จากกรณีที่เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยินกันเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณด้านหน้าเวทีหมอรำ ในงานบุญอุปสมบท บ้านบุเสมา ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัด โดยพบมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือนายณัฐภัทร อายุ 18 ปี หรือบอม ถูกยิงด้วยปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เข้าบริเวณหน้าอก ห่างออกไปเล็กน้อย พบผู้ถูกยิงอีก 1 ราย ทราบชื่อคือนายฐิติพล อายุ 33 ปี หรือบอม โดนยิงที่บริเวณหน้าแข้งได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวคนก่อเหตุและสามารถตามจับกุมตัวได้แล้ว ต่อมาทราบชื่อคือนายธนารัตน์ อายุ 19 ปี หรือเจมส์ และอีกทั้งอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวผู้ก่อเหตุอีกหนึ่งรายที่ก่อเหตุใช้ปืนยิงนายฐิติพล บริเวณหน้าประตูโรงเรียนได้รับบาดเจ็บ หลังหลบหนีไปกบดานในพื้นที่อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา มายังสภ.บัวใหญ่

ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางมาที่ สภ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี

ซึ่งเราได้พบกับนางแวว ฉันงูเหลือม อายุ 64 ปียายของนายธนารัตน์ บัวศรี คนก่อเหตุ เดินทางมาเยี่ยมหลานชายที่โรงพักพอดี

โดยนางแวว ได้เล่าให้เราฟังว่า ตนเองเลี้ยงหลานชายคนนี้มีตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน ซึ่งนิสัยหลานชายเป็นคนสนุกสนาน รักเพื่อน และเป็นคนจิตใจดี และไม่เคยมีปัญหากับใคร แถมยังเป็นคนอารมณ์ดีมาก

แต่วันก่อนเกิดเหตุตนเองทะเลาะกับหลาน เพราะหลานชายไปทำงานแล้วเบิกเงินค่าแรงออกมาเลี้ยงเพื่อนจนหมด จึงทำให้ตนเองไม่พอใจและไม่คุยกันกับหลานชาย จึงไม่รู้ว่าหลานชายออกไปเที่ยวงานหมอลำกับเพื่อน จนกระทั่งมีตำรวจบุกเข้ามาจับกุมที่บ้าน ถึงได้ทราบว่าหลานชายไปก่อเหตุยิงคนอื่นตาย

นางแวว ยังบอกอีกว่า หลังหลานชายถูกจับตนได้สอบถามเหตุการณ์กับหลาน ซึ่งหลานได้รับสารภาพทั้งหมดว่าคนก่อเหตุยิงคนตายจริง เนื่องจากว่าจะเข้าไปช่วยเพื่อนที่กำลังมีเรื่องกันกับคนตาย โดยก่อนหลานชายจะยิงคนตาย หลานชายได้นำปืนออกมาข่มขู่ให้หยุดมีเรื่องกัน แต่คนตายไม่หยุด หลานจึงได้ยิงปืนใส่คนตาย นอกจากนี้หลานยังยอมรับว่าอาวุธปืนเป็นของหลานชาย แต่ตนเองไม่เชื่อ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าหลานไม่มีเงินไปชื้อปืนแน่นอน เพราะหลานจะขอเงินแค่วันละ 20-30 บาทไปกินก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น โดยไม่เคยขอมากไปกว่านี้

พร้อมทั้งอยากขอโทษครอบครัวคนตายแทนหลานชาย หลังจากนี้ก็ให้หลานไปชดใช้สิ่งที่หลานก่อ เพราะถือเป็นเวรกรรมของตัวหลานชาย

อย่างไรก็ตามนางแวว ยังบอกกับเราอีกว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองฝันไม่ดีมา 2 คืน ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นลางไม่ดีเกิดขึ้นกับหลานชาย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ ได้ควบคุมนายสุรศักดิ์ หรือ เต้ อายุ 32 ปี มือยิงนายฐิติพล อายุ 33 ปี หรือบอม ได้รับบาดเจ็บ มาที่ห้องสืบสวน หลังตำรวจติดตามจับกุมได้ที่อำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาของผู้ต้องหา หลังเกิดเหตุภรรยาได้ขับรถเก๋งมิตซูบิชิ สีดำ มารับตัวนายสุรศักดิ์หลบหนีไปที่บ้านพัก

โดยในระหว่างนี้ทีมข่าวเราได้พยายามสอบถามถึงปมเหตุที่ก่อเหตุยิงนายบอม ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเจ้าตัวไม่ยอมปิดปากตอบคำถามนักข่าว ก่อนที่นักข่าวจะถามเจ้าตัวว่ามีอะไรอยากจะพูดหรือขอโทษคนเจ็บหรือไม่ โดยเจ้าตัวได้ตอบผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่าไม่มีอะไรจะพูด ต่อมาผู้สื่อข่าวก็ได้พยายามสอบถามนายเต้หลายครั้งแต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่ตอบคำถามนักข่าว

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าในคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายธนารัตน์ อายุ 19 ปี หรือเกมส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก และตอนนี้อยู่ระหว่างการควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง เพื่อรอสอบปากคำเพิ่มเติมและฝากขังในวันพรุ่งนี้ พร้อมแจ้งข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน 3.พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วนนายสุรศักดิ์ หรือ เต้ ที่เพิ่มติดตามจับตัวได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาและยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เพื่อรอแจ้งข้อกล่าวหา

