“กัน จอมพลัง” โพสต์ผ่านเพจ “กันจอมพลัง ช่วยสู้” ประกาศตามหาญาติคุณตา ซึ่งคุณตาเป็นอดีต สส. แต่ปัจจุบันมาอยู่บ้านหมอปลาได้ 5 ปี มีอาการความจำเลอะเลือน ไร้ลูกหลานมาเยี่ยม

 

โดยระบุข้อความว่า "ช่วยกันตามหาญาติคุณตาครับ เมื่อวานผมไปบ้านพี่หมอปลา ได้ข้อมูลว่าคุณตาแกเคยเป็นสส. ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ แต่แกหยิบบัตรสส.ให้ผมดู ผมถึงถามพี่หมอว่าแกมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พี่หมอบอกว่า เพื่อนเห็นแกเดินเร่ร่อนอยู่ข้างถนน มีอาการฟั่นเฟือน ไม่มีลูกดูแล จึงเอาแกมาส่งที่บ้านพี่หมอปลา อยู่ที่นี่มา 5 ปีแล้ว ไม่เคยมีญาติมาเยี่ยม ซึ่งคุณตาบอกผมว่า อยากกลับไปอยู่บ้าน หรือถ้ามีคนมาเยี่ยมบ้างก็คงดี

 

ผมจึงอยากฝากทุกคนช่วยแชร์โพสต์นี้ออกไป เผื่อลูกหลานของคุณตา เห็นว่าคุณตาอยู่ที่นี่ จะได้มาเยี่ยมหรือมารับคุณตากลับไปดูแล หรือใครมีข้อมูลคุณตา สม วาสนา ส่งให้ผมได้เลยนะครับ ตอนนี้ผมกำลังพาเจ้าหน้าที่ไปบ้านพี่หมอปลาเพื่อช่วยคุณตาครับ"

 

“หมอปลา” เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 5 ปี ได้มีคนพานายสม วาสนา ซึ่งมีสติไม่ดี มาขออาศัยอยู่ที่บ้านตน ตอนที่มาอยู่ใหม่ๆนายสมจะไม่หลับไม่นอน จะมีพฤติกรรมท่าทางทำเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ในสภา และมีท่าทางกลัวคนหวานระแวง กระทั่งมาทราบภายหลังจากเพื่อนของนายสมว่า เมื่อปี 2518 นายสมเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ.อุดรธานี และเป็นเลขาธิการพรรคสยามใหม่ ที่มีนายเปรม มาลากุล ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค ในสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายสมไม่มีที่อยู่อาศัยชอบเดินเร่ร่อนไปทั่วจนกระทั่งเพื่อนได้พามาอาศัยอยู่กับตน


ที่ผ่านมากัน จอมพลัง ได้เดินทางมาที่บ้านเพื่อจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้เพื่อลดค่าไฟฟ้าภายในบ้านกระทั่งได้มาพบกับนายสมและได้พยายามติดต่อญาติพี่น้อง ล่าสุดกัน จอมพลัง สามารถติดต่อบุตรชายของนายสมได้แล้ว ซึ่งเป็นนายแพทย์อยู่ที่ จ.หวัดเชียงใหม่ ซึ่งบุตรชายได้เปิดเผยกับกันจอมพลังว่า นายสมผู้เป็นบิดาไม่เคยได้เลี้ยงดูนายแพทย์คนดังกล่าว จึงปฏิเสธที่จะรับนายสมไปเลี้ยงดูแต่ยินดีที่จะส่งเงินเป็นค่าใช้จ่ายนายสมตลอดไป

  

จากเหตุการณ์ ดังกล่าว ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านโสกจาน ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ได้พบกับ นายคนอง อายุ 79 ปี อดีตข้าราชการครูและเจ้าหน้าที่บริหารงานการเงิน สปอ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ในขณะนั้น และ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลโนนสัง 12 ปี และ นางสุพิญญา อายุ 60 ปี พร้อมด้วย นางสมบัติ อายุ 57 ปี ชาวบ้านโสกจาน ได้ร่วมกันเล่าถึงชีวิตของ นายสม วาสนา ในช่วงแต่ก่อน ว่า เคยเป็นครูสอนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอโนนสัง จังหวัดอุดรธานี (ปัจจุบันโรงเรียนเอกชนแห่งนี้ได้ยุบเลิกกิจการแล้ว และมีลูกศิษย์ที่เจริญในหน้าที่การงานมากมาย และในช่วงหนึ่งของชีวิต นายสม วาสนา เป็นผู้ที่มีโวหาร พูดเก่ง มีความกล้า หน้าตาสมัยหนุ่มก็รูปหล่อ จึงได้สมัคร ส.ส.สมัยแรก ถ้าจำไม่ผิดสังกัดพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ที่มี พ.อ.สมคิด ศรีสังคม คนอำเภอสร้างคอม จังหวัดอุดรธานี เป็นหัวหน้าพรรค และได้รับการคัดเลือก เป็น ส.ส.ในสมัยนั้นและเป็น ส.ส.สมัยเดียว ถ้าจำไม่ผิด ส.ส.ขณะนั้นมี นายเติม สืบพันธุ์ นายแสวง พิบูลย์ศราวุธ เป็น ส.ส.ของจังหวัดอุดรธานี

 

