แม่รุดดูของกลาง ยันเป็นของ "นุ่น"


วันที่ 22 ก.พ. 2567 มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ ได้เชิญตัวแม่และน้องชายของน้องนุ่น ผู้เสียชีวิต เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากพื้นที่ที่พบศพเป็นเขตรับผิดชอบของ สภ.ระเบาะไผ่ จ.ปราจีนบุรี


เมื่อแม่และน้องชายเข้าไปพบกับพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนได้นำรูปถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ของน้องนุ่น ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ เลสข้อมือที่พบในจุดเผาศพ และภาพถ่ายของน้องนุ่นวันสุดท้ายที่สวมใส่เลสข้อมือในงานวันเกิดของนายทอย คืนสุดท้าย มาเปรียบเทียบและชี้เพื่อยืนยันว่าเป็นของลูกสาวเพื่อประกอบสำนวน รวมถึงแหวนทอง ข้าวของเครื่องใช้ ที่พบในจุดที่น้องนุ่นถูกเผาด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าสิ่งของทั้งหมดเป็นของนุ่นจริง ๆ เพื่อประกอบสำนวนชันสูตรศพ





จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาในการสอบปากคำ และชี้พยานหลักฐาน 1.30 ชั่วโมง ก่อนที่คุณแม่และน้องชายของน้องนุ่นได้เดินทางขึ้นรถตู้เดินทางกลับทันที ทีมข่าวพยายามสอบถามแม่ของน้องนุ่น ว่า จากหลักฐานที่พบในกองไฟนั้น เป็นสิ่งของลูกสาวทั้งหมดใช่หรือไม่ แม่ของน้องนุ่นพยักหน้าพร้อมบอกสั้น ๆ ว่า “ใช่ค่ะ”


ทีมข่าวถามต่ออยากให้ทอยได้รับโทษประหารชีวิตใช่หรือไม่ แม่ของน้องนุ่น ตอบ “ค่ะ” และก่อนจะปิดประตูรถ แม่ของน้องนุ่นได้ยกมือขอบคุณผู้สื่อข่าวที่มาช่วยกันทำข่าว จนลูกสาวได้รับความยุติธรรม และรีบเดินทางกลับทันที


ส่วนบรรยากาศที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ยังไม่มีญาติไปรับศพนุ่น เนื่องจากยังต้องรอให้แพทย์นิติเวช ชันสูตรร่างของนุ่นที่ถูกเผาและรอผลก่อน


แม่นุ่นสงสัยทอยขับรถหรู แต่อ้างไร้กล้องหน้ารถ


ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมของหมู่บ้านของนายศิริชัย หรือ ทอย ตามที่แม่ของนุ่น ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 8 ทำนองว่า ตามที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดว่ามีการเข้าไปที่บ้านที่เกิดเหตุในคืนวันที่ 19 ก.พ. หลังให้การที่ สภ.ปากเกร็ด แม่ไม่ได้พักอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว แต่ได้เดินทางออกคืนนั้นทันที ซึ่งให้ทางทอยไปส่งที่รถไฟฟ้า นั้น





โดยทีมเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าในคืนดังกล่าว 19 ก.พ. หลังจากที่ทีมข่าวกลับออกไปแล้วช่วงเวลาหลัง 2 ทุ่ม ปรากฏว่าจะเห็นแม่ของนุ่นเดินออกจากประตูรั้วมาจากบ้านเวลาประมาณ 21.08 น. ของคืนเดียวกัน เพื่อที่จะมารอขึ้นรถบีเอ็มสีขาวของทอย จากนั้นรถบีเอ็มสีขาวจะขับออกจากบ้านเพื่อไปส่งแม่


แต่ระหว่างที่รถบีเอ็มสีขาวขับออกจากหมู่บ้าน มีภาพจากกล้องวงจรปิดของทางเข้าหมู่บ้านป้อม รปภ. จับภาพว่ารถบีเอ็มสีขาวมีการชะลอรถที่หน้าประตูทางเข้า จากนั้นมีการลดกระจกฝั่งด้านผู้โดยสารด้านหลังคนขับ ซึ่งมีคนในรถเข้าใจว่า อาจเป็นแม่ของนุ่นลดกระจกพร้อมกับมีการถ่ายรูปทางเข้าหมู่บ้านเอาไว้ จากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดจากภาพต่อเวลาประมาณ 21.30 น. คืนเดียวกัน 19 ก.พ. โดยนายทอยขับรถกลับมาในหมู่บ้าน หลังจากส่งแม่ของนุ่นเสร็จ




