบว่าอ่การสาหัสจึงแจ้งกู้ภัยและผู้บังคับบัญชาให้ทราบ คาดว่าผู้ตายขี่รถรถจักรยานยนต์มาแล้วเจอไฟด่านที่ยังเปิดเตือนเพราะยังเก็บของไม่หมด อาจจะตกใจแล้วเบรกประกอบกับขี่รถมาเร็วจึงล้มเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจเจ้าของคดีจะได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าบริเวณดังกล่าวนั้นมีสภาพพื้นผิวถนนที่ค่อนข้างเรียบ ไม่มีหลุมบ่อและไม่มีลักษณะขรุขระอะไรที่จะเป็นสาเหตุให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม โดยจุดที่นายจักรภัทรได้เสียหลักเกิดอุบัติเหตุนั้นมีเพียงคราบน้ำมันกองอยู่จำนวนหนึ่งและมีรองเท้าแตะสีดำของผู้เสียชีวิตตกอยู่ 1 ข้าง

โดยทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่ก่อนถึงจุดที่นายจักรภัทรจะประสบอุบัติเหตุเพียง 350 เมตร ในภาพจะเห็นว่าวันที่ 1 เม.ย. เวลาประมาณ 04.19 น. รถจักรยานยนต์ของนายจักรภัทร (ผู้ตาย) ได้ขับขี่มาด้วยความเร็ว ซึ่งจุดที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้นั้นตั้งอยู่ห่างจากจุดที่ตั้งด่านเพียงเล็กน้อย แต่จุดนั้นจะมีลักษณะเป็นเส้นทางโค้งเล็กน้อย หากขับมาในเส้นทางดังกล่าวจึงทำให้มองไม่เห็นจุดตั้งด่านตรวจ และหากขับพ้นโค้งบริเวณนี้ไปก็จะเจอกับด่านตรวจที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายในทันที เป็นไปได้ว่าผู้ตายที่ขับขี่จักรยานยนต์มาด้วยความเร็วอาจจะตกใจที่เจอกับจุดตั้งด่านแล้วเกิดการเบรกรถกะทันหัน ทำให้รถจักรยานยนต์ได้เสียหลักล้มลง

จากนั้นในเวลา 19.21 น. รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ใต้สะพานกลับรถใกล้กับจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ก็ได้ขับตามเข้าไปในทันที เพื่อทำการช่วยเหลือนายจักรภัทร แต่ท้ายที่สุดนายจักรภัทรก็ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

นอกจากนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายน้อย อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกดังกล่าว โดยนายน้อย เผยว่า ตรงบริเวณนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะมาตั้งด่านเป็นประจำอยู่แล้วทุกวัน โดยจะเริ่มตั้งในเวลา 22.00 น. และจะเก็บด่านในเวลา 05.00 น. (ตอนเช้า) ซึ่งด่านที่ตั้งก็จะมีป้ายและมีไฟส่องสว่าง โดยส่วนใหญ่ก็ตั้งเพื่อตรวจรถจักรยานยนต์และรถใหญ่ที่สัญจรในเวลากลางคืน ซึ่งเมื่อเวลาประมาณตี 4 ตนก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรนะ จะเห็นก็แต่รถตำรวจขับวนไปวนมา 3-4 คัน โดยตนก็ไม่ทราบเลยว่ามีคนเสียชีวิต ซึ่งบริเวณนี้ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและคิดว่าผู้เสียชีวิตคงจะขับรถมาเร็วและเกิดตกใจเมื่อเห็นด่านตรวจ