จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 16 มี.ค.67 ร.ต.อ.อนิวัตร สุบงกช พนักงานสอบสวน สภ.ด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้ง จาก รพ.ด่านช้าง ว่ามีผู้ถูกยิง มารักษาตัวที่ รพ.แล้วเสียชีวิต ในเวลาต่อมา เหตุเกิดบริเวณ 4 แยก ริมถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ 5 ตำบลด่านช้าง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี

ที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือด และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีถุงใส่ของ แบบพนักงานส่งสินค้าที่ข้างรถ หมวกกันน็อกสีฟ้า ตกอยู่ 1 ใบ บุหรี่ไฟฟ้า ตกห่างที่รถล้มประมาณ 5 เมตร และ มีปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ถูกยิงมีชาวบ้านนำส่ง รพ.ด่านช้าง ไปก่อนหน้าแล้ว แต่เสียชีวิตเวลาต่อมา ทราบชื่อนายอัฐพร อายุ 27 ปี ถูกยิงที่หลัง 1 นัด และจะได้ส่งศพไปชันสูตรบาดแผลและสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชต่อไป

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยพบในวันที่ 16 มีนาคม 2567 เวลา 18.37 น. นายอัฐพร ผู้ตาย และนางเวนุกา ภรรยา ขับรถจักรยานยนต์ เข้ามาส่งของที่บ้านของ นางปลา โดยนายอัฐพร ได้เดินเข้าไปหากลุ่มของนายปืน ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกของนางปลา จากนั้นเดินออกมาที่รถตนเอง เพื่อโทรหานางปลา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้ตายพูดด่าหยาบคาย และโวยวาย ก่อนจะขับออกไป

จากนั้นเวลา 18.39 น. พบนายอัฐพรและภรรยา ขับรถออกจากซอยบ้านผู้นางปลา เพื่อจะไปส่งของที่บ้านหลังอื่น ต่อมาพบว่าในเวลา 18.44 น. กลุ่มเด็กวัยรุ่นนี้ได้ขับรถตามนายอัฐพรมา

จากนั้น นายอัฐพร ผู้ตาย และนางเวนุกา ภรรยา ได้ขับรถเข้าไปอีกซอย เพื่อส่งพัสดุให้บ้านหลังอื่น

โดยกลุ่มของนายปืน มือยิง ได้ขับรถตามผู้ตายมาในเวลาไล่เลี่ยกับผู้ตาย

จากนั้นในเวลา 18.47 กลุ่มนายปืน มือยิง ได้ขับรถออกมาก่อน เพื่อจะไปดักรอผู้ตายที่ 4 แยก หน้าซอย

ต่อมาไม่ถึง 1 นาที ผู้ตายได้ขับรถออกมาหลังจากส่งของเสร็จ เพื่อมุ่งหน้าไปหน้าซอย

จากนั้นผู้ตายได้ขับรถออกไปยังหน้าปากซอย ก่อนที่จะถูกยิง 1 นัดในเวลา 18.49.01 วินาที (กล้องจับเสียงได้ 1 นัด)

โดยวันนี้ตำรวจได้นำตัวนายกิรติศักดิ์ หรือโฟร์ อายุ 18 ปี 1 ในผู้ก่อเหตุ (ไม่ใช่มือยิง) ออกมาสอบปากคำเพิ่ม โดยหลังจากที่สอบปากคำเสร็จและนำตัวกลับไปยังห้องขัง ทีมข่าวได้สอบถามนายโฟร์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นมาอย่างไร โดยนายโฟร์บอกกับทีมข่าวตนเองทำแค่ชกต่อยเท่านั้น ไม่รู้ว่านายปืนเพื่อนตนยิงปืนตอนไหน ตอนที่ด่ากันตนก็ไม่ได้ยิน เพราะตนนั่งอยู่หลังบ้าน โดยทั้งหมดอยู่กัน 5 คน โดยคนแรกที่เริ่มไปต่อยผู้ตายคือนายอาร์ม ส่วนคนยิงคือนายปืน

ด้านของนางปลา แม่ของนายปืน มือยิง ได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชายที่สภ.ด่านช้าง หลังจากที่เยี่ยมลูกชายเสร็จได้เดินออกมา ทีมข่าวจึงขอเข้าพูดคุยด้วย แต่ทางนางปลาปฏิเสธ และเดินหนีขึ้นรถไป

โดยทีมข่าวได้พยายามสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนางปลาตอบเพียงว่าตนไม่อยู่ไปงานเลี้ยง และยังไม่สะดวกพูดอะไร ก่อนที่จะขึ้นรถปิดประตูขับออกไป

ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้พบกับนางปลา แม่ของนายปืน มือยิงอีกครั้ง โดยรอบนี้นางปลาเปิดใจกับทีมข่าวว่า ตัวผู้ตายนั้นก่อนจะเข้ามาส่งของให้ตนที่บ้านไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าเลยว่าจะมา และไม่ได้โทรหาตนเลย แต่เขาเข้ามาที่บ้านตนเลยแล้วค่อยมาบอกตนว่าถึงบ้านแล้ว เอาของมาส่ง ตนจึงบอกเขาว่าตนไม่สะดวกรับ ไม่อยู่บ้าน ให้เขามาพรุ่งนี้ จากนั้นเขาก็ด่าตนเลย ให้ของลับเขา ตนจึงโมโหแล้วตอบเขากลับไป มาด่ากูได้ไง ตนก็ยังไม่ทันวางสายเขาก็โวยวายว่า “กูไม่ได้ส่งบ้านมึงบ้านเดียวนะ” จากนั้นตนจึงวางสายไป

