"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" เผย 3 DSI เข้ามอบตัวปฏิเสธทุกข้อหาคดีค้นบ้านพักกงสุลฯ ตบทรัพย์ 10 ล้าน

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีการมอบตัวของ 3 เจ้าหน้าที่ดีเอสไอในคดีค้นบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ว่า ก่อนหน้านี้ได้มีดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปบางส่วนแล้ว

และจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผล วานนี้ (22 พ.ค.) ตนได้นำรายงานการสอบสวนทั้งหมดขออนุมัติหมายจับต่อศาล และศาลได้มีคำสั่งอนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทั้งหมด 3 ราย ซึ่งในวันนี้ทั้งหมดได้เดินทางเข้ามอบตัวเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตนยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อีกทั้งเมื่อวานนี้ก็ได้โทรศัพท์เรียนแจ้งไปยังนางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมรายงานไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งท่านก็ให้รับมอบตัวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทั้ง 3 ราย โดยแบ่งเป็น 2 รายเข้ามอบตัวที่สโมสรตำรวจ

ส่วนอีกราย (นายเสกสิทธิ์ สวรรยาธิปัติ หรือ ผอ.ท็อป อดีตผู้อำนวยการกองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ) เข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจแทน และทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาจนถึงที่สุด ผู้ต้องหาก็มีสิทธิในการต่อสู้คดี แต่เราก็ทำหน้าที่ในการรวบรวมพยานเพื่อพิสูจน์ให้ศาลเห็นชอบอนุมัติหมายจับดังกล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ภายหลังการเข้ามอบตัวในวันนี้ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทั้ง 3 รายจะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ ดังนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และได้ให้ประกันตัวไปตามสิทธิ์ ทั้งหมดนี้จึงเป็นความก้าวหน้าทางคดีในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

จากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดไปดูอีกว่ายังมีบุคคลใดเกี่ยวข้องและเข้าข่ายเป็นความผิดอีกบ้าง แต่ถ้าหากครบถ้วนทุกประเด็น ตนก็จะแถลงปิดคดีอีกครั้งเพื่อให้สังคมรับทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินคดีอาญากับใครไปแล้วบ้าง ส่วนเจ้าหน้าที่สถานทูตกงสุลใหญ่นาอูรู 1 รายที่เกี่ยวข้องก็ได้ถูกแจ้งดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

ส่วนเรื่องเงินจำนวน 10 ล้านบาท ทุกวันนี้ยังหาไม่เจอ แต่เชื่อว่ามีการแบ่งกันเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งก็ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดยอมเปิดเผย แต่เราจะอาศัยพยานหลักฐานอื่นๆ ถึงแม้ไม่มีเงินให้พบ แต่เรามีพยานหลักฐานอื่นเชื่อมโยง จนทำให้ศาลเชื่อและอนุมัติหมายจับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอระดับ ผอ.สำนักฯ ได้


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 16.25 น. ภายหลังจากที่นายอนัน สีลาโคตร อดีตเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ได้ให้ปากคำเเละมอบตัวเสร็จสิ้น เจ้าตัวได้เดินออกมาจากห้องพนักงานสอบสวน โดยไม่ตอบคำถามแต่อย่างใด และสาวเท้ายาวรีบเดินหนีไปยังรถยนต์ซูซูกิ สวิฟต์ สีขาว โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคอยควบคุมตลอดเวลา

จากนั้นปรากฏว่า นายตฤณ พิชิตกุญชร อดีต ผอ.ส่วนกลั่นกรองและการข่าวคดีพิเศษภาคกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค ซึ่งสอบปากคำและมอบตัวเสร็จไปก่อนหน้านี้ ได้เดินลงมาจากรถยนต์กระบะ ก่อนขึ้นไปที่นั่งคนขับรถสวิฟต์คันดังกล่าว และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนั่งอยู่ในห้องโดยสาร จากนั้นจึงขับรถออกไปจากสโมสรตำรวจ เพื่อไปยังสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