ในอดีต นายสม วาสนา เป็นคนที่มีวาทะในการพูดเก่งมาก หน้าตาหล่อ และในช่วงเป็น ส.ส.ถ้าจำไม่ผิดจริยธรรมของนักการเมืองในอดีตกับปัจจุบันก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ว่ามีการขายตัว ขายเสียง จน ส.ส.ในแต่ละยุคได้รับสมญานามอย่างปัจจุบันว่า ส.ส.งูเห่า ส.ส.กินกล้วย อะไรประมาณนั้น และ นายสม วาสนา อดีต ส.ส.ในสมัยนั้นเปลี่ยนไปสนับสนุนฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง จึงได้รับฉายาว่า “สม หนังหมา” ซึ่งเป็น ฉายาที่ได้จากหนังสือพิมพ์ ทำให้ประชาชนในพื้นที่สมัยนั้นรู้จักต่างรู้จักกันดี สำหรับ ส.ส.ที่ไปยกมือสนับสนุนฝั่งตรงข้าม

 

หลังจากสิ้นสุดการเป็น ส.ส.ในสมัยนั้น ชีวิตของ นายสม วาสนา ก็เงียบหายไปกับกระแสสังคม หลังภรรยาและลูกคนแรกได้เสียชีวิต จากนั้นญาติทางบ้านโสกจาน ซึ่งมีพี่สาวและพี่เขย ก็ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา จึงไม่สามารถที่สืบทราบที่อยู่และหลักแหล่งได้ เพียงแต่ทราบว่าหลังจากยุติทางการเมืองได้ภรรยาอีกและมีลูกสาวทำงานอยู่ที่จังหวัดลำปาง แต่พักหลังก็ขาดการติดต่อกับทางบ้าน ไม่ได้กลับมาอีกเป็นเวลาหลายปีแล้ว

 

ด้านลูกหลานของสมฯเล่าว่ามาพักหนึ่งประมาณ 2-3 ปี คืนหลัง หลานสาวของ ส.ส.สม วาสนา ที่อยู่บ้านโสกจาก เล่าให้ฟังว่า นายสม วาสนา เคยเดินทางมาเยี่ยมบ้านเกิด ในช่วงนั้นดูสภาพร่างกายเหมือนคนไม่สมประกอบ ดูแล้วเหมือนคนจิตไม่ปกติเหมือนคนทั่วๆไป จนต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่หมอบอกว่ายังไม่ถึงจุดอันตราย จึงให้กลับมาบ้าน ขณะที่อยู่บ้านพูดจาเลอะเลือน ทวงถามหาที่ดิน ทรัพย์สิน สมัยพ่อแม่แบ่งปั่นให้ ถึงขั้นจะทำร้ายกับลูกหลาน

 

โดยทางลูกหลานของ นายสมฯบอกว่าโดยสภาพครอบครัวตนเองก็ลำบาก จึงไม่สามารถที่ดูแลนายสม วาสนา ได้หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย จนมาทราบข่าวจากสื่อที่มีการนำเสนอ ก็อยากจะวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมกับลูกๆของ นายสม วาสนา ได้ออกมาแสดงตนเพื่อนำกลับไปดูแลรักษายังบ้านเกิดเมืองนอน ไม่อยากให้คนระดับที่เป็น ส.ส.ต้องมาตกระกำลำบากอย่างนี้

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปพบกับนายแพทย์พบสุข และสอบถามกรณีของลุงสม วาสนา ซึ่งเป็น พ่อของนายแพทย์พบสุข โดยนายแพทย์พบสุขได้กล่าวกับทีมข่าวว่า

 

“ในเบื้องต้นผมไม่ทราบอยู่แล้วว่าทางด้านนายสม วาสนา เป็นพ่อของตน แต่ด้วยเนื่องจาก ทางคุณพ่อได้แยกไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่ต้นอายุได้เพียงประมาณ 5 - 6 ขวบ ซึ่งตนเองนั้นก็จำความหลังไม่ได้ จำได้แต่เพียงว่าท่านแยกไปมีครอบครัวใหม่ และตนจะอยู่กับแม่ ไกลจากการอยู่กับแม่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเติบโตและเล่าเรียนมาได้ตามปกติ จึงไม่ได้มีการติดต่อไปยังคุณพ่อ อีกทั้งตนก็ไม่ทราบว่าคุณพ่อคุณพ่อกับคุณแม่มีความหลังอะไรกันหรือไม่

 

ซึ่งมาในตอนนี้ตนได้ทราบเรื่องจากโซเชียล และทราบว่าคุณ กัน จอมพลัง ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือคุณพ่อซึ่งอยู่ที่บ้านของหมอปลา โดยในตอนนี้ตนทราบว่าคุณพ่อน่าจะมีปัญหาในเรื่องของสุขภาพของท่าน เพราะไม่ทราบว่าท่านมีปัญหาในเรื่องระบบสมอง ทั้งนี้หลังจากนี้ต้นก็อาจจะส่งยาไปให้เป็นการรักษาเบื้องต้นก่อน เนื่องจากเท่าที่ทราบท่านก็ยังไม่สะดวกที่จะเดินทางไปยังโรงพยาบาล ส่วนตัวของตนนั้นก็ยังติดในเรื่องงานที่ต้องรับผิดชอบอีกหลายอย่าง ซึ่งหลังจากนี้ถ้าหากว่าได้จัดการธุระอะไรเสร็จเรียบร้อย ก็จะเดินทางไปพบกับคุณพ่อที่บ้านของหมอปลาที่จังหวัดเพชรบุรี

 

และหลังจากนั้นมีการพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าจะมีการดำเนินการเช่นไรกับทางคุณพ่อในระยะยาว“

เหลือเชื่อ! อดีต สส.เป็นคนเร่ร่อนโผล่บ้านหมอปลา ลูกเป็นหมอช็อกถูกทิ้งไป 5 ขวบ