จากกรณีวันที่ 17 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเวลา 07.00 น. ร.ต.อ.พงศพัศ อัครปรีชาพงพัน รอง สว.สอบสวน สภ.พนา ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรม ที่บ้านดอนขวัญ ต.พนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.พนา เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว พบศพ นางนิตยา อายุ 56 ปี อยู่ภายในห้องบ้านหลังดังกล่าว โดยสภาพศพนอนหงายอยู่บนที่นอนสวมเสื้อสีฟ้า และผ้าถุงสีม่วง พบร่องรอยการถูกฟันอย่างแรงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณลำคอ ใกล้กับศพพบขวานซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุในการฆาตกรรมครั้งนี้ ซึ่งผู้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้คือนายสายสุรีย์ อายุ 63 ปี สามีของผู้ตาย จากการสอบถามเพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุนั่นมีอาการป่วยทางจิตเวช มีอาการหึงหวงภรรยา และเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาทั้งคู่มีปากเสียงกัน และคาดว่าสามีของผู้ตายจะใช้ขวานฟันเข้าที่บริเวณคอของผู้ตาย

 

วงจรปิดจับภาพผัวขี่รถจยย.พาเมียไปนอนเถียงนา หลังฆ่าเมียขี่รถจยย.กลับไปนอนรอตำรวจที่บ้าน

 

ส่วนภาพวงจรปิด เมื่อวันที่ 16 มี.ค 67 เวลา 21.13 น. จะสามารถจับภาพ นายสายสุรีย์ ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ โดยมี นางนิตยา (ผู้ตาย) นั่งซ้อนท้ายกันเข้าไปในซอยข้างวัดดอนขวัญ จากนั้นก็เข้าไปที่เถียงนาแล้วก็หายไปทั้งคืน

 

จากนั้นเวลาประมาณ 06.29 น. ของเช้าวันที่ 17 มี.ค. 67 กล้องวงจรปิดตัวเดียวกันก็จะสามารถจับภาพ นายสายสุรีย์ ผู้ก่อเหตุขี่รถจยย. ออกจากซอยในช่วงเช้าตรู่ หลังจากที่ก่อเหตุ ฆ่าภรรยาเมื่อคืนนี้ และนอนอยู่กับภรรยาจนกระทั่งเช้า

 

จากนั้นกล้องวงจรปิด ตรงทางเข้าบ้านของผู้ตาย จะเห็นว่า เวลา 06.31 วันที่ 17 มี.ค.67 นายสายสุรีย์ ผู้ก่อเหตุ ได้ขี่จยย. เลี้ยวเข้าซอยบ้าน โดยจะผ่านร้านค้าซึ่งเจ้าตัวขี่รถกลับมานิ่งๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

จนกระทั่งต่อมาภาพวงจรปิดมุมแรกบริเวณข้างวัด จะเห็นว่า ในเวลา 07.20 น.ตำรวจ สภ.พนา ขับรถเปิดสัญญาณไซเรน เข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุและหลังพบศพจึงไปจับกุมตัวนายสายสุรีย์ ที่บ้านพัก

 

ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวได้ไปเจอกับนางสมถวิล อายุ 57 ปี เป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย บอกว่า เมื่อวานนี้ตอนประมาณ 21.30 น. ตนเองเห็นนางนิตยา ผู้ตาย ซ้อนรถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านกับนายสายสุรีย์ ซึ่งตอนนั้นยืนยันว่า ไม่เห็นท่าทีที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันแม้แต่นิดเดียว จากนั้นทั้งคู่ก็หายไปทั้งคืน จนกระทั่งประมาณตีห้ากว่าๆ ลูกชายของผู้ก่อเหตุ ก็โทรศัพท์มาหาตนเองว่า รบกวนไปดูแม่ของเขาให้หน่อย เนื่องจากพ่อของเขาโทรมาบอกว่าแม่นอนตายอยู่ที่เถียงนา ซึ่งตนเองยอมรับว่าไม่ได้ไปดูให้เพราะขับรถไปซื้อของอยู่อีกหมู่บ้าน

