จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา นายนนท์ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ถูกนาย (นามสมมติ) ชกใบหน้าจนบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในห้องฟิตเนสของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนศาลายา-นครชัยศรี ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

 

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายนนท์ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เล่าว่า วันนั้นตนเองวอร์มอยู่สักพัก จนเห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่เล่นเครื่องเล่น จึงเดินเข้าไปบอกว่า “ขอเล่นด้วยได้ไหมครับ” เขาก็ลุกขึ้นมา บอกว่า “มึงหาเรื่องเหรอ มึงห้าวเหรอ” แล้วเขาก็ทำร้ายร่างกายตนเองทันที โดยที่ตนเองไม่ได้ทำอะไรเลย รู้สึกงงมากว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันว่าเป็นคนที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เท่าที่เล่นฟิตเนสมาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน รู้สึกว่าน้ำใจนักกีฬาเป็นสิ่งที่สำคัญมาก คุณเป็นนักกีฬาก็ควรรู้ถูกรู้ผิด ควรคิดได้ว่าการทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง ซึ่งตนเองก็เป็นแค่นักศึกษา

 

ยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นวิตกกังวลว่าจะมีใครมาดักทำร้ายหรือเปล่า ส่วนฟิตเนสก็ไม่กล้าไปอีกเพราะกระทบจิตใจพอสมควร รู้สึกน่ากลัว ตอนนั้นผู้ก่อเหตุเหมือนคนคลั่ง สติแตก เป็นบ้า / ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณแก้ม ท้อง หัวกระแทกกับดัมเบล รวมถึงช่วงขา และเข่าทั้งสองข้าง ช่วงแรกขับรถไม่ได้เลย ตนเองเป็นแค่นักศึกษาคงสู้อะไรเขาไม่ได้ แต่ก็อยากเรียกร้องความเป็นธรรมในฐานะคนที่โดนทำร้ายร่างกายด้วย

 

ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบภาพจากกล้องวงจรปิด จะเห็นว่านายนนท์ (นามสมมติ) พร้อมกับเพื่อนเข้ามาในฟิตเนส ซึ่งมีนายแบล็ค (นามสมมติ) นักแข่งรถ กำลังใช้บริการฟิตเนสอยู่ โดยในช่วงแรก ต่างคนต่างออกกำลังกายโดยที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

 

กระทั่ง นายนนท์ พูดคุยอะไรบางอย่างกับนายแบล็ค จากนั้นนายแบล็คก็ชกหน้านายนนท์ทันที ก่อนที่เพื่อนของนายนนท์จะเข้ามาช่วยห้าม แต่ดูเหมือนนายแบล็คจะยังไม่ยอมหยุด จนคนในฟิตเนสเข้ามาช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน หลังจากนั้น นายนนท์ กับเพื่อนจึงเดินออกจาฟิตเนสไป ส่วนนายแบล็คยังคงออกกำลังกายต่อ

 

ด้านความเคลื่อนไหวของนายแบล็ค นักแข่งรถ เช้าวันนี้ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล และออกมาจากห้องเมื่อเวลา 12.30 น.โดยเจ้าตัวปิดหน้าปิดหน้า สวมเสื้อแขนยาวบังศีรษะ

 

ก่อนที่จะถูกนำตัวไปฟ้องศาล เจ้าตัวได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนเองได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายคู่กรณีจริง ปมเหตุมาจากก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องกันมาก่อน เมื่อประมาณ 2 -3 เดือนก่อน ขณะที่ตนเองกำลังออกกำลังกายอยู่ภายในฟิตเนส ปรากฏว่าผู้เสียหายรายนี้ พยายามที่จะออกกำลังกายด้านหลังของตนเอง เพื่อกดดันจะให้ตนเองลุก เพราะต้องการจะใช้อุปกรณ์ต่อจากตน ซึ่งตนเองยืนยันว่าตอนนั้นตนเองกำลังเล่นอยู่

 

แต่ผู้เสียพูดสบถกับเพื่อนที่อยู่ข้างหลังตนเองว่า “ไอ้เ-ี้ย นั่งอยู่ กูแ-่งไม่เล่นก็ได้” ซึ่งเป็นความจงใจให้ตนเองได้ยิน แต่วันนั้นไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ก็ยอมรับว่าคิดในใจว่าไม่เป็นไร แต่อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน

 

กระทั่งวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายก็มาเล่นดัมเบลข้างๆ ตนเองอีก ซึ่งตามภาพวงจรปิดอาจจะเห็นเป็นมุมกว้าง แต่ความจริงแล้ว เขายกดัมเบลเฉี่ยวหัวตนเองไปมาหลายครั้ง ลักษณะเหมือนกดดันเหมือนเดิม จนเขาเข้ามาถามว่า “ใช้อยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ใช้ก็ลุก” ประกอบกับทุนเดิมที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จึงทำให้เกิดอารมณ์โมโห

 

นายแบล็ค ยังบอกด้วยว่า ผู้เสียหายมักจะมีนิสัยแบบนี้ เวลาเข้าฟิตเนสก็ต้องการจะเล่นเครื่องเล่นอันนั้น อันนี้ ต้องเอาให้ได้เดี๋ยวนั้น ซึ่งมักจะเจอเป็นประจำอยู่แล้ว

 

ส่วนเรื่องเป็นนักแข่งรถจริงหรือไม่ ผู้ก่อเหตุเลี่ยงที่จะตอบในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อเหตุ ยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยอมรับว่าตัวเองหัวร้อน แต่ก็อยากให้ฝั่งผู้บาดเจ็บขอโทษตนเองเหมือนกัน ในเรื่องที่ไม่มีมารยาทกับตนก่อน

 

จากนั้น พนักงานสอบสวนได้พาตัวนายแบล็ค ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันจะชดใช้ค่าเสียหายทุกอย่าง และให้การรับสารภาพทุกอย่าง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

นักแข่งรถหัวร้อน นศ.ขอเล่นฟิตเนส ลุกตะบันหน้ายับ โต้ ถูกทำตัวไร้มารยาทก่อน