วันที่ 15 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคดีหนุ่มรัสเซียชื่อว่า อาเธอร์ ถูกฆ่าปาดคอหมกฟาร์มกัญชา ภายในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่ จ.ภูเก็ต โดยคดีนี้มีผู้ต้องสงสัยคือเพื่อนของผู้ตายชื่อว่า นายบาซู ที่คาดว่าเป็นคนลงมือฆ่า และได้หนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้น

ล่าสุดทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพนายบาซู ขี่รถจักรยานยนต์ pcx สีแดง โดยกล้องตัวแรกในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 19.15 น. จะเห็นว่านายบาซูได้ขับรถออกจากซอยน้ำใส ซึ่งเป็นซอยที่เกิดเหตุฆาตกรรมนายอาเธอร์ โดยในภาพจะเห็นว่านายบาซูได้ขี่รถออกมาเพียงคนเดียว สวมชุดสีดำและมีกระเป๋าสะพายหลังจำนวน 1 ใบ

จากนั้นในเวลา 19.16 น. บริเวณถนนเจ้าฟ้าตะวักตกสามารถจับภาพนายบาซูได้จำนวน 4 มุม จะเห็นว่านายบาซูได้ขับรถไปตามเส้นทางต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะเลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกฉลอง เพื่อมุ่งไปยังสนามบินภูเก็ต

ขณะที่ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางกล้วย (นามสมมติ) อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของนายบาซู (ผู้ต้องสงสัย) เผยว่า นายบาซูได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านเช่าหลังนี้เกือบจะ 1 ปีแล้ว แต่ตนก็ไม่รู้หรอกว่าในบ้านเขาจะอาศัยอยู่กันกี่คน เพราะตนก็ไม่เคยไปสุงสิงอะไร เห็นว่าเขาเป็นชาวต่างชาติจึงไม่กล้าเข้าไปคุยด้วย แต่เท่าที่สังเกตเห็นทุกวันในช่วงค่ำจะมีชาวต่างชาติคนอื่นแวะเวียนเข้ามาที่บ้านนายบาซู บางครั้งก็จะมีผู้หญิงไทยมาด้วย ซึ่งบ่อยครั้งที่มีการรวมตัวของชาวต่างชาติกลุ่มนี้ก็จะตามมาด้วยการเอะอะโวยวายเสียงดัง แต่พอเช้าวันถัดไปเขาก็ดีกันและไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม

จนกระทั่งในกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 10 มี.ค. ลูกสาวของตนได้เล่าว่า เห็นกลุ่มชาวต่างชาติทะเลาะกันเสียงดัง ซึ่งก็คือนายบาซูและนายอาเธอร์ โดยทั้งคู่มีการชกต่อยกันตั้งแต่ในบ้านจนลามออกไปถึงบนถนนหน้าบ้าน แต่ในเหตุการณ์นั้นก็มีคนอื่นอีกประมาณ 6-7 คน ซึ่งพยายามเข้าไปช่วยห้ามปราม แยกให้ทั้งคู่ออกจากกัน หลังจากจับแยกกันได้ นายอาเธอร์ก็ได้ขับรถเก๋งสีขาวออกไปจากบ้านนายบาซูทันที

สุดท้ายในวันที่ 13 มี.ค. ทางด้านตำรวจก็ได้มาค้นบ้านของนายบาซู เนื่องจากมีการติดตามแกะรอยมาจาก GPS รถเก๋งของนายอาเธอร์ เมื่อเปิดเข้าไปก็มีการพบศพนายอาเธอร์นอนเสียชีวิตอยู่ในฟาร์มกัญชา ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้าไปดูหรอกเพราะกลัวแต่ตนก็ทราบมาว่านายอาเธอร์ไม่ได้อาศัยอยู่ประจำที่บ้านหลังนี้ เขาจะแวะเวียนมาในช่วงค่ำเท่านั้น แต่ตนก็ไม่เคยเห็นตัวหรอก จะเห็นก็แต่รถเก๋งที่เขามาจอดอยู่หน้าบ้าน ส่วนตัวรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถ้าตำรวจไม่มาหาตาม GPS ตนก็จะไม่รู้เลยว่ามีคนตายภายในบ้าน บ้านตนก็อยู่ติด ๆ กันเลย แต่ไม่ได้ยินเสียงหรือรู้เรื่องอะไรกับเขาเลย