ความคืบหน้าคดีกรณี นางดารัณ แพลอย หรือ อ้อย อายุ 58 ปี พนักงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ถูกลวงไปฆ่าตั้งแต่วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2566 ก่อนนำร่างโยนทิ้งเหว หลังอ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่จ.กาญจนบุรี

โดยตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี จับตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 คน คือ นางสาววิลาวัณย์ (สาว) และนายนิติ (กอล์ฟ) เบื้องต้นรับสารภาพฆ่าล้างหนี้

ล่าสุด ตำรวจคุมตัว 2 ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดนัดพบกับนางดารัณ ที่ขี่รถมาหาทั้งคู่ ในเวลา 12.58 น. วันเกิดเหตุ ตามกล้องวงจรปิด

ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ปั๊มน้ำมัน จับภาพเมื่อ 12.48 น. จับภาพของนางดารัณจอดรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถของนางสาวสาว

ขณะที่ภาพวงจรปิดอีกมุม จับภาพรถเก๋งของนางสาวสาว มาจอดเติมน้ำมันในปั๊มน้ำมันก่อน และจะเห็นนางสาวสาวสวมใส่เสื้อยืดของมหาวิทยาลัยสีน้ำเงิน ลงมาจากรถฝั่งข้างคนขับ จากนั้นจึงได้พานางดารัณขึ้นรถ

โดยนางสาวสาวเป็นคนขับ นางดารัณนั่งข้างคนขับ ส่วนนายกอล์ฟนั่งเบาะหลัง

กระทั่งวงจรปิดตัวที่ 3 จะเห็นภาพรถเก๋งของนางสาวสาวขับออกจากปั๊มน้ำมันไป

ต่อมาตำรวจคุมทำแผนชี้จุดที่2 หน้าร้านอาหาร ซึ่งคาดว่าเป็นจุดสลับที่นั่งหลังจากฆ่านางดารัณเรียบร้อยแล้ว

โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพช่วงที่นางสาวสาวลงจากรถจากประตูด้านหน้าข้างคนขับ

จากนั้นคุมทำแผนยังจุดทิ้งร่างของนางดารัณ โดยระหว่างทำแผน นายกอล์ฟยกมือไหว้ขอขมานางดารัณ พร้อมขอโทษครอบครัว ไม่ได้ตั้งใจ รู้สึกเสียใจ

หลังจากนั้นตำรวจคุมตัวกลับโรงพัก เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ทีมข่าวสอบถามนางสาวสาว ปรากฏว่า นางสาวสาวไม่พูดอะไร

ขณะที่นายกอล์ฟ กล่าวขอโทษทางครอบครัวผู้เสียชีวิต และอ้างว่าถูกนางสาวสาวเป็นผู้จ้างวานให้ฆ่า

ขณะที่พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมแถลงผลการจับกุม โดยระบุว่า จากการสอบปากคำทั้ง 2 ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านางดารัณจริง ส่วนสาเหตุที่ต้องลงมือฆ่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่า รู้สึกโกรธแค้นที่นางดารัณ ผู้ตายได้ติดตามทวงถามเรื่องหนี้สิน ที่ต้องแบกรับภาระเนื่องจากนางดารัณ ต้องดาวน์รถให้กับนางสาวสาว 3 คัน ซึ่งทำให้นางสาวสาวเกิดความเครียด และตัดสินใจวางแผนลงมือสังหาร

เมื่อไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่ามีการดูลาดเลา หาสถานที่ทิ้งศพ , กำหนดวันเวลาสถานที่นัดหมาย , อุปโลกน์ตัวละคร ลวงว่ามีนายทุนเสนอช่วยล้างหนี้ , พาเหยื่อไปจุดทิ้งศพ ก่อเหตุฆ่า และเตรียมเชือกไนลอนเพื่อใช้สังหาร

จากนั้นด้วยความโกรธแค้นและกดดัน นางสาวสาวจึงได้ว่าจ้าง นายกอล์ฟ ช่วยลงมือสังหารโดยนายกอล์ฟ อ้างว่า นางสาวสาวว่าจ้างเป็นเงินจำนวน 20,000 บาทในการร่วมก่อเหตุ

แต่ขณะนี้จากการสอบปากคำ นางสาวสาวยังไม่ยอมบอกว่า ได้ใช้ให้นางดารัณดาวน์ทั้งรถ 3 คัน เอาไปทำอะไร และรถทั้งหมดอยู่ที่ไหน ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างไล่ติดตามตรวจสอบรถทั้ง 3 คันอยู่