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านบุเสมา ต่อมาได้สอบถามนายนายอุเทน อายุ 47 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองนั่งอยู่บนรถซาเล้ง หลังจากที่คอนเสิร์ตหมอลำแสดงจบลง เห็นกลุ่มวัยรุ่นกำลังจะทะเลาะกัน จึงลงจากรถซาเล้งเพื่อที่จะเข้าไปห้าม จังหวะนั้นมองไปเห็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นคว้าปืนออกมาจากในกระเป๋า จึงรีบถอยออกมา ไม่นานได้ยินเสียงคนก่อเหตุพูดว่า “มึงอย่าเข้ามานะ กูมีปืน” แต่บอม (ผู้ตาย) ไม่ยอมฟังได้เดินเข้าไปหาเจมส์ (คนก่อเหตุ) จากนั้นเจมส์ได้ชักปืนยิงบอมล้มลงต่อหน้าต่อตา ตอนนั้นคิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเพราะหมอลำก็เลิกการแสดงแล้ว

ขณะที่เมื่อเย็นที่ผ่านมา ที่วัดสว่างมหาโพธิ์ ต.หนองแจ้งใหญ่ อ.บัวใหญ่ โดยทางครอบครัวได้มีการจัดประกอบพิธีรดน้ำศพและประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลนายณัฐภัทร ดีไร่ อายุ 18 ปี หรือบอม ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า

ต่อมาเราได้คุยกับนางนิภาพร ทนงยิ่ง อายุ 34 ปี แม่คนตาย เล่าให้เราฟังว่า เกิดเหตุประมาณหนึ่งทุ่มลูกชายได้โทรศัพท์มาหาตนเองเพื่อขออนุญาตอนุญาตไปเที่ยวงานหมอลำกับน้องชาย ซึ่งในตอนนั้นตนเองอยู่ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา จึงได้บอกให้ลูกชายระวังตัว อย่าโดยปกติแล้วตนเองก็ไม่ค่อยเป็นห่วงลูกชายมากนักเนื่องจากว่าทุกครั้งที่ลูกชายออกไปเที่ยวก็จะไม่ค่อยมีปัญหาหรือมีเรื่องทะเลาะกับใคร เที่ยวงานเสร็จก็จะกลับบ้าน

จนกระทั่งประมาณเที่ยงคืนตนเองเริ่มออกเดินทางจากอำเภอครบุรีเพื่อจะเดินทางต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อไปเอาหัวมันสำปะหลังกลับมาขายต่อที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตนเองเดินทางไปถึงจังหวัดสุรินทร์ก็มีญาติโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกยิงในงานหมอลำอาการเป็นตายเท่ากัน ตนเองจึงได้ตีรถกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว

ส่วนปมเหตุที่ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงลูกชาย ตนเองไม่ทราบจริงๆ และไม่เชื่อว่าลูกชายของตนเองมีเรื่องทะเลาะกับผู้ต้องหา เนื่องจากตนเองไม่เคยมีปัญหาและไม่เคยรู้จักกับเพื่อนมาก่อน จึงไม่เชื่อว่าเป็นอริ แต่คาดว่าผู้ต้องหายิงผิดคน เพราะมีคนชื่อบอมคล้ายกับลูกชายอีกคนที่มีเรื่องกับผู้ต้องหา

แม่คนตาย ยังบอกอีกว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 วัน ตนเองรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เพราะตอนที่ตนเองกำลังจะเดินทางไปเอาหัวมันสำปะหลังที่ประเทศเพื่อนบ้านตนเองได้กลิ่นธูปลอยมาตามทางตลอดที่ตนเองนั่งรถไปเอาหัวมันสำปะหลัง ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็ไม่คิดว่าจะเป็นรางบอกเหตุกับลูกชาย

นอกจากนี้ตนได้บอกลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายให้ลูกชายไปสู่ภพภูมิที่ดีและไม่ต้องห่วงอะไร ส่วนผู้ต้องหาหากต้องการอยากจะมาขอขมาส่งลูกชายของตนเองก็ไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะ ไม่อยากให้มีเวรกรรมต่อกัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับกลุ่มรุ่นน้องผู้ตาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า กลุ่มของตนและรุ่นพี่กำลังพากันเต้นอยู่หน้าเวทีหมอลำ พี่บอมคนที่ถูกยิงบาดเจ็บมีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มนายเจมส์คนก่อเหตุ จากนั้นพี่บอม(คนตาย) เห็นว่ากลุ่มของตนกำลังทะเลาะกันจึงจะเข้าไปช่วย เจมส์ได้ชักปืนขึ้นมาพร้อมขู่ว่าอย่าเข้ามากูมีปืน แต่พี่บอม(คนตาย) คิดว่าเป็นปืนปลอมเดินดิ่งเข้าไปหาเจมส์ จากนั้นเจมส์ได้ยิงสวนทันที แล้วก็วิ่งหนีหายไป ซึ่งคนที่มีปัญหากันไม่ใช่เรื่องของพี่บอม(คนตาย) แต่เป็นเรื่องบาดหมางของพี่บอมคนเจ็บ พี่บอม(คนตาย) เป็นคนรักเพื่อนคาดว่าจะเข้าไปช่วยเพื่อนเลยถูกยิงตาย