กรณีเมื่อเวลา 02.30 น. ของคืนนี้ 2 เม.ย. 2567 ตำรวจ สน.หนองจอก จ.มีนบุรี กรุงเทพฯ รับแจ้งเหตุมีเด็กถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้ามัสยิดคอยรุตดีน ซึ่งด้านหน้ามัสยิดจะเป็นลักษณะโต๊ะหินอ่อนและมีสนามสนามเด็กเล่น โดยกลุ่มเยาวชนและเด็กมานั่งเล่นกันเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะถูกกลุ่มไม่ทราบฝ่ายขี่รถซ้อน 3 ใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงและหลบหนี






ที่เกิดเหตุพบร่างของเด็กชายปารเมศ หรือ ลี้ อายุ 15 ปี นอนเสียชีวิต ถูกยิงเข้าที่หน้าอกและหน้าท้อง และจากการสอบปากคำเพื่อที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่ายังมีคนเจ็บอีก 1 ราย โดยเพื่อนได้มีการพาขึ้นซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ ออกไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีที่ถนนใหญ่ และนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะถูกยิงเข้าที่หน้าท้องเช่นกัน ทราบชื่อคือ เด็กชายเราะห์มาน อายุ 14 ปี นั้น




ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ย่านชุมชนและใกล้กับมัสยิดคอยรุตดีน ซึ่งนอกจากจะมีบ้านเรือนของชาวบ้านอยู่แถวนั้นแล้ว ยังมีเด็กเล็กและคนแก่อาศัยอยู่ โดยช่วงเวลาเกิดเหตุเยาวชนและเด็กในพื้นที่ได้มานั่งพูดคุยกัน ก่อนที่จะถูกกลุ่มไม่ทราบฝ่ายมาบุกยิง และหลังจากก่อเหตุยิงแล้วได้มีการหลบหนี ส่วนพื้นที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บวัตถุพยานเสร็จแล้ว จากนั้นได้มีการเคลียร์พื้นที่เปิดให้ชาวบ้าน ได้ใช้งานได้ตามปกติ




ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ เมื่อคืนที่ผ่านมา 2 เม.ย. เวลา 02.06 น. ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพหลังจากเกิดเหตุ โดยพบว่าจะเห็นรถของคนร้ายขี่รถซ้อน 3 มาทางเลียบคลองเพื่อออกไปที่ถนนเชื่อมสัมพันธ์เพื่อหลบหนี โดยภาพจากกล้องวงจรปิด 3 ตัว จับภาพรถกลุ่มคนก่อเหตุเอาไว้




ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายน้ำ (นามสมมติ) พยานในที่เกิดเหตุในฐานะคนที่เห็นเหตุการณ์ และนั่งอยู่ในวงที่ถูกยิง เผยว่า เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ กลุ่มของตนเองมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่สนามเด็กเล่น ซึ่งจะสับเปลี่ยนกันระหว่างด้านหน้ามันสยิดกับตรงสะพานเขียว โดยเมื่อคืนนี้ในกลุ่มอยู่ด้วยกันประมาณ 7-8 คน ซึ่งรวมคนเจ็บและคนตาย แต่ส่วนใหญ่อายุเพียง 14-15 ปี และจะมีคนโตอายุประมาณ 16-18 ปี 2 คน ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ระหว่างนั้นสังเกตความผิดปกติ โดยเห็นรถ พีซีเอ็กซ์ซ้อน 3 ขับมาจอดที่หน้ามัสยิดห่างจากโต๊ะหินอ่อนที่นั่งกันอยู่ประมาณ 3-5 เมตร ก่อนที่คนซ้อนท้ายซึ่งเป็นมือปืนใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ แต่งกายทรงเด็กช่าง ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ และหันไปถามคนขับว่า “ใช่ไหม” หลังจากที่คนขับยืนยันว่า “ใช่” มือปืนก็ยิงปืนไทยประดิษฐ์เข้ามาที่กลางวง 1 นัด โดยเป็นลักษณะกระสุนปืนลูกซอง จึงทำให้เป็นลูกปลายกระจายเข้าตามจุดต่าง ๆ


โดยกระสุนปืนยิงเข้าตัวน้องลี้ คนตาย เข้าที่หน้าอกและหน้า แต่ตอนนั้นคนตายยังไม่รู้ตัวว่าถูกยิง จึงรีบวิ่งหนีกระสุนปืนเพื่อจะเข้าบ้าน แต่ระหว่างทางเข้าบ้านปรากฏว่าล้มตายหน้าซอย ส่วนอีกคนคือ เราะห์มาน ถูกยิงเข้าที่หน้าท้องเช่นกัน ตนเองจึงได้รีบพาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ที่ถูกกระสุนปืนยิงยางแตก ขึ้นซ้อนท้ายและขับบดออกไปที่หน้าปากซอยถนนเชื่อมสัมพันธ์ เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากรถผ่านมาบนถนนใหญ่ ให้ช่วยพาส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ตนเองได้รถพลเมืองดีแล้ว ตนเองก็ได้รีบขับรถหนีเข้าไปในซอยเพื่อที่จะไปบ้านรุ่นพี่