ขณะเดียวกันนายก็อต ซึ่งเป็นสามีของนางสาวสาว และเป็นคนที่นางสาวสาวให้ไปขี่รถจักรยานยนต์ของนางดารัณ ไปไว้ที่บ้าน ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม และจากการสอบถามนางสาวสาว บอกสั้นๆเพียงว่า รู้สึกสำนึกผิด

โดยในระหว่างที่ตำรวจสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องคดี นายระพี ชำนาญเรือ พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งมีลูกชายคนโตของนางดารัณ เดินทางมาที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยมีการนัดหมายเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวนไว้ เพื่อเข้ามาติดตามความคืบหน้าคดี และดำเนินการเรื่องสิทธิการเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิต

โดยระหว่างที่นายรพี ได้พาลูกชายของป้าอ้อย เดินทางขึ้นไปบนห้องพนักงานสอบสวนชั้น 2 ของโรงพัก ด้วยความบังเอิญหรือไม่ นายระพี ลูกชายของนางดารัณ และเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมจังหวัด กลับเจอนายก็อต สามีของนางสาวสาวผู้ก่อเหตุ ได้นั่งให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอยู่อีกโต๊ะภายในห้องเดียวกันพอดี

ในช่วงแรกทั้งสองฝ่ายยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แต่เมื่อนายรพีเห็นบรรดานักข่าวชี้บอกว่า สามีของนางสาวสาวผู้ก่อเหตุนั่งให้ปากคำอยู่ด้านหลัง นายระพีได้หันไปมองและยิ้มให้เล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะหันกลับทันที

ส่วนนายก็อตหลังจากรู้ว่า นายระพี ได้พาลูกชายและเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดมาตามความคืบหน้าคดี และทำเรื่องของสิทธิเยียวยาอยู่โต๊ะข้าง เจ้าตัวได้ทำตัวเลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูก และหันหลังกลับไปดูหน้าลูกชายและนายรพีหลายครั้ง โดยทั้งสองต่างฝ่ายต่างไม่พูดคุยกัน และนั่งอยู่ในห้องเดียวกันประมาณ 15 นาที ก่อนที่ฝ่ายนายระพี จะพาลูกชายผู้ตายออกจากห้องสอบสวนไปอยู่ห้องอื่น

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พบกับครูหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋ง ที่นางสาวสาวใช้ก่อเหตุฆ่านางดารัณ ครูหนึ่งเป็นคนที่นางสาวสาวขอใช้ชื่อไปดาวน์รถเก๋ง และใช้ชื่อเป็นเจ้าของรถ โดยครูหนึ่งเข้าไปกอดนางสาวสาว ในห้องสอบสวน

โดยครูหนึ่ง บอกว่า วางเงินดาวน์ 90,000 บาท ราคารถ 890,000 บาท คาดว่าจะหานายทุนมาดาวน์ให้ จากนั้นนางสาวสาวได้ส่งข้อความมาบอกว่าคุยกับไฟแนนซ์อย่างไร ส่วนที่มาในวันนี้ ต้องการมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเงิน 50,000 บาทก็ไม่ได้ แล้วใครจะใช้รถเพราะฆ่าคนบนรถ ทั้งที่มาขอใช้รถเพื่อรับส่งลูก และยอมรับว่าไม่รู้ว่าคนต่อไป ไม่รู้ว่าจะเป็นตนหรือไม่ที่ถูกฆ่า และเรื่องการออกรถเก๋ง ทางครูหนึ่งไม่ได้บอกครอบครัว เพราะต้องการที่จะช่วยเหลือจริงๆ

เมื่อช่วง 2 ทุ่มที่ผ่านมา ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดศรีอุปลาราม ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพนางดารัณ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสยุมภู แพลอย ลูกชายคนโตของนางดารัณ โดยกล่าวคำขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ติดตามจับกุมคนร้ายที่ฆ่าแม่ตนเองมาดำเนินคดีได้สำเร็จ และขอบคุณนักข่าวที่ช่วยนำเสนอติดตามจนตามหาแม่ของผมจนเจอ ถึงแม้ผมจะไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่า ทางครอบครัวซาบซึ้งใจมาก ส่วน 2 ผู้ต้องหา ตนเองไม่มีอะไรอยากจะฝากถึง และขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับทั้งสองคนไปตามกฎหมาย

แฉนังสาวจอมโหดสลับตัวฆ่าป้าอ้อย ปั่นหัวผู้ให้ 2 หมื่นรัดคอ เหยื่อโผล่หวิดเป็นศพ 2