เพลิงพิโรธสงบ​แล้ว​! อาคาร บก.น.5 พังวอด​ จนท. เร่งตรวจสอบเอกสารคดีสำคัญ พร้อมยังตรึงกำลังป้องกันไฟปะทุซ้ำ ทั้งนี้อาคารมีอายุ 42 ปี พื้นไม้-คลังเก็บเอกสาร จึงทำให้เปลวไฟโหมหนักวอดทั้งอาคาร

วันที่ 4 มี.ค.​66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ​ จากการสอบถามพบว่าเพลิงสงบตั้งแต่เวลา 06.30 น. โดยประมาณ​ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่​ เพื่อป้องกันเหตุไฟปะทุขึ้นมาอีกรอบ​ เนื่องจากตัวอาคารค่อนข้างเก่า​ก่อสร้างมาแล้วกว่า 42 ปี​ อีกทั้งพื้นอาคารยังเป็นไม้​ จึงง่ายต่อการติดไฟ​

ขณะเดียวกัน​ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5 ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ​และเข้าไปตรวจสอบบริเวณภายในอาคาร​ และตรวจสอบเอกสารสำคัญต่าง ๆ​ ที่ได้รับความเสียหาย

ซึ่งในช่วงเช้านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาที่เกิดเหตุ ขณะกำลังจะไปออกกำลังกาย พร้อมกล่าวว่า จากการสอบถามตำรวจเวรยามรักษาการหน้าอาคาร ทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดคล้ายไฟฟ้าลัดวงจรที่ชั้นล่างของตัวอาคาร จากนั้นเห็นแสงเพลิงกำลังลุกไหม้กองเอกสาร จากนั้นก็รีบนำถังดับเพลิงวิ่งเข้าไปฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้เข้ามาช่วยเหลือ โชคดีที่ใกล้จุดเกิดเหตุมีคลองสาทร จึงสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำในการดับไฟได้

และในเวลาต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกล่าวว่า จากการสอบถามเวรยามรักษาการทราบว่ามีเพลิงลุกไหม้ที่บริเวณชั้นหนึ่ง จากนั้นตำรวจรักษาการเห็นเปลวเพลิง และรีบนำถังดับเพลิงมาฉีดสกัด จำนวน 2 ถัง แต่เนื่องจากจุดที่ไฟไหม้เป็นกองเอกสาร ทำให้ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงรีบโทรแจ้งรถดับเพลิงมาที่เกิดเหตุ ก่อนที่ไฟจะลุกลามไปยังชั้น 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว จนตัวหลังคาพังลงมา และได้รับความเสียหายทั้งหลัง

พล.ต.ท.ธิติ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารดังกล่าวใช้เป็นที่เก็บเอกสารทางธุรการ และเอกสารทางราชการ ส่วนจะมีเอกสารในคดีสำคัญถูกเก็บไว้ด้วยหรือไม่ยังคงต้องใช้เวลาตรวจสอบสักระยะ อย่างไรก็ตามช่วงเกิดเหตุไม่มีใครพักอาศัยอยู่ภายใน จึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังจากนี้จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และต้องตรวจสอบโครงสร้างอาคารว่าจะเสียหายถึงระดับโครงสร้างจนต้องทุบทิ้งหรือไม่ ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากตอนเกิดเหตุไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ภายใน

เบื้องต้นเจ้าหน้ากรมโยธา และ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป