หัวอกพ่อแม่ ตามหาลูกชายเสพยาจนเป็นบ้าหายออกจากบ้านนาน 5 เดือน ก่อนพบว่าเป็นคนเร่ร่อน พ่อแม่ร่ำไห้ใจจะขาด แต่ลูกกลับจำพ่อแม่ไม่ได้

นายธนิต สุคำภา อายุ 42 ปี และ น.ส.สุภาวรรณ วงวิภา อายุ 40 ปี ขี่จักรยานยนต์มาไกลจาก อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เข้ามาในตัวเมือง ระยะทางกว่า 80 กม.เพื่อมาตามหาลูกชาย ชื่อนาย หนึ่ง อายุ 23 ปี ที่หายออกจากบ้านกว่า 5 เดือน กระทั่งมีเพื่อนบ้านแจ้งข่าวว่าพบนายหนึ่งเป็นคนเร่ร่อนในตัวเมืองจ.อุดรธานี ด้วยความดีใจที่ได้เจอลูกชายแล้ว จึงพากันขี่จักรยานยนต์มาหาลูกชายเพื่อรับกลับบ้าน

ก่อนพบว่า ลูกชายกำลังคุ้ยถังขยะอยู่ริมถนนแถววัดมัชฌิมาวาส พอสองสามีภรรยาเดินเข้าไปหาลูกชายแต่ลูกชายกลับบอกว่า ใครลูกชายคุณ ผมไม่รู้จัก และบอกนักข่าวว่า คุณอย่าเป็นบ้าตามเขา มาถามผมว่าผมเป็นลูก ผมจะรู้จักหรือเปล่า ดีแล้วที่เขาไม่เรียกคุณว่าลูกด้วย

ขณะที่แม่เรียกลูกชายว่า น้องหนึ่ง มาๆ ลูก กลับบ้านเรา แต่นายหนึ่งก็ไม่ยอมกลับ จึงปล่อยลูกชายเดินไปตามประสาคนบ้าก่อน จากนั้นสามีภรรยาขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ช่วยพาลูกชายกลับบ้าน แต่นายหนึ่งก็ร้องตะโกนบอกว่า "กูไม่ใช่ลูกมึง"

สุดท้ายเมื่อตำรวจมาถึง จึงช่วยกันอุ้มนายหนึ่งขึ้นรถสายตรวจ ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรักษาอาการป่วยจิตเวช ขณะที่พ่อและแม่ ต่างดีใจเจอลูกชายแล้ว แม้จะมีอาการป่วยจิตเวชก็ตาม

สอบถามนายธนิต คนเป็นพ่อ บอกว่า ลูกชายคือนายหนึ่งเป็นลูกชายคนโต ติดยาเสพติดหนักมาก ก่อนที่จะหายไป 5 เดือน ลูกชายจะเดินทางมารายงานตัวในตัวจ.อุดรธานีเรื่องยาเสพติด ผมให้เงินไป 200 บาทจากนั้นก็หายไปเลย หัวอกคนเป็นพ่อและแม่ใจหาย ลูกชายหายไปนาน ไม่เป็นอันกินอันนอน ผมเจอลูกวันนี้ น้ำตาผมไหลเลย เรียกเขากลับบ้าน เขาบอกไม่ใช่ลูกผม เสียใจที่เขาติดยาจนเป็นบ้า ใจหนึ่งก็ดีใจที่เจอลูกชาย อยากให้ลูกชายหายจากอาการกังกล่าว