เสี่ยแป้ง กินเหนียวดำ ปี 63 เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ ยืนยัน เสี่ยแป้ง กินครบ 3 ครั้ง แคล้วคลาด คงกระพัน
โดยพระปลัดวิเชียร เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ เป็นผู้ป้อนเหนียวดำใส่ปากของชายคนหนึ่ง ที่มีลักษณะคล้ายกับเสี่ยแป้ง
โดยภาพนี้เกิดขึ้นในพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ของวัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 63 หากนำมาเปรียบเทียบกับภาพนิ่งที่เสี่ยแป้งเข้าพิธีกินเหนียวดำ เมื่อปีที่แล้ว ก็มีลักษณะที่ละม้ายคล้ายกันมาก หากสังเกตที่รอยสักกับพระที่ห้อยคอ ถ้าเป็นลูกศิษย์ทั่วๆไป คงไม่ใส่ทอง ใส่พระหลายองค์แบบนี้
วันนี้ทีมข่าวของเราไปถาม พระปลัดวิเชียร สีลโชโต เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ ซึ่งท่านก็เป็นผู้ป้อนเหนียวดำใส่ปากเสี่ยแป้ง ตามที่ปรากฎในภาพและคลิปล่าสุด
โดยหลวงพ่อวัดเขาอ้อ ยอมรับว่า เสี่ยแป้งเคยมาประกอบพิธีกินข้าวเหนียวดำที่วัดถึง 3 ครั้งแล้ว โดยเชื่อกันว่า ใครกินได้ครบ 3 ครั้ง จะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย จึงเป็นไปได้ว่า นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เสี่ยแป้ง รอดพ้นง้ำมือตำรวจไปได้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เสี่ยแป้ง ถึงมาเลเซียแล้ว ปลอดภัยดี แต่เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ
ส่วนเป็นภาพนิ่งเสี่ยแป้งกินเหนียวดำเมื่อปีที่แล้วมีคนสงสัยว่า ผู้ชายที่นำหนังหมี มาวางบนหัวเสี่ยแป้งคือใคร แล้วทำอย่างนั้นเพื่ออะไร
พระปลัดวิเชียร บอกว่า ชายคนดังกล่าวน่าจะเป็นลูกน้องของเสี่ยแป้ง ที่มาช่วยจับหนังหมี ระหว่างทำพิธีกินเหนียวดำ โดยวันนั้นเสี่ยแป้งจะต้องนั่งชันเข่า เอาเท้าเหยียบมาบนเหล็กกล้าและหนังเสือ ส่วนที่บริเวณหัวจะต้องปิดด้วยหนังหมี
เพื่อให้สัตว์ร้ายอย่าง เสือ และหมีเกรงกลัว ส่วนเหล็กกล้าจะทำให้อยู่ยงคงกระพัน
โดยก่อนหน้านี้ เสี่ยแป้ง เคยมาบวชกว่า 15 วัน แป้งได้ทำภารกิจสงฆ์อย่างเคร่งครัด โดยมีอุปนิสัยดี พูดจาไพเราะ ไม่มีก้าวร้าวทั้งกับเด็กและผู้ใหญ่ หลังจากลาลิขาบทไปแล้วก็ยังมาทำบุญ หรือวัดมีกิจกรรมอะไรก็มาร่วมกิจกรรมเป็นประจำทุกปีทุกเทศกาล
สำหรับพิธีหุงข้าวเหนียวดำ หมายถึง การนำเครื่องยาสมุนไพร หรือว่านชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 108 ชนิด มาผสมกันแล้วต้มเอาน้ำยามาใช้หุงข้าวเหนียวดำ
จากนั้นพระอาจารย์ผู้ประกอบพิธีจะนั่งบริกรรมพระคาถาจนน้ำมันแห้งเป็นขี้ผึ้ง เรียกว่า พิธีตั้งมัน
โดยในวันนั้นเมื่อปี 65 เสี่ยแป้ง ได้นำหมาก 9 คำ ดอกไม้ 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ธูป 3 ดอก สายสิญจน์ หนังเสือ หนังหมี เหล็กกล้าเอาวางไว้ที่หน้าเครื่องบูชา
