แก๊ง ม.6 เจอคู่อริบนถนนกลางดึก อ้างถูกