กรณี เมื่อเวลา 20.59 น. ของวันที่ 16 มี.ค. ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุว่ามีนายทหารคนหนึ่ง ใช้ปืนยิงใส่วงเหล้า ที่ส่งเสียงดังจนทำให้มีผู้บาดเจ็บหนึ่งราย ซึ่งสาเหตุมาจากวงสุราดังกล่าวเปิดเพลงเสียงดังแล้วฝ่ายของผู้ก่อเหตุแจ้งตำรวจมาระงับเหตุแล้ว ถึงสองครั้ง พอตำรวจไปก็กลับมาเสียงดังอีก กระทั่งเจ้าตัวต้องออกมาขอร้องให้เบาเสียงลง โดยมีการสะพายกระเป๋าปืนออกมาด้วยจนเกิดการยื้อแย่งปืนกัน ทำให้ปืนลั่นใส่หนึ่งในผู้ที่อยู่ในวงเหล้าจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนก่อเหตุทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ เรืออากาศเอก ธนิตศักดิ์ อายุ 60 ปี

 

วันนี้ (17 มี.ค.) ทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่ภายในซอยที่เกิดเหตุ ซอย ฝ.5 หมู่บ้านการเคหะ หมู่ 16 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พบว่าหลังจากมีการปิดล้อมพื้นที่และมีการควบคุมตัวเรืออากาศเอกธนิตศักดิ์ ออกจากพื้นที่เกิดเหตุไปแล้วเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา และมีการเปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรได้ตามปกติหลังมีการปิดล้อมพื้นที่ พบว่ามีร่องรอยของความเสียหายจากกระสุนปืนยิงที่กระเบื้องฝั่งของวงเหล้า ลักษณะเป็นรู

 

ด้าน นางสาวรินทร์ (นามสมมติ) ภรรยาของนายศุภชัย คนเจ็บ เผยว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้กลุ่มของตนเองมาเจอกับเพื่อนคนอื่นที่นั่งอยู่ที่ร้านอาหารกลางซอย และกำลังมีการย่างเนื้อเพื่อที่จะรอกินด้วยกัน ระหว่างนั้นก็เจอทหารเดินออกมาพร้อมกระเป๋าที่มีปืน ลักษณะมาโวยวายและโชว์ปืน จึงทำให้เพื่อนในกลุ่มของตนเองเข้าไปห้ามเพื่อไม่ให้มีเหตุ แต่แฟนของตนเองไม่ได้อยู่ประชิดตัวของทหาร อยู่ห่างจากตนเองเล็กน้อย แต่กลับถูกปืนยิงใส่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ปืนลั่น แต่ทหารตั้งใจเอาปืนมา เนื่องจากเข้าที่ท้องทะลุ

 

และในกลุ่มตนเองเพิ่งย่างเนื้อยังไม่ทันสุก จึงยืนยันว่าไม่ได้มีการส่งเสียงดังโวยวาย หรือเสียงดังรบกวนคนอื่นขนาดนั้น และตามที่ภรรยาของมือปืนอ้างว่ามีการเรียกสายตรวจเข้ามาระงับเหตุก่อนล่วงหน้าหลายครั้งก่อนที่จะมายิงนั้น ส่วนตัวยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะในวงของตนเองยังไม่มีตำรวจหรือสายตรวจคนใดเข้ามาระงับเหตุ เห็นแต่ตำรวจขับเข้ามาภายในซอยและแวะคุยกับคนอื่น จึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากลุ่มตนเองเสียงดังไปรบกวนเขา

 

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้สามีปลอดภัยแล้ว แต่ก็ต้องดูอาการเพราะถ้าหากเกิดปวดท้องก็จะจะต้องมีการดูอวัยวะอื่น ว่ามีอะไรเสียหายหรือไม่เพราะเนื่องจากอาจมีเลือดออกในช่องท้อง แต่โดยเบื้องต้นตนเองยังไม่ได้รับคำขอโทษหรือได้รับการติดต่อ จากทางครอบครัวของคนก่อเหตุแต่อย่างใด , แม้ว่าจะมีบางช่วงที่เห็นเดินเข้าออกบ้านแต่ก็ไม่ยอมพูดคุยกับครอบครัว จึงไม่รู้ว่าเค้าจะแสดงความรับผิดชอบในรูปแบบใด หรือจะเข้ามาขอโทษหรือไม่

 

ในที่เกิดเหตุมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ (แต่ไม่มีเสียง) ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 20.59 น. ของวันที่ 16 มี.ค. ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาทำการปิดล้อมกดดันและมีการควบคุมตัวคนก่อเหตุออกไปจากพื้นที่ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นว่า มีภรรยาของเรืออากาศเอก ใส่ชุดนอนเดินออกมาพร้อม แต่ภรรยาไปที่รถมอเตอร์ไซค์และกำลังจะเข็นรถมอเตอร์ไซค์ไปเก็บในโรงจอดรถ ด้านเรืออากาศเอกธนิตศักดิ์ ซึ่งในขณะนั้นใส่เสื้อสีฟ้า และมีการสะพายกระเป๋าปืนออกมาด้วย มีการเดินเข้าไปหากลุ่มที่นั่งล้อมวงกินเหล้ากันอยู่ ฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นร้านขายของชำ และมุมกล้องจะเห็นมีการยื้อแย่งปืน และหลังจากที่คาดว่าปืนลั่นแล้ว ตัวของภรรยาได้วิ่งจากรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปห้าม และลากตัวของเรืออากาศเอกธนศักดิ์เข้าไปภายในบ้าน แล้วจะเห็นว่าวงเหล้าเริ่มชุลมุนกันหลังจากมีคนถูกยิง

 

และนอกจากนี้ ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดอีกหลายมุม ซึ่งจะเห็นตัวของเรืออากาศเอกธนิตศักดิ์ ใส่เสื้อสีฟ้า เดินเดินออกมาจากบ้านพร้อมกับภรรยาที่ใส่ชุดนอน ก่อนที่จะเดินเข้าไปที่วงเหล้าแล้วมีลักษณะมีปากเสียงกัน และยื้อแย่ง จนกระทั่ง ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทำให้วงเหล้าแตก จากนั้นตัวของทหารมือปืนก็ถูกภรรยาลากกลับเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งก็จะมีภาพวงจรปิดอีกหลายหลายมุมเห็นพฤติกรรมทั้งมุมกว้างและมุมแคบ แต่จะมีกล้องบางตัวที่บันทึกเสียงปืนได้ชัดเจน ช่วงเวลาประมาณ 21.00น.

 

และหลังจากที่เสียงปืน สิ้นสุด จะเห็นวงเหล้าแตก โดยบางส่วนได้พยามเรียกรถเพื่อที่จะนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล และบางส่วนก็วิ่งหนีเสียงปืนเพราะกลัวว่าจะมีการก่อเหตุซ้ำ

 

จนกระทั่งภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพว่าเริ่มมีรถตำรวจสายตรวจเข้ามาในที่เกิดเหตุ ประมาณ 2 คัน เวลา 21.10น. ซึ่งก็เข้ามาถึงที่เกิดเหตุโดยทันที ก่อนที่จะมีการปิดล้อมพื้นที่ และกู้ภัยรวมถึงตำรวจนอกเครื่องแบบเริ่มเข้ามาสมทบ ก่อนที่จะมีการกดดัน และตัวของทหารคลั่งมอบตัวในเวลา 23.30 น. โดยประมาณ

 

และหลังจากที่ทหารได้มีการมอบตัวแล้วก็จะเห็นรถสายตรวจเอาทหารคลั่งขึ้นรถ แล้วมุ่งหน้าออกจากที่เกิดเหตุไปที่ สภ.บางเสาธง และกองพิสูจน์หลักฐานรวมถึงกู้ภัยเริ่มเข้าไปเคลียร์พื้นที่ ก่อนที่จะเห็นว่าตำรวจนอกเครื่องแบบเริ่มถอนกำลังออก

 

ด้านนางสาวมินตรา (นามสมมติ) ภรรยาของทหารคลั่ง เผยว่า เหตุการณ์เมื่อวาน ก่อนที่จะเกิดเหตุรุนแรง ยอมรับว่าตัวของสามีซึ่งเป็นทหาร ได้มีการออกไปเตือนและขอให้กลุ่มวงเหล้าบริเวณร้านขายของชำ ตรงข้ามหน้าบ้าน มีลักษณะเบาเสียงลง เพราะเนื่องจากมีการล้อมวงกินเหล้าเสียงดัง และไม่ใช่เพียงแค่เหตุการณ์เมื่อคืน ยังมีเหตุการณ์ครั้งอื่นที่มีการส่งเสียงดัง รบกวนจนสามีนอนไม่ได้ โดยสามีก็เคยออกไปเตือนเอง และเคยถึงขั้น แจ้งกับทางตำรวจสายตรวจเข้ามาดูแลอีกหลายครั้ง ซึ่งก็ไม่เป็นผล

 

และเมื่อคืนนี้ตนเองก็เดินออกไปพร้อมกับสามี ซึ่งก็เข้าใจว่าสามีจะออกไปเตือนตามปกติ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเอาปืนออกไปด้วย และที่สำคัญตัวเองออกไปก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปมีเรื่อง เพียงแค่ต้องการออกไปเก็บรถมอเตอร์ไซค์ จนกระทั่งช่วงที่ตัวเองเผลอมัวแต่เก็บรถมอเตอร์ไซต์ แล้วตัวของสามี ก็ได้ไปเตือน จนกระทั่งมีปากเสียงกันเสียงดัง และสามีดันเอาปืนออกมา จนกระทั่งมีการยื้อแย่งกันแล้วลั่นใส่กลุ่มวงเหล้าจนกระทั่งได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นตนเองก็ได้แยกเอาสามีเข้ามา เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุรุนแรงอีก

 

แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่คิดด้วยซ้ำ ว่ามันจะเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นนี้ แต่ก็อยากจะให้เข้าใจหัวอกของคนเพื่อนบ้านด้วยกัน ที่กลุ่มนี้มักจะมีการ ล้อมวงกินเหล้าส่งเสียงดัง หากเป็นวันทั่วไปก็จะนั่งกินเหล้าประมาณ 5-6คน และยิ่งเป็นวันหยุดก็จะล้อมวงกันไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งตนเองก็เข้าใจว่าเป็นเพียงแค่ร้านอาหารตามสั่งหรือร้านขายของทั่วไป แต่ทำไมถึงปล่อยโอกาส ให้คนมานั่งกินเหล้าส่งเสียงดัง และเหมือนเปิดเป็นร้านเหล้าแบบนี้ได้ เพราะโดยส่วนใหญ่คนจะเปิดเป็นร้านเหล้าก็ต้องมีใบอนุญาต

 

และสำหรับตัวของสามีของตนเองยอมรับว่าช่วงหลังมีอาการป่วยแต่ไม่ได้ป่วยทางจิต ลักษณะป่วยคือกินไม่ได้นอนไม่หลับ เนื่องจากมีความเครียดเกี่ยวกับเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน และกลุ่มแก๊งวงเหล้าที่กระทบเวลานอน เนื่องจากมีการเปิดเพลง กินเหล้า พูดคุยกันเสียงดัง จนต้องพึ่งยายานอนหลับ และเมื่อคืนนี้สามีของตนเองก็กินยาเข้าไปและเตรียมจะนอนแต่ยาไม่ทันได้ออกฤทธิ์ จึงได้ออกไปเพื่อที่จะสั่งให้เบาเสียงแต่เกิดเหตุขึ้นก่อน

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนเองยอมรับว่าเครียดมาก เพราะไม่คิดว่าจากเรื่องปัญหาของคนในชุมชนด้วยกันจะบานปลายถึงขั้นสามีเอาปืนไปยิง และตอนนี้ตนเองก็กำลังเดินเรื่องของสามีของตนเองอยู่ แต่ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนกลุ่มของคนเจ็บและฝั่งของผู้เสียหายเบื้องต้นยังไม่ได้คุยอะไรกัน โดยหลังจากนี้ก็คงจะติดต่อไปเพื่อร่วมรับผิดชอบ เพราะเนื่องจากสามีตนเองก่อเหตุไปแล้ว

 

ด้านคนก่อเหตุได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมยืนยันว่าออกไปเตือนแล้ว เตือน 2 ครั้ง มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย แต่อีกฝั่งก็ยังส่งเสียงดัง พอผมออกไป เขามาแย่งปืนผม ปืนก็เลยเกิดลั่นออกมา

 

และได้ขณะเดียวกัน ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังซอยที่เกิดเหตุ ยังได้พูดคุยกับ นางสาวน้ำเพชร (นามสมมติ) ชาวบ้านภายในซอยที่เกิดเหตุ เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองเคยคิดมาตลอดว่าสักวันต้องมีเรื่องใหญ่ เพราะเนื่องจากกลุ่มขี้เมา ซึ่งเป็นหน้าตาเดิมๆ มักจะมีการมารวมกลุ่มกินเหล้ากันเป็นประจำ ทุกวัน ไม่ใช่แค่วันหยุดหรือแค่เสาร์-อาทิตย์ หรือวันนักขัตฤกษ์ เพราะเลิกงานก็พากันมาตั้งวงกินเหล้าเสียงดัง ประกอบกับบ้านหลังดังกล่าวเป็นเพียงแค่ร้านขายของทั่วไป ไม่ได้ตั้งเป็นร้านเหล้า จึงไม่ควรปล่อย ให้กลุ่มดังกล่าวมานั่งกินเหล้าเสียงดังตั้งแต่เย็นจนกระทั่งถึงดึกทุกวัน ซึ่งก็ไม่แปลกที่เพื่อนบ้านในละแวกในซอยจะไม่พอใจ หรือจะไปมีเรื่องด้วย โดยเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ส่วนตัวไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะโดนเพียงแค่ 1 นัด น่าจะโดนเกือบ 100 นัด เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนเอือมระอาหมดแล้ว แจ้งใครเข้ามาตรวจสอบดูแลก็ไม่มีใครช่วย เรียกตำรวจเข้ามาได้แต่เงียบไปพักเดียว ตำรวจกลับไปก็เหมือนเดิม บางวันถึงขั้นเปิดเพลงร้องคาราโอเกะ ซึ่งไม่เคารพสถานที่ซึ่งเป็นที่พักผ่อน

 

และคนส่วนใหญ่ที่พักอาศัยอยู่ภายในซอย ก็มีมีทั้งคนไทยและพม่า อีกทั้งส่วนใหญ่ทำงานโรงงาน เป็นกะ 3 เวลา จึงไม่มีใครกินนอนที่เป็นเวลา ดังนั้นจะอ้างว่าเป็นช่วงเวลาตอนเย็นหลังเลิกงานจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวอาจจะเป็นช่วงที่บางคนเพิ่งเลิกงานกลับมาต้องการพักผ่อน และส่วนตัวชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็คงจะเงียบไปพักหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็คงกลับมาเหมือนเดิม ทุกครั้งที่มีเรื่องก็จะเงียบ แต่พอผ่านไปช่วงหนึ่ง ก็กลับมาล้อมวงนั่งเสียงดังกันอีก เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ ตนเองก็เชื่อว่าเดี๋ยวก็ต้องกลับมาเสียงดังอีกอีกครั้ง

 

หากย้อนกลับไป กลุ่มแก๊งขี้เหล้า ไม่ใช่แค่สร้างปัญหาเรื่องเสียงดังรบกวนชาวบ้าน โดยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา เพิ่งจะก่อเหตุนั่งกินเหล้ากัน แล้วมีกลุ่มวัยรุ่นผ่านเข้ามาภายในซอย ยังถูกล้อมและพากันกระทืบจนกระทั่งวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บ บางครั้งแค่พม่าเดินผ่านโวยวายไม่พอใจก็ยังถูกกระทืบ ซึ่งก็มีภาพจากกล้องวงจรปิดชัดเจน

 

แล้วยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ชาวบ้านต้องสุดจะทนกับพฤติกรรมของกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเมาแล้วอ้วกหน้าบ้านคนอื่น หรือเมาแล้วเดินไปฉี่รดหน้าบ้านคนอื่น ซึ่งตนเองก็ติดตั้งกล้องวงจรปิดจับภาพเอาไว้ได้ว่ามีการมาฉี่ที่หน้าบ้านจริง ฉี่เสร็จก็ยังมีการยกมือไหว้ตุ๊กตาหมา ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมีพฤติกรรมแบบนี้ เมาแล้วไม่ยอมกลับ แต่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในซอย

ทหารอ้างปืนลั่น ช่อง 8 เปิดหลักฐานเด็ดดูกันชัดๆ ชาวบ้านเอือม "แก๊งนรก" ก่อกวน