โดยพระอาจารย์ ผู้ประกอบพิธีจะป้อนน้ำมันให้กิน 3 ช้อน จากนั้นก็ให้กินข้าวเหนียวดำที่ปั้นให้จำนวน 3 คำจนหมด
เมื่อศิษย์กินข้าวเหนียวหมดแล้ว พระอาจารย์จะใช้มือซ้ายกดสะดือ ทำทักษิณาวัตร 3 รอบ พร้อมกับภาวนาพระคาถาไปด้วยเป็นการผูกอาคมสำหรับคุณค่าของการกินข้าวเหนียวดำ สานุศิษย์ของสำนักเขาอ้อ เชื่อกันว่าใครกินได้ถึง 3 ครั้ง จะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี
นายอนันต์ มณีประสิทธิ์ อายุ 58 ปี ประธานกรรมการวัดเขาอ้อ และ
กำนันต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง บอกว่า พิธีหุงข้าวเหนียวดำ หมายถึง การนำเครื่องยาสมุนไพร หรือว่านชนิดต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 108 ชนิด มาผสมกันแล้วต้มเอาน้ำยามาใช้หุงข้าวเหนียวดำ พิธีกินข้าวเหนียวดำจะทำพิธีกันภายในอุโบสถก่อนกินถ้าสานุศิษย์คนใดไม่บริสุทธิ์ต้องทำพิธีสะเดาะ หรือเรียกว่า พิธีการเกิดใหม่ หรือ พิธีบริสุทธิ์ตัว เพื่อให้ตัวเองบริสุทธิ์จากสิ่งไม่ดีชั่วร้ายทั้งปวง
จากนั้นพระอาจารย์ผู้ประกอบพิธีจะนั่งบริกรรมพระคาถาจนน้ำมันแห้งเป็นขี้ผึ้ง เรียกว่า พิธีตั้งมัน
โดยในวันนั้นเมื่อปี 65 เสี่ยแป้ง ได้นำหมาก 9 คำ ดอกไม้ 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ธูป 3 ดอก สายสิญจน์ หนังเสือ หนังหมี เหล็กกล้าเอาวางไว้ที่หน้าเครื่องบูชา
โดยพระอาจารย์ ผู้ประกอบพิธีจะป้อนน้ำมันให้กิน 3 ช้อน จากนั้นก็ให้กินข้าวเหนียวดำที่ปั้นให้จำนวน 3 คำจนหมด
เมื่อศิษย์กินข้าวเหนียวหมดแล้ว พระอาจารย์จะใช้มือซ้ายกดสะดือ ทำทักษิณาวัตร 3 รอบ พร้อมกับภาวนาพระคาถาไปด้วยเป็นการผูกอาคมสำหรับคุณค่าของการกินข้าวเหนียวดำ สานุศิษย์ของสำนักเขาอ้อ เชื่อกันว่าใครกินได้ถึง 3 ครั้ง จะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี
กำนันอนันต์บอกว่าเสี่ยแป้ง มากินข้าวเหนียวแล้วไป 3 ครั้ง โดยจากภาพที่เสี่ยแป้งกำลังกินเหนียวดำ จะมีลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ ทำการกดหนังเสือบนหัวเสี่ยแป้ง ขณะที่ส่วนเท้าของเสี่ยแป้งจะเหยียบหนังหมีและเหล็กกล้า เพื่อให้สัตว์ร้ายอย่าง เสือ และหนี เกรงกลัว ส่วนเหล็กกล้าจะทำให้อยู่ยงคงกระพัน
นอกจากนี้กำนันอนันต์ ยังบอกว่าทุกครั้งที่เสี่ยแป้งมา ไม่มีท่าทีของการเป็นโจรหรือผู้ร้าย ทำตัวรอดบน้อมน่ารัก โดยเฉพาะตอนที่เสี่ยแป้งมาบวชแก้บนที่วัดเขาอ้อ ก็มีลูกน้องตามด้วย 4-5 คน สังเกตว่ามีคนตามมาอยู่ในวัดมากกว่าคนทั่วไป แต่ลูกน้องเสี่ยแป้ง ไม่ได้อวดเบ่งทำร้ายใคร แถมยังมาเป็นเด็กวัดช่วยพระในวัดเขาอ้อ
