รวบ "โอรส" อ้างหึงเมีย ยิงผิดตัว เพื่อนผัวใหม่รับเคราะห์ ด้านอดีตเมียไม่เชื่อเพราะคนเจ็บเคยช่วยห้ามไม่ให้ถูกฉุด

วันที่ 25 ก.พ. 2567 จากกรณีนายไผ่ทอง หรือโอรส อายุ 35 ปี ชาว ต.หนองคูขาด อ.บรบือ จ.มหาสารคาม อดีตสามี น.ส.มณีวรรณ หรือบี หรือน้อย อายุ 33 ปี ชาว บ.ตาด ม.1 ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ใช้อาวุธปืนแก๊ปย่องเข้าไปยิงหัวนายพงษ์ศักดิ์ หรือเอ อายุ 37 ปี ชาวบ้านผ่านศึก 2 ม.4 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นเพื่อนสามีใหม่ของน.ส.บี กระสุนลูกปลายฝังหนังศีรษะด้านหลัง 17-18 เม็ด ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังให้การได้ แต่เป็นการยิงผิดตัว เพราะคิดว่าเป็นสามีใหม่ของอดีตภรรยา

สาเหตุมาจากความหึงหวง ที่นายนายภานุพงศ์ หรือเล็ก อายุ 42 ปี ชาวบ้านหนองสวรรค์ ม.4 ต.บ้านตาด ได้มาคบหากับ น.ส.บี โดยหลังจากที่นายไผ่ทอง หรือโอรส ประกันตัวออกจากคุกในข้อหาลักทรัพย์ ได้ใช้ปืนแก๊ปยาวยิงใส่ เหตุเกิดเวลา 19.50 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านตาด ต.บ้านตาด หลังเกิดเหตุ รถกู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี นำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี ผ่าหัวกระสุนออกจนอาการปลอดภัย

ต่อมาเมื่อเวลา 23 .30 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ พร้อมตำรวจชุมสืบสวน สภ.ย่อยโนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ติดตามจับกุมนายไผ่ทอง หรือโอรส พร้อมของกลางอาวุธปืนแก๊ปยาวที่ใช้ก่อเหตุ ในเพิงพักคอกเลี้ยงวัวท้ายหมู่บ้านตาด มาสอบสวน โดยให้การรับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนแก๊ปยิงนายพงษ์ศักดิ์จริง แต่เป็นการยิงผิดตัว เพราะคิดว่าผู้บาดเจ็บเป็นสามีใหม่อดีตภรรยา

โดยก่อนเกิดเหตุ นายพงษ์ศักดิ์ พาภรรยา คือ น.ส.ศิริมาส หรือจอย อายุ 33 ปี ยืมรถจักรยานยนต์ของภรรยาจากงานศพญาติ ที่บ้านหนองสวรรค์ เพื่อมาชาร์จแบตเตอรี่มือถือ และนั่งเล่นที่กระท่อมนาของปู่อดีตภรรยา กระทั่งถูกยิงบาดเจ็บ โดยผู้ก่อเหตุได้ขอโทษคนเจ็บและภรรยาคนเจ็บ อ้างว่ายิงผิดตัว และที่ทำไปเพราะแค้นนายเล็ก สามีใหม่อดีตภรรยาที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ตนเคารพนับถือ กลับมาแย่งภรรยาของตนไป ซ้ำเมื่อช่วงหัวค่ำ 2 วันที่ผ่านมา ตนไปทวงขอภรรยากลับคืนในงานศพ แต่ถูกเล็ก และนายเอ ใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายตน จึงทำให้ตนโกรธแค้น

กระทั่งคืนวันที่เกิดเหตุ ขณะตนเดินสะพายปืนแก๊ปหายิงหนูตามทุ่งนาไปทำอาหาร และตามหาภรรยาด้วย ขณะตนเดินผ่านมาที่กระท่อมนา เห็นรถจักรยานยนต์ของอดีตภรรยาจอดอยู่ในกระท่อม คิดว่าสามีใหม่และภรรยาอยู่ จึงเดินเข้าไปดู เพราะความมืดและตนดื่มเบียร์มาหลายขวดจนเมา จึงไม่รู้ว่าคนที่ตนยิงนั้นเป็นเพื่อนของสามีใหม่ภรรยาของตน กระทั่งมาถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวในเวลาต่อมา

