ชาวบ้านประชาทัณฑ์1ใน2คนร้ายที่เนรคุณเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์หลังแอบช่วยกันงัดกุฎแล้วยกตู้เซฟที่มีเงินสดอยู่ 7 แสนกว่าบาทใส่รถตู้วัดแล้วหลบหนีไปหลังคนร้ายที่หลวงพ่อรักเหมือนลูกเข้ามอบตัวก่อนหน้า

 

ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์นายอนุชาหรือโย อายุ38 ปี 1 ใน 2 ที่ร่วมกันยกตู้เซฟของเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ ซึ่งทั้งสองคนเป็นคนที่หลวงพ่อเลี้ยงดู และเข้าออกวัดตลอด มีความไว้เนื้อเชื่อใจกลับเลี้ยงไม่เชื่อง โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 มี.ค. 67 ทางพ.ต.อ พิฑูรย์ พัฒนชัย ผกก.สภ.บ้านโพธิ์ พร้อมร.ต.ท.ธรรมนูญ บันเทิงจิตต์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านโพธิ์ ชุดสืบสวน สายตรวจ ได้นำตัวนายโยมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจาก เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567เวลาประมาณ22.16 น. ร.ต.ท.ธรรมนูญ บันเทิงจิตต์ รองสว.(สอบสวน) สภ.บ้านโพธิ์ ได้รับแจ้งจาก พระปลัด ชนินทร์ อภินันโท รองเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ ผู้เสียหายว่าเมื่อวันที่15 มี.ค. 2567 เวลาประมาณ 20.00 น. หลังจากที่ได้ไปงานเทศนางานศพที่บริเวณ ศาลาศรีเรืองกิจ ซึ่งอยู่ภายในวัดสนามจันทร์ ม.1 ต.บ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา พอเสร็จงานแล้วผู้เสียหายได้เดินกลับมายังกุฏิเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ แล้วได้รับแจ้งจาก พระครูโสภิต สุตคุณ เจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ จึงทราบว่ามีคนร้ายมาลักทรัพย์ภายในกุฏิดังกล่าว ซึ่งกุฏิเจ้าอาวาสดังกล่าว มีผู้เสียหายและพระครูโสภิตฯ พักอาศัยอยู่เพียงสองคน ตรวจสอบแล้วพบร่องรอยการถูกคนร้ายงัดแงะประตูและหน้าต่างเข้าไปลักทรัพย์ ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าทรัพย์ที่สูญหายไป คือ ตู้เซฟ น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม ภายในมีเงินสด จำนวนประมาณ 700000 บาท สมุดบัญชีธนาคารของวัดและของเจ้าอาวาส จำนวนประมาณ 7 เล่ม ใบสุทธิและบัตรประชาชนของพระครูโสภิตฯ ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถ.บ้านโพธิ์เพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ก่อนที่ชุดสืบสวนจะลงพื้นที่และตรวจสอบกล้องวงจรปิด CCTV ติดตั้งอยู่บริเวณประตูหลังของศาลาที่เชื่อมต่อกับกุฏิเจ้าอาวาส พบว่าเมื่อวันที่ 15 มี.ค.2567 เวลา19.05 น.จากกล้องวงจรปิดจับภาพเป็นชาย จำนวน 2 คน ซึ่งพระปลัด ชนินทร์ อภินันโท ได้ยืนยันว่า บุคคลที่ 1 ที่ เห็นในกล้องคือ นายฐณดล หรือทิดนุ อายุ 41 ปีและบุคคลที่ 2 คือ นายอนุชาหรือโย อายุ 38 ปี เดินเข้ามาในห้องเก็บของที่เชื่อมต่อกับห้องบริเวณประตูหลังของศาลาหอฉันท์กุฏิเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ ประกอบกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด CCTV ติดตั้งอยู่บริเวณประตูหลังของศาลาหอฉันท์กุฏิเจ้าอาวาสเมื่อวันที่15 มี.ค.2567 เวลาจากกล้องวงจรปิด19.11 น. เห็นคนร้าย จำนวน 2 คนกำลัง ยกตู้เซฟเดินออกจากห้องเก็บของที่เชื่อมต่อกับห้องพักของเจ้าอาวาสบริเวณประตูหลังของศาลาหอฉันท์กฏิเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ฯ ไปจริงจากการสอบสอบจากพระปลัดชนินทร์ พันธวงค์ ผู้เสียหาย ตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุนายฐณดล อายุ 41ปี เป็นผู้ที่ขออนุญาตจากเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์เพื่อขอใช้รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น HIACE VAN COMMUTER สีเทา ซึ่งเป็นรถยนต์ของวัดสนามจันทร์ (คันเดียวกันกับที่เห็นในกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ) และสามารถยืนยันตัวบุคคลที่ปรากฏในภาพได้ว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด คือ นายฐณดล และ นายอนุชา ซึ่งได้ร่วมกันเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ใน วันที่ 15 มี.ค.2567 ซึ่งผู้เสียหายจำได้ชัดเจนเนื่องจากนายฐณดล มักจะเข้าออกกุฏิเจ้าอาวาสเป็นประจำและอาศัยหลับนอนอยู่ที่ใต้ถุนกุฏิเจ้าอาวาสรู้เวลาปฏิบัติกิจสงฆ์ของเจ้าอาวาสและเป็นฆราวาสเพียงคนเดียวที่มีกุญแจสามารถเปิดเข้า-ออกห้องเก็บของซึ่งห้องเก็บของดังกล่าวยังสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องพักของเจ้าอาวาสได้และนายฐณดล มีความสนิทสนมกับนายอนุชา

 

กล่าวคือก่อนหน้านี้นายอนุชาหรือโย เข้ามารับจ้างทำงานให้ทางวัดและมีปากเสียงกับนายจ้างเป็นเหตุให้นายจ้างทำการเลิกจ้าง นายอนุชา จึงเข้ามาปรึกษากับนายฐณดล เพื่อจะหางานทำและหาที่พัก นายฐณดลได้พาไปฝากกับเจ้าอาวาส ด้วยความที่เจ้าอาวาสสงสารจึงให้ไปทำงานที่สวน ด้วยกัน และพักอาศัยอยู่ด้วยกัน และหลังจากเกิดเหตุบุคคลทั้งสองหายไปไม่สามารถติดต่อได้จึงมั่นใจว่าคนร้ายทั้ง 2 คือ นายธณดล และ นายอนุชาจริง

 

ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่24 มี.ค. 2567 เวลาประมาณ 17.10 น. นายฐณดล อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้กระทำผิดในครั้งนี้ ได้เข้ามามอบตัวต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ และให้การยอมรับสารภาพว่า ตนและ นายอนุชา คือผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้จริง พอแบ่งเงินที่ได้จากการงัดตู้เซฟมาแล้ว ปัจจุบันนายอนุชา ก็ได้หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย โดยจากการสอบสวนทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าได้ยืมรถตู้ของวัดมาลงมือก่อเหตุจากนั้นก็ขับรถไปที่สวนในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองตีนนก อ.บ้านโพธิ์ ซึ่งเป็นสวนของพระครูโสภิต สุตคุณ เจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ จากนั้นได้ทำลายตู้เซฟจนได้เงินภายในตู้ก่อนจะโยนตู้เซฟทิ้งในคูน้ำร่องสวน ก่อนนำขับรถตู้ไปจอดทิ้งไว้ที่ห้างขายส่งในพื้นที่เมืองฉะเชิงเทรา แล้วให้ภรรยาของนายรุดโทรมาบอกกับทางวัดว่าให้ไปรับรถกลับมาได้ ซึ่งทางชาวบ้านที่มาดูการทำแผนของนายโยก็โกธรแค้นเพราะหลวงพ่อนั้นเมตตามาตลอด กินข้าว มีงานทำแต่มาเนรคุณแบบนี้ ส่วนนายรุดได้มีกาทำแผนไปก่อนหน้านี้แล้วโดยตอนนี้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนเงินที่แบ่งกันก็ใช้จ่ายไปหมดแล้วโดยนายโยนำเงินไปซื้อรถเก๋งมือสองแล้วหลบไปซ่อนตัวที่จังหวัดสุพรรณบุรีก่อนถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านโพธิ์ตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด ซึ่งนายโยก็เข้ากราบขอขมากับทางเจ้าอาวาส ซึ่งทางเจ้าอาวาสก็บอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็ให้ทางตำรวจดำเนินการทางกฎหมาย

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระปลัดชนินทร์ รองเจ้าอาวาสวัดสนามจันทร์ บอกว่า

วันเกิดเหตุอาตมาได้ออกไปเทศน์ แล้วประมาณ 19.30 น. ก็กลับมาที่กุฏิ ก่อนจะมีคนมาแจ้งว่าตู้เซฟหาย พอสอบถามคนในวัดก็บอกว่า มีกุญแจเปิดอยู่ จึงรู้ทันทีว่าน่าจะเป็นนายฐณดล หรือ ทิดรุด เด็กวัดที่ขโมยไปแน่นอน ส่วนคนก่อเหตุอีกคน คือ นายอนุชา หรือโย เข้ามารับจ้างทำงานให้ทางวัด ซึ่งทั้งคู่จะอยู่ด้วยกัน

ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปเห็นว่าเอาไปซื้อรถ ซื้อทอง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทั้งคู่ปกติจะเข้า ๆ ออกๆ วัด แต่หลังเกิดเหตุก็หายไปจึงแน่ใจว่าเป็นทั้งคู่ จนตำรวจตามตัวจับมาได้ทั้งหมด

 

ประชาทัณฑ์โจรเนรคุณข้าววัด ยกเซฟพระ 7 แสน