 

จนกระทั่งประมาณ 6 โมงเช้า ตอนที่มาถึงบ้าน ก็เห็นนายสายสุรีย์ ผู้ก่อเหตุขี่รถกลับมาที่บ้านคนเดียว ซึ่งพอกลับมาถึงก็เดินเข้าบ้านและปิดประตูเก็บตัวอยู่ในบ้าน จนกระทั่งตำรวจมาจับตัวชาวบ้านถึงมารู้ว่าเขาฆ่าเมียแล้วก็หนีกลับมาที่บ้าน

 

ส่วนปัญหาของผู้ตายกับผู้ก่อเหตุ เรื่องของการหึงหวงกัน เท่าที่รู้ นายสายสุรีย์ เริ่มระแวงว่านางนิตยา จะไปมีคนอื่นทุกครั้งที่นางนิตยา ไปอบรมหรือไปร่วมทำกิจกรรมกับทางเทศบาล ซึ่งด้วยความที่นางนิตยา เป็น สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.)เวลามีการสัมมนา ก็จะไปทำหน้าที่ตามปกติ มีไปค้างต่างจังหวัดบ้างและกลับบ้านดึกบ้าง ซึ่งที่ผ่านมา ก็ไม่เคยได้ยินว่านางนิตยา จะไปมีคนอื่นตามที่นายสายสุรีย์ คิดไปเอง ซึ่งเมื่อคืนนี้ส่วนตัวเชื่อว่า นายสายสุรีย์ น่าจะใช้โอกาสตอนที่ลูกไม่อยู่ลงมือฆ่านางนิตยา

 

ทีมข่าวได้เจอกับนายจ้อย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซึ่งบ้านจะอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เล่าว่า ก่อนจะเกิดเหตุตนเองเห็นนายสายสุรีย์ ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์พานางนิตยา ผู้ตายเข้ามาที่เถียงนาในช่วงประมาณ 21.00 น. จากนั้นประมาณตีสอง ก็ได้ยินเสียงหมาที่บ้านตนเองเห่าคนเดินผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน จนกระทั่งประมาณ 6 โมงเช้าก็เห็นนายสายสุรีย์ คนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากจุดเกิดเหตุ และประมาณ 7 โมงเช้าตำรวจก็เข้ามาพบศพของนางนิตยา

 

ยืนยันก่อนหน้านี้ ตนเองไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกัน เพราะเท่าที่รู้ส่วนมากนางนิตยา จะขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาดูวัวแต่ไม่เคยมานอนในที่เกิดเหตุ

 

โดยเมื่อเวลา 15.30 น. ทางญาติๆได้รับศพของนางนิตยา กลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบูรพา ในตำบลพนา อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งทันทีที่ศพมาถึง ทางญาติๆและชาวบ้านรวมถึงเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย ได้มีการนำชุดขาวและรองเท้าของนางนิตยา มาวางข้างๆรูปภาพ จากนั้นทางสัปเหร่อ ก็มีการทำพิธีมัดตราสังให้กับร่างไร้วิญญาณของนางนิตยา ก่อนที่จะนำผ้าขาวมาห่อร่างของนางนิตยา

 

หลังจากนั้นก่อนที่จะนำร่างของนางนิตยา ไปใส่ในโลงศพ ก็จะมีพิธีจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณตามความเชื่อเพื่ออโหสิกรรมให้กันและกัน จากนั้นทางญาติๆและชาวบ้านจึงมีการช่วยกันยกร่างของนางนิตยา ใส่โลงศพ ซึ่งบรรยากาศในช่วงดังกล่าวเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากลูกชายของผู้ตายทั้งสองคนได้แต่นั่งร้องไห้ โดยจะมีบางช่วงบางตอนที่จะเห็นว่า ลูกชายคนเล็กของผู้ตาย มีการไปนั่งเกาะโลงศพแล้วก็นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น

ผัวหึงโหดใช้ขวานสับคอเมีย ใจเหี้ยมนอนกับศพยันเช้า