"ชูวิทย์"ลากกระเป๋าเดินทาง บุก สตช. ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยว ถือกระเป๋าให้"ทนายตั้ม"

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินหน้าจี้ สตช. ตรวจสอบตำรวจท่องเที่ยว ตบเท้าหิ้วกระเป๋าสัมภาระให้ทนายษิธาหรือทนายตั้ม เรื่องนี้นายชูวิทย์บอกว่า เป็นความเหลื่อมล้ำสังคม พร้อมตรวจสอบ การถ่ายรูปกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ว่าเเสวงหาผลประโยชน์หรือไม่

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์อดีตนักการเมือง เดินทางมาที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติเข้าพบ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีที่ตำรวจท่องเที่ยวตั้งเเถวต้อนรับ หิ้วกระเป๋าสัมภาระ อำนวยความสะดวก ให้ทนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เเละ ยังยกมือไหว้ ทนายษิทรา รวมถึงกรณีที่มีภาพปรากฏว่าถ่ายรูปกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด

นายชูวิทย์ ระบุว่า อยากให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่านายตำรวจท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเช่นเดียวกัน เพราะมันคือความเหลื่อมล้ำของสังคม รวมถึงกระเป๋าสัมภาระ มีการตรวจสอบมการสำเเดงภาษี เสื้อผ้า เเบรนด์เนม ที่นำเข้ามาด้วยหรือไม่ เเม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ใหญ่แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับประชาชน เพราะการที่ทนายสนิทกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นั้นสามารถนำไปหากินได้ ยืนยันว่า ยังมีหลักฐานอื่นๆ ประกอบ เเต่จะค่อยๆ เปิดทีละน้อย

ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าการออกมาเเฉของ นายชูวิทย์ เป็นเรื่องส่วนตัว นายชูวิทย์ บอกว่า ไม่ได้เป็นคนเริ่ม เเละเรื่องที่พูดเป็นประโยชน์ ต่อสังคม หากใครมองว่าไม่เป็นประโยชน์ ให้มาด่าได้เลย เพราะเอาเรื่องจริงมาเปิดเผย โดยเฉพาะ อาชีพทนายความ ที่สามารถนำไปหากินได้ มองว่าถ้าไม่มีคนสั่ง ก็จะไม่มีตำรวจมาทำเเบบนี้ ตนอายุระดับนี้เเล้วมองดูก็รู้ พร้อมเตือนบิ๊กโจ๊กต้องระวัง คนที่จะเป็น ผบ.ตร.ตำเเหน่งนี้ จะต้องวางตัวให้เหมาะสม เพราะอาจถูกนำไปเเสวงหาผลประโยชน์

ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จากข้อมูลที่นายชูวิทย์ นำมามอบให้จะนำไปเพิ่มเติมตรวจสอบ ยืนยัน ว่าโดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ภารกิจของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวจะมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความปลอดภัย เเละ อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว มีหลายเหตุการณ์ที่ต้องอำนวยความสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร.สั่งให้ทบทวนมาตรการดูแล ให้มีความทัดเทียมกันตรงไหนที่มีความเหลื่อมล้ำให้ทบทวนดู

โดยในวันนี้ (25เม.ย.66) นายชูวิทย์ ก็ได้โพสต์ภาพทนายตั้ม นั่งประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมตำรวจรายอื่น ๆ ผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้ง พร้อมระบุข้อความว่า "ประชุมสุดยอดไม่อยากจะพูดกระทบกระทั่งไปถึง “เทพ จ.” ที่บอกว่า “รูปกับทนายตั้มเป็นรูปเก่างานวันเกิด 5 ปีที่แล้ว ใครจะมาหาห้ามไม่ได้” งั้นเอารูปนี้แล้วกัน ใหม่ๆ ไม่นานนี่เอง ตั้มนั่งประชุมกลางโต๊ะ ในหมู่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ท่าทางสั่งการเหมือนผู้บัญชาการ ทั้งที่เป็นทนาย โถ คบเด็กสร้างบ้าน คบทนายเซเลป ได้ดีหรือได้พัง เดี๋ยวก็รู้ ไม่ใช่คลิปเก่าที่ทนายตั้มพยายามมาเล่า ยังนั่งกินเหล้าหัวร่อกันอยู่ว่า “ได้ฝากไง ฝากลูกมึงเป็นทหารเกณฑ์” ที่นี้ ต่อไปต้องค่อยๆ เปิดไง ทำเหมือนที่ทนายตั้มชอบใช้ ทยอยปล่อยภาพชุด ขุดหลุมให้ออกมาแก้ตัว แล้วเปิดต่อ ภาพนี้คงเลิกแก้ตัวว่าเป็นภาพเก่า หน้ากากยังใส่กันอยู่ แหม หนักกว่าภาพเก่าแค่เป่าเค้กวันเกิด แต่นี่ร่วมประชุมด้วยเลย เดี๋ยวออกมาแก้ตัวอีก แล้วค่อยเปิดอีกนะ เมื่อรบกันแล้ว ต้องเอาให้ตายกันไปข้างหนึ่ง

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 25 เม.ย. ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องระหว่างคุณชูวิทย์และทนายตั้มที่เขาทะเลาะกัน ตนขอไม่ยุ่งดีกว่าและไม่ได้หนักใจในเรื่องนี้ เนื่องจากตนรู้จักคนเยอะ ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่ใครเข้ามาขอพบและมาขอถ่ายรูปด้วยก็ได้ แต่ทนายตั้มเขาเป็นคนชอบโพสต์เรื่องต่างๆในโซเชียลมีเดีย เรื่องนี้ต้องเป็นบทเรียนให้แก่ตัวเขาเอง การเป็นทนายเพื่อประชาชน เขาต้องเป็นคนเสียสละ ไม่ใช่เป็นทนายแต่ทำตัวเป็นเซเลปบริตี้ ถ้าอยากเป็นเซเลปฯ ต้องไปเป็นดารา ตนไม่ได้จะตำหนิใครทั้งสิ้น เช่นเดียวกันการถ่ายรูปตนแล้วเอาไปโพสต์ นายชูวิทย์ก็เอาไปโพสต์ต่อ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันเป็นเรื่องจริง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนภาพที่เห็นในห้องประชุม เป็นการประชุมเรื่องงานไม่ใช่การคุยเรื่องธุรกิจ เนื่องจากทนายตั้มเป็นคนรู้กฎหมายและในการทำงานตนก็ต้องการข้อมูลจากหลายคน ใครมาคุยกับตน แล้วขอถ่ายรูปก็ได้ถ่ายหมดแต่อยู่ที่ว่าเขาจะมีการนำไปโพสต์หรือไม่ แต่ทนายตั้มชอบไปโพสต์ ชอบไปอวด มันก็เป็นบทเรียนสอนเขาว่า ทำแบบนี้ต่อไปผู้ใหญ่ที่ไหนจะกล้าไปพูดคุยด้วย