หลังจากนั้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยโนนสูง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัวนายไผ่ทอง พร้อมอาวุธปืนแก๊ป ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ และยกมือไหว้ขอโทษ น.ส.ศิริมาส หรือจอย ภรรยาคนถูกยิง ซึ่งก็ให้อภัยกัน แต่ทางคดีความก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

ขณะที่ น.ส.มณีวรรณ หรือบี อายุ 33 ปี อดีตภรรยานายโอรส และนายภานุพงศ์ หรือเล็ก สามีใหม่ ขี่รถจักรยานยนต์มาที่เกิดเหตุ และได้โต้เถียงอาฆาตกันอย่างดุเดือด จนตำรวจได้เข้าห้ามปราม และรีบควบคุมตัวนายไผ่ทอง ผู้ก่อเหตุไปส่ง สภ.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “พยายามฆ่า ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงอาวุธปืนในทางสาธารณ หรือตามหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร พาอาวุธปืนไปตามหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย”

น.ส.มณีวรรณ หรือบี อายุ 33 ปี อดีตภรรยานายโอรส เล่าว่า ตนกินอยู่กับนายโอรสไม่ถึงปี เขาชอบตบตีทำร้ายร่างกายมาตลอด ตนเลยเริ่มถอยออกห่าง ซึ่งก็มีเพื่อนทั้งหมดเป็นพยานได้ หลังจากตนถอยออกห่างนายโอรส เขาก็พยายามตามมาขอคืนดีและก่อกวนตนที่บ้าน และทุบทำลายข้าวของภายในบ้านของตนเสียหาย หลังตนไปประกันตัวนายโอรสออกมาจากคุกในข้อหาลักทรัพย์ ประมาณ 1 เดือน เขาก็ตามมาก่อกวนแทบทุกวัน จนแม่ตนทนไม่ไหว และไล่ตนออกจากบ้าน ซึ่งปู่กับย่าของคนก่อเหตุนั้นดีกับตนทุกอย่าง แต่เขาไม่ดีกับตนเลย ทั้งที่ตนเป็นคนไปประกันตัวเขาออกมาจากคุก

"ส่วนเขาบอกว่ายิงผิดตัวนั้น มันไม่ใช่ แต่เขาเจตนายิงคนเจ็บอย่างแน่นอน เพราะรูปร่างคนที่ถูกยิงกับสามีใหม่ตนต่างกันมาก เพราะเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา คนถูกยิงเคยเข้าไปช่วยเหลือตนไว้ ตอนที่จะถูกนายโอรสจะเอามีดมาแทง ตนเลยวิ่งไปอยู่ข้างหลังคนที่ถูกยิง แล้วคนถูกยิงก็กันเขาออกไป และเมื่อวานคนก่อเหตุพยายามที่จะเข้าไปทำร้ายร่างกายตนภายในงานศพ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุพระกำลังสวดอภิธรรมอยู่ ตนก็เลยไปนั่งแอบกับคนที่ถูกยิงอยู่กระท่อมข้างงานศพ เพื่อไม่ให้คนก่อเหตุเห็น"