ขณะที่วันนี้แม่ของน้องนุ่นไปพูดในรายการโหนกระแส เกี่ยวกับประเด็นกล้องหน้ารถของทอย โดยบอกว่า ตอนนั่งรถตนไม่ทันได้สังเกต แต่น้องชายของนุ่นพยายามดูอยู่ แต่ก็ไม่มั่นใจว่ามีหรือไม่มี เมื่อสอบถามทอย เขาก็บอกว่า ไม่มีกล้องหน้ารถ


ทอย ส่อจงใจซ่อนหลักฐาน กล้องหน้ารถมี แต่ไม่เปิดใช้


ทีมข่าวได้เข้าไปขอข้อมูลจากชุดสืบสวน เพื่อจะขอตรวจสอบกล้องหน้ารถบีเอ็มสีขาวของทอย ว่าก่อนเกิดเหตมีอะไรเกิดขึ้นภายในรถ และหลังที่นายทอยก่อเหตุแล้วระหว่างนำร่างภรรยาไปทิ้ง กล้องหน้ารถสามารถบันทึกเสียงและภาพอะไรไว้ได้บ้างหรือไม่ ซึ่งชุดสืบสวน ระบุว่า กล้องหน้ารถของนายทอยมีติดตั้งอยู่จริง แต่ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบแล้ว ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ก่อนจะนำมาประกอบในสำนวนคดีต่อไป




ขณะที่ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เกี่ยวกับรายละเอียดกล้องบันทึกในรถของนายทอย ได้ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบกล้องเบื้องต้น พบว่า มีการติดตั้งไว้แต่ไม่ได้เสียบสายปลั๊ก จึงทำให้ไม่สามารถที่บันทึกเสียงและภาพไปได้ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ


กล้องหน้ารถแบบ "ไอ้ทอย" บันทึกภาพไม่เกิน 8 ชั่วโมง


วันนี้ทางทีมข่าวได้เข้ามาพูดคุยกับ นางสาวอุษมา พนักงานขายประจำร้านติดตั้งกล้องบนรถยนต์เฉพาะแห่งหนึ่ง เผยว่า จากภาพที่ทางทีมข่าวให้ดูนั้น จากประสบการณ์ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ติดได้เอง และหาซื้อได้ง่าย แต่อาจจะไม่ได้เหมาะกับตัวรถยุโรป ซึ่งวิธีการใส่เมมโมรี่การ์ดของตัวกล้องนั้นจะอยู่ด้านข้างเหมือนกล้องทั่วไป ไม่ได้ซับซ้อน ในเรื่องความจุนั้นจะมีอยู่ 2 ความจุ คือ 32 GB จะเก็บภาพได้แค่ 4 ชั่วโมง และถ้า 64 GB จะเก็บได้แค่ 8 ชั่วโมง และมันจะทำการบันทึกซ้ำทันที และไม่สามารถกู้ไฟล์กลับมาได้ มันเป็นลักษณะทั่วไปของกล้องหน้ารถ




ในส่วนของการบันทึกเสียงนั้น ต้องบอกว่า มันสามารถทำได้เช่นกัน แต่ก็ต้องดูเจ้าของรถ เขาเปิดระบบไว้หรือไม่อีกด้วย และสำหรับความพิเศษของตัวกล้องบางรุ่นอาจจะต่อกับระบบของมือถือ แต่ถ้ารุ่นในภาพที่นำมาให้ดูนั้น มีวิธีเดียวคือการดึงการ์ดและเอาภาพออกมา ไม่สามารถเชื่อมต่อได้เลย ซึ่งราคาของตัวกล้องมีถึงหลักร้อยถึงหลักพัน แต่ตัวในภาพที่สามารถหาซื้อได้ตามแอปฯ ทั่วไป ก็จะอยู่ราคาหลักร้อยต้น ๆ

 

ช่อง 8 จับโป๊ะกล้องหน้ารถ "ไอ้ทอย" ถูกถอด ส่อเจตนาเตรียมฆ่า "นุ่น"