วันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลา 7.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายชัยยศ เลียวดำ หรือโอ๋ อายุ 48ปี คนงานกรีดยาง ผู้ต้องหาคดีข่มขืนสาวไฟแนนซ์ ตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง มาที่ สภ.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง

ผู้สื่อข่าวสอบถามนายโอ๋ว่า เพราะเหตุใดถถึงได้ก่อเหตุเช่นนี้ นายโอ๋ตอบว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีเจตนาหรือวางแผนมาก่อน เจตนามีแค่จะซื้อรถ จักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 เท่านั้น ที่ก่อเหตุไปก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนกำลังคิดอะไรอยู่ และก็เสียใจกับสิ่งที่ตนทำลงไป อยากขอโทษกับผู้เสียหายอีกด้วย ตนยอมรับผิด

เจ้าหน้าที่สอบถามถึงช่วงระหว่างที่นายโอ๋หนีอยู่ภายในป่าเขา ได้ยินเสียงตำรวจและชาวบ้านที่ขึ้นไปหาและบอกให้ออกมาหรือไม่ นายโอ๋เล่าว่า ตอนนั้นได้ยินเสียงที่ชาวบ้านและตำรวจขึ้นไปหา ก็หมอบลงกับพื้นดิน กลางวันมีลงเข้ามาขโมยของตามบ้านคน เอาโทรศัพท์ของชาวบ้านมา 2 เครื่อง คืนแรกไปนอนบนเขา และคืนที่ 2 นอนบริเวณเชิงเขา เช้าวันนี้ (2 ต.ค.) เดินลงเขามาเรื่อยๆ จนมาเจอชาวบ้านได้จับตัวไว้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับคดีนี้ ผู้ต้องหา ได้หลอกนางสาวน้อย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี เซลส์ขายรถแห่งหนึ่งในตัวเมืองระยอง โดยนางสาวน้อยได้ขับรถยนต์ไปคนเดียว เพื่อนำสัญญาซื้อขายรถไปให้นายชัยยศ และเมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป่าสวนยางพาราและเป็นที่เปลี่ยว นางสาวน้อยจึงหยุดรถ จากนั้นนายชัยยศจึงเข้าไปในรถและใช้มีดข่มขู่ และฉุดนางสาวน้อยเข้าไปในป่าสวนยางพารา และข่มขืนกระทำชำเรา

หลังก่อเหตุนายชัยยศ ได้หลบหนีเข้าป่าสวนยางพารา โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ ตำรวจ และอาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง ประมาณ 100 คน ได้ออกตามล่านายชัยยศ ทั้งกลางวันและกลางคืนตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 วัน 2 คืน กระทั่งช่วงค่ำวานนี้
(1 ต.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายชัยยศ คนร้ายได้ออกมาจากป่า และใช้วัตถุงัดบ้านเรือนชาวบ้านหาอาหารกิน เนื่องจากนายชัยยศ คนร้ายไม่ได้กินอาหารเป็นเวลา 2 วัน หลังรับแจ้งตำรวจและกู้ภัย จึงนำกำลังปิดล้อม หลังบ้านที่เกิดเหตุ และส่งเสียงเรียกให้นายชัยยศ ออกมามมอบตัว แต่นายชัยยศ ได้เดินเข้าป่าหลบหนีไป



และเมื่อช่วงเวลาประมาณ 5 นาฬิกา ที่ผ่านมา ตำรวจรับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบนายชัยยศ ผู้ต้องหา เดินอยู่ในป่าสวนยางพารา ซึ่งห่างจากบ้านที่ถูกนายชัยยศ ใช้วัตถุงัดประมาณ 2 กิโลเมตร ตำรวจจึงกระจายกำลังติดตาม และจับกุมตัวนายชัยยศ ผู้ต้องหา ไว้ได้ ซึ่งนายชัยยศ อยู่ในสภาพอิดโรย จากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนเบื้องต้นที่ สภ.สำนักทอง

นายชัยยศ สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ พบนางสาวน้อยซึ่งเป็นเซลส์ขายรถมาก่อน และพบเบอร์โทรศัพท์นางสาวน้อยจึงเก็บเอาไว้ กระทั่งวันเกิดเหตุจึงออกอุบายโทรศัพท์หลอกนางสาวน้อย ให้นำสัญญาซื้อขายมาให้ที่เกิดเหตุ โดยครั้งแรกไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ แต่เมื่อเห็นางสาวน้อยอยู่คนเดียวจึงเกิดอารมณ์ จึงใช้มีดจี้บังคับนางสาวน้อย และฉุดเข้าไปในป่าสวนยางพาราข่มขืนดังกล่าว