น.ส.บี เล่าต่อว่า ส่วนสาเหตุตนคิดว่า นายโอรสหึงหวงตน และไม่ให้มีใครอีก ทั้งที่เลิกกันไปแล้ว แต่เขาก็ตามหึงหวงอยู่ตลอด จนพ่อแม่ของตนก็บอกกับตนว่า จะต้องตายเพราะอดีตสามีหึงหวงแล้วตามฆ่าตายสักวัน แล้วจึงมาก่อเหตุยิงเมื่อคืนนี้ และไม่มีทางที่จะมายิงผิดตัวแน่นอน เพราะมีความแค้นในกลุ่มของพวกตน คือ ตน สามีใหม่ และเพื่อนสามีคนที่ถูกยิง เพราะเขาชอบตามขู่อาฆาต และจะทำร้ายร่างกาย ทั้งที่คนถูกยิงไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับเขาก่อน ส่วนสามีใหม่ของตน ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับคนก่อเหตุมาก่อนเลย จะมีก็แต่เรื่องหึงหวง ที่มันเป็นความรักในอดีต แต่เขาไม่ยอมรับมันเอง ซึ่งตอนแรกตนว่าจะอโหสิกรรมให้ แต่ตอนนี้ตนจะไม่ให้แล้ว

นายภานุพงค์ หรือเล็ก สามีใหม่ น.ส.บี เปิดเผยว่า เขาทั้ง 2 คน แยกกันอยู่มาพักนึงแล้ว ตนจึงมาคบหากับ น.ส.บี เพราะตนก็ได้คบหาดูใจกับ น.ส.บี มาระยะนึง ตั้งแต่รู้ว่าพวกเขาเลิกกัน ด้วยความรักและสงสารบี ไม่ใช่ว่าตนจะทำมั่วอะไร เพราะตนก็แอบชอบบีมานานแล้ว หลังจากตนทราบเรื่องว่า นายโอรสมายิงนายเอ เพื่อนของตน ก็รู้สึกเสียใจ เพราะว่านายเอก็ช่วยตนในวันที่มีเรื่องกันกับเขาในงานศพ และนายเอก็จะมาพักอาศัยที่บ้านของตน นายโอรสก็จะตามไปกวนที่บ้านของตนตลอด

"ตนคิดว่าเขาตั้งใจจะยิงตน แต่วันเกิดเหตุกลับเป็นนายเอ เพราะก่อนจะเกิดเรื่อง นายรสได้เคลียร์กันกับตนว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ ตนก็ถามกลับไปว่า ก็เลิกกันกับ น.ส.บี ไปแล้ว ถ้าเขายังรักนายรส เขาก็ต้องกลับคืนไปหานายรส แต่นี่เลิกกันแล้ว น.ส.บี ถึงมาอยู่กับตน เขาพยายามฉุดกระชาก น.ส.บี ขึ้นรถไปด้วย ตนก็ไม่ยอมให้เขาดึง น.ส.บีขึ้นรถไป จึงเป็นเรื่องบาดหมางกัน จนเป็นเหตุนายรส ยิงคนผิด คงคิดว่าเป็นตนมากว่าที่จะยิงนายเอ เพื่อนรักของตน"

น.ส.ศิริมาส หรือจอย ภรรยาคนถูกยิง เล่าว่า คนก่อเหตุมักจะชอบมาขู่อาฆาต และจะทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา และสามีใหม่มาตลอด ตนกับคนก่อเหตุไม่เคยมีอะไรบาดมางกันก่อน และพูดดีกันมาตลอด ส่วนสามีตนก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับคนก่อเหตุเลย โดยแฟนตนไปเจอว่า อดีตภรรยาคนก่อเหตุกำลังจะถูกทำร้ายร่างกายในงานศพ แล้วสามีตนเข้าไปช่วยห้าม ทำให้นายรสมือยิงไม่พอใจสามีตน จึงคิดว่านายรสไม่น่าจะยิงผิดตัวเหมือนกับที่เขากล่าวอ้าง เพราะนายรสบอกว่า สามีตนจะเอามีดไปแทงเขา แต่ความจริงไม่ใช่ตามที่เขาพูด ซึ่งตอนแรกตนว่าจะอโหสิกรรมให้ แต่ตอนนี้ตนคิดว่าจะไม่ให้อภัยเขาแล้ว ส่วนสามีตนที่ถูกยิงอาการปลอดภัยแล้ว เพราะกระสุนไม่ได้ทะลุกะโหลกเข้าสมอง