ทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับญาติของเสี่ยแป้ง 2 คน คนแรก คือ นางเพลิน น้าสาวของเสี่ยแป้ง บอกกับทีมข่าวว่า ตนเองนั้นเป็นคนเลี้ยงดูน้องแป้งมาตั้งแต่เด็ก เป็นแม่นมของน้องแป้ง โดยแม่ของแป้ง หลังจากคลอดแป้ง ได้นำมาฝากให้ตนเองเลี้ยง จนแป้งอายุ 6 เดือน ก่อนจะรับกลับไปดูแลต่อ

 

ที่ผ่านมาตั้งแต่เล็ก แป้งเป็นคนน่ารัก นิสัยดี และใจบุญ ชอบช่วยเหลือชาวบ้านและญาติพี่น้อง และยังเป็นลูกกตัญญูรักพ่อรักแม่ ซึ่งหากน้องแป้ง ฟังน้าอยู่ก็อยากให้น้องมอบตัวกับตำรวจ ขอให้อยู่รอดปลอดภัย เทวดาคุ้มครอง

นอกจากนี้ เธอยังได้ขอบคุณนายชวน หลีกภัยมาก ที่แสดงความเป็นห่วงครอบครัว และเป็นห่วงแป้ง ซึ่งตนเองและบรรดาญาติก็อยากให้แป้งมอบตัวเหมือนกัน เพราะกลัวหลานจะถูกตำรวจวิสามัญ แต่ตอนนี้ญาติทุกคนก็ยังไม่สามารถติดต่อแป้งได้เหมือนกัน

 

เช่นเดียวกับนายสามารถ น้าชายของเสี่ยแป้ง ที่บอกว่า ตนเองเชื่อว่าที่หลานแป้ง หลบหนีออกมาจากโรงพยาบาล คงมาจากความน้อยเนื้อต่ำใจในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งที่ผ่านมาหลานพยายามทำเรื่องขอประกันตัวผ่านญาติมาโดยตลอด เพราะคนที่ถูกคดีคนอื่นยังได้ประกัน และบางคนไม่ถูกอัยการสั่งฟ้องด้วยซ้ำ ทำให้แป้งคิดมาเสมอว่า ตัวเองถูกกลั่นแกล้ง และถูกหักหลัง

 

ก่อนที่พ่อของแป้งจะเสียชีวิต ตนเองได้ไปเยี่ยมพ่อแป้งที่โรงพยาบาล ครอบครัวทุกคน พยายามเดินเรื่องขอให้แป้งปล่อยตัวมากราบศพพ่อเป็นครั้งสุดท้าย ญาติรับได้หมด จะให้ใส่กุญแจมือ ใส่โซ่ตรวนมาก็ได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปล่อยตัวออกมา แป้งไม่มีโอกาสแม้กระทั่งออกมากราบศพพ่อครั้งสุดท้าย วันจัดงานศพ วันเผา ครอบครัวทุกคนร้องไห้กันหมด ซึ่งตนเองเชื่อว่า แป้งคงเจ็บปวด และแค้นที่ตัวเองถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจ และทำให้แป้งไม่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัว ซึ่งแป้งรักครอบครัวที่สุด

 

ตนเองเชื่อว่า แป้งจะไม่มีวันมอบตัว จนกว่าตำรวจจะมีการสั่งถอนกำลังไล่ล่า ยุติการไล่ล่า เชื่อว่า แป้งต้องออกมาแฉเจ้าหน้ารัฐที่หักหลังแป้งให้จบก่อน ถึงจะพร้อมมอบตัว ซึ่ง หากแป้งยังไม่ได้แฉทั้งหมด ตำรวจยังตามล่าแป้ง คิดว่า แป้งก็พร้อมจะสู้ตาย

 

ซึ่งตนเองแนะนำตำรวจว่า ไม่ต้องไปติดตามไล่ล่าแป้งแล้ว เสียทั้งเวลา เสียทั้งงบประมาณ ตนเองเชื่อว่า หากตำรวยยุติการไล่ล่า เมื่อแป้งพร้อมจะเข้ามามอบตัวตามกระบวนยุติธรรมเอง

 

แฉแรงแค้นทำเสี่ยแป้งต้องสู้ ถูกแกล้งไม่ได้ทำศพพ่อ-ลูกกำพร้า ลั่นดาบนี้คืนสนอง