านนายพยัพ คำพันธุ์ อายุ 76 ปี นายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย บอกว่า ตนเป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ประสูตินานแล้ว ซึ่งตนเป็นผู้พานายส.ทักษิณมาฝากตัวเป็นลูกบุญธรรมและลูกศิษย์ของพระอาจารย์ โดยพระอาจารย์สำเร็จวิชาจากสำนักเขาอ้อมา ซึ่งพิธีกรรมและเครื่องรางของอาจารย์เป็นที่ยอมรับและนับถือของลูกศิษย์ทุกคน
ส่วนพิธีแช่ว่านต้นกำเนิดมาจากสำนักตักศิลาเขาอ้อ เป็นความเชื่อเดิมของคุณลูกค้าก่อนจะใช่ว่านต้องหาว่านมงคล 108 ชนิดมาต้มเพื่อให้แช่เป็นสิริมงคล แล้วพระอาจารย์ที่ทำวิชาด้วย รวมทั้งลูกศิษย์จะต้องหาว่านมงคลร่วมกันเพื่อนำมาประกอบพิธีจึงจะสมบูรณ์ ระหว่างต้มว่านทั้งฟืนทั้งหม้อที่ต้มต้องลงอักขระรวมทั้งต้องดูวันเวลาฤกษ์มงคลในการประกอบพิธี ดังนั้นหากพระไม่เก่งจริงไม่สามารถทำพิธีแช่ว่านได้
และก่อนที่ใครจะลงแช่ว่านจะต้องเหยียบหนังเสือ บนหนังเสือต้องมีเหล็กกล้า เหยียบเหล็กกล้าและท่องคาถา ก่อนมีหนังหมีแตะที่หัวแล้วถึงจะลงไปแช่ในอ่างว่านได้ ในอ่างว่านก็จะมีหนาม 108 ชนิด พระอาจารย์ก็ต้องท่องบริกรรมคาถาแล้วให้คนลงไปแช่ในอ่างว่าน ส่วนคนที่จะลงไปแช่ในอ่างว่างได้ก็ต้องถือศีลก่อนหน้านี้
ส่วนตัวเคยลงแช่ว่านครั้งเดียวเมื่อประมาณ6-7 ปีที่แล้วกับพระอาจารย์ประสูติ ซึ่งเชื่อกันว่าหากได้ลงแช่น้ำร่านจะช่วยในเรื่องของความคงกระพันชาตรี แต่ตนก็มองว่าในส่วนเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทดสอบค่อนข้างยากแต่สิ่งที่ตนได้คือความสบายใจและโรคประจำตัวของตนหายไป
ซึ่งในช่วงนี้ตนยังเตรียมพระผงจตุรามเทพเพื่อไปถวายพระอาจารย์ประสูติเพื่อไปบรรจุและเป็นมวลสารที่ดีสำหรับให้พระอาจารย์ทำเครื่องรางต่อไป
พระมาโนช นิติสาโร เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมสวนป่าท่าช้าง อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง พร้อมลูกศิษย์และชาวบ้าน ต้องช่วยกันประกอบแขนพระพุทธรูปด้วยตัวเอง เพราะผู้รับเหมาไม่กล้าเข้าพื้นที่ กังวลใจเรื่องการไล่ล่าตัวแป้งนาโหนด ทำให้การจัดสร้างพระพุทธรูปและพระธาตุมหาเจดีย์ ต้องหยุดชะงักลง ต้องยกแขนและฝ่ามือของพระพุทธรูปขึ้นมาวางโครงไว้ รอให้ช่างเข้ามาเชื่อมต่อในภายหลัง
พระมาโนช บอกว่า ตั้งแต่มีการไล่ล่าแป้ง นาโหนด ชาวบ้านรู้สึกกังวลใจ กลัวว่าตนจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากสำนักสงฆ์แห่งนี้มีพระจำพรรษาอยู่ที่นี่เพียงองค์เดียวก็คือตนเอง อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดที่คาดว่าแป้งนาโหนดใช้เป็นเส้นทางเดินลงมาจากเทือกเขาบรรทัด
ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีพุทธศาสนิกชนจากหลายจังหวัด มาฝึกกรรมฐานปฏิบัติธรรมที่นี่อยู่เป็นประจำ แต่หลังจากเจ้าหน้าที่กระจายกำลังปิดล้อมเทือกเขาบรรทัด ก็ทำให้คนภายนอกที่อยากจะมาปฏิบัติธรรมลดน้อยลง จึงอยากให้ตำรวจเร่งจับตัวแป้งนาโหนดและถอนกำลังโดยเร็ว เพื่อที่ทางวัดจะได้ปฏิบัติศาสนกิจได้ตามปกติ