เสียงนุ่ม แต่บาดใจ ของเจ้ากระทรวงเกษตรฯ แอบฟาดทีมเจรจาภาษีทรัมป์ ว่าหมูแบบธรรมชาติอร่อยกว่า และไม่อันตรายกับผู้บริโภค งานนี้มีจุก!

อีเสี้ยม ขยี้เกษตร เข้าเวรจับประเด็นข่าว รอบนี้เป็นหนึ่งประเด็นที่น่าจับตาและถอดคำพูดของ รมว.เกษตรฯ อรรถกร ได้พูดว่า "หมูที่อยู่ในรูปนี้ที่มันมีกล้ามใหญ่ ๆ แบบนี้เป็นเพราะมันถูกฝืนธรรมชาติ และสารที่ไปทำให้มันมีกล้าม ผมยืนยันว่า ไม่ได้อร่อยเท่ากับการเลี้ยงแบบธรรมชาติ และที่สำคัญคือ มันเป็นอันตรายกับผู้บริโภค" พร้อมประกาศจุดยืนของกระทรวงเกษตรฯ และกรมปศุสัตว์ ในการปกป้องผู้บริโภคจากการใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อความปลอดภัยด้านอาหารของประชาชนคนไทย

ถ้าถอดคำพูดนี้ถือว่า กระทรวงเกษตรประกาศชัดว่าไม่เอาการนำเข้าหมูจากสหรัฐอเมริกา แต่ทางทีมไทยแลนด์ที่ไปเจรจาภาษีทรัมป์ไปตกลงอะไรไว้บ้าง ซ่อนเงื่อนไขที่ “ลับ ลวง พราง” ไม่ให้กระทรวงเกษตรฯ ทราบรายละเอียดในข้อตกลง

โดยแหล่งข่าวระดับสูงของ อีเสี้ยม ขยี้เกษตร ได้รายงานเข้ามาว่า ประเด็นที่ทีมเจรจาไทยแลนด์ไปเจรจาภาษีทรัมป์ สร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรฯ เพราะทั้งคู่ออกมายืนยันตลอดเวลา ความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและเกษตรกรต้องมาก่อน ยอมได้ แต่ใช่ว่ายอมได้ทุกเรื่อง ศักดิ์ศรีก็ควรมี ประเด็นที่น่าสงสัยคือทำไมพยายามกันกระทรวงเกษตรฯ ออกจากข้อมูลทีมเจรจา แต่เชื่อ อีเสี้ยม ขยี้เกษตร ว่าเกมนี้ยาว เพราะชื่อชั้น อย่าง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า คงไม่ยอมง่ายๆ ยิ่งใกล้ช่วงนับเวลาถอยหลังสู่การเลือกตั้ง ผลงานเป็นสิ่งสำคัญว่าจะรักษาฐานเสียงไว้ได้หรือไม่?

ปิดท้ายเช่นเคย เสียงซุบซิบจากข้าราชการกรมพัฒนาที่ดิน นับวันลูกหม้อไม่ได้รับการสนับสนุนให้เติบโต ผู้บริหารแทบมาจากกรมอื่นหมด ได้ข่าวว่าเก้าอี้รองอธิบดีว่างอีก 2 ตำแหน่ง ก็ถูกจับจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนในบอกทำงานแทบตาย คนนอกกระโดดข้ามหัว ถอดใจกันเป็นแถวแล้ว จะแต่งตั้งใครก็ควรยึดเอาผลงานมาก่อนเส้นสายบ้างเถอะ อีเสี้ยม ขยี้เกษตร ฝากให้คิด