ตนก็ยอมรับว่าตนโมโห แต่ตนไม่ได้โทรไปบอกลูกชาย แต่ลูกชายเขาได้ยินเอง เพราะเขาอยู่กับผู้ตายที่บ้าน ด้วยความที่เขารักแม่ เขาคงจะโกรธแทนตน เพราะเขามักบอกอยู่เสมอว่าใครก็ห้ามทำแม่เขา ส่วนสภาพจิตใจน้องปืน (ผู้ก่อเหตุ) ตอนนี้โอเคดี

ซึ่งตนรู้สึกว่าการที่ผู้ตาย ซึ่งเป็นพนักงานขนส่งนี้มาส่งของยามวิกาลแบบนี้มันดูคุกคามตนจนเกินไป แล้วปกติเวลาสั่งของคนส่งก็จะต้องมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนว่าจะเข้ามา แต่คนนี้กลับไม่มีเลย

ตนก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ลูกตนก็ยังเด็กและทำไปด้วยอารมณ์เด็ก ตนก็ไม่รู้ช่วยเยียวยาเขาได้อย่างไร เพราะตนก็ไม่มีเงิน คงไม่ได้เข้าไปพูดคุยกับทางฝั่งผู้ตาย ปล่อยให้เป็นเรื่องของกฎหมาย คดีความไป

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายังวัดหนองแจ้ง ตำบลหนองมะค่าโมง อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่สวดอภิธรรมศพของนายอัฐพร โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แม่ของผู้ตาย พร้อมญาติๆ ก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ

โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับนางสาวเวนุกา อายุ 31 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดใจกับทีมข่าวว่า ขณะที่เกิดเรื่องตนเองอยู่ด้วย โดยตอนนั้นตนได้เข้าไปส่งของกับสามี ตอนที่เข้าไปถึงที่บ้านนั้นก็พบว่ามีเด็กกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่หน้าบ้าน สามีตนจึงไปถามเด็กกลุ่มนั้นว่านางปลาอยู่บ้านหรือไม่ แต่เด็กตอบว่าไม่อยู่ สามีตนจึงโทรหานางปลาบอกว่ามาส่งของ แต่นางปลากับด่าสามีตนว่า “มาส่งของอะไรตอนนี้ มาทำอะไรตอนนี้” (แบบหยาบคาย) สามีตนจึงโมโหและตอบเขากลับไปด้วยคำหยาบคิดว่ากูส่งของให้มึงคนเดียวหรือไง” จากนั้นจึงวางสายไปและขับรถออกไปส่งของบ้านอื่น

หลังจากส่งของเสร็จขับรถออกมาตรงสี่แยกก็เจอเด็กกลุ่มนี้กวักมือเรียก และถามว่าเป็นคนส่งพัสดุใช่ไหม แฟนตนจึงจอดรถเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนที่เขารอพัสดุอยู่ แต่ยังไม่ทันจอดดีกลุ่มเด็กวัยรุ่นนี้ก็รุมเตะต่อยแฟนตนจนรถล้มลง ขาตนก็เกี่ยวไปกับรถล้มไปด้วย

จากนั้นแฟนตนก็วิ่งหนี เพราะเห็นปืนที่ 1 ในกลุ่มวัยรุ่นนี้ชักออกมาจากเอวแล้ว เป็นปืนดัดแปลง จากนั้นกลุ่มเด็กวัยรุ่น 5 คนนี้ ก็วิ่งตามไปรุมกระทืบต่อ โดยตนได้ยินคนพูดว่า “มึงมาด่าแม่กูทำไม” จากนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นเลย ตนได้ยินเสียงปืนจึงรีบวิ่งเข้าไปหาแฟน กลุ่มเด็กนั้นก็ยังรุมเตะสามีตนซ้ำอยู่เลย ก่อนที่พวกเด็กนี้จะวิ่งหนีไป

ที่ผ่านมาสามีตนก็ไม่เคยมีปัญหากับวัยรุ่นกลุ่มนี้มาก่อน ถ้าหากมีอะไรเขาก็จะเล่าให้ตนฟังตลอด ซึ่งแถวนี้สามีตนก็มาส่งบ่อยไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ส่วนบ้านนี้ตนไม่รู้ว่าเขาส่งมากี่ครั้งแล้ว ซึ่งปกติก่อนจะเข้าไปส่งของสามีตนก็จะโทรแจ้งเจ้าของพัสดุก่อนตลอด แต่บ้านนางปลาตนไม่แน่ใจว่าสามีตนโทรก่อนเข้าไปหรือไม่ ซึ่งจริงๆ ถ้าหากไม่สะดวกรับของก็บอกกันดีๆได้ แต่นี่เขามาด่าสามีตนก่อนเลย

ตนก็อยากให้วัยรุ่นทั้ง 5 รายนี้ควรจะได้รับโทษมากกว่านี้ถึงจะเป็นเยาวชนก็เถอะ เพราะการทำแบบนี้มันเกินกว่าเหตุมาก ตนก็ขอให้พวกนี้ได้รับผลกรรมกับสิ่งที่เขาทำ