แต่ระหว่างที่ตนเองกำลังขี่รถเข้าไปภายในซอย เพื่อที่จะไปหารุ่นพี่แล้วไปแจ้งข่าว ปรากฏว่าไปสวนทางกับรถพีซีเอ็กซ์ของกลุ่มก่อเหตุในซอย ซึ่งโชคดีที่มันจำตนเองไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็คงจะถูกยิงตายไปอีกคน และตอนที่เห็นรถพีซีเอ็กซ์ขับสวนทางนั้น มีท่าทีกำลังเร่งรีบและหลบหนีหนี เพื่อมุ่งหน้าไปที่ซอยวารี แต่โดยเบื้องต้นตนเองไม่สามารถระบุรูปพรรณสถานที่ชัดเจนหรือใบหน้าได้ เพราะเนื่องจากมีการใส่หมวกกันน็อก และมีการก่อเหตุในช่วงที่ค่อนข้างมืด




และจากคำให้การของนายน้ำ เพื่อนกลุ่มของคนตายและคนเจ็บ ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่ขี่รถไปส่งนายเราะห์มาน คนเจ็บ ที่ถอยรถใหญ่และมีพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาล เจ้าตัวได้ขี่รถหลบหนีเข้าไปภายในซอยเพื่อที่จะไปบ้านของรุ่นพี่ แล้วไปเจอกับกลุ่มก่อเหตุขี่รถสวนกันในซอย นั้น




ทีมข่าวช่อง 8 ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ซึ่งพบว่าหลังเกิดเหตุเวลาประมาณ 02.10 น. จะเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของนายน้ำ กลุ่มของคนเจ็บขับผ่านกล้อง เพื่อที่จะไปบ้านรุ่นพี่ จากจะเห็นว่ามีรถกลุ่มของมือปืนมีการขี่สวน ซึ่งขี่ย้อนออกมาจากซอย โดยภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจับภาพเอาไว้ได้ ว่าในกลุ่มของคนตายขับเข้าไปในซอย แล้วกลุ่มมือปืนขี่สวนออกมา ซึ่งทิ้งห่างไม่ถึง 1 นาที




วันเดียวกันนี้ จึงได้พูดคุยกับนายชัชดี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี รุ่นพี่ของคนตายและคนเจ็บ เผยว่า สำหรับชนวนเหตุที่รุ่นน้องของตนเองถูกยิงจนกระทั่งเจ็บและตาย เข้าใจว่าน่าจะเกิดจากฝั่งของ “เรียบ 7” หรือฝั่งกลุ่มซอยวารีที่ไม่พอใจ เมื่อ 1 ปีเศษ ถูกไล่ออกจากกลุ่มเดิมที่เคยอยู่ด้วยกันกับกลุ่มของตนเอง คือกลุ่ม “ลำต้นกล้วย” ซึ่งมีกลุ่มเพื่อนที่ถูกไล่ออกออกจากกลุ่ม แล้วไปรวมกับกลุ่มเรียบ 7 แล้วทุกครั้งที่เจอรุ่นน้องหรือเจอเพื่อนเก่าก็มักจะมีอาการไม่พอใจไล่ทำร้าย ไล่เตะไล่กระทืบ แต่ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่แรงที่สุดคือมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ




และย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่รุ่นน้องของตนเองเคยถูกดักกระทืบระหว่างทาง ซึ่งเป็นซอยบ้านของตนเอง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งแรก ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยรุ่นน้องขี่รถมาหาตัวเองที่บ้าน และขี่ออกจากบ้านเพื่อที่จะกลับ ระหว่างทางถูกดักกระทืบแล้วมีการถ่ายคลิปประจานเอาไว้ และคลิปดังกล่าวก็ได้มีการบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ทั้งหมด โดยตนเองก็เพิ่งโพสต์ในโซเชียลและเซฟออกมา ว่าฝั่งของเรียบ 7 มีการกระทืบแล้วโพสต์คลิปประจาน แต่เหตุการณ์ครั้งแรกไม่ได้มีการแจ้งความ เพราะเนื่องจากมีเพียงแค่คลิปแต่ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิด ไม่เห็นรูปพรรณสัณฐานหรือใบหน้าใคร เพราะมีการสวมหมวกปิดบังใบหน้า




และต่อมามีเหตุการณ์ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นไม่ถึงสัปดาห์ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยรุ่นน้องของตนเอง ขับรถช่วงกลางวัน แต่ไปเจอกับกลุ่มเรียบ 7 ก็ถูกดักกระทืบกลางถนน จนต้องร้องขอชีวิต ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรให้ แต่ถูกดักทำร้าย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งที่ 2 ได้มีการแจ้งความเอาไว้ แต่ยังจับใครไม่ได้ แต่ก็ถูกถ่ายคลิปแล้วเอาไปโพสต์ประจานเหมือนกัน แต่สำหรับเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งที่ 3 เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุด โดยขี่รถมาเพื่อที่จะชี้เป้าก่อนที่จะให้มือปืนที่ซ้อนท้ายลงมายิง จนเป็นเหตุทำให้เด็ก 14 และ 15 ถูกหยิกได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

 

ปิดบัญชีแค้น! "แก๊งเรียบ 7" สั่งตาย โจ๋ 14 "แก๊งลำต้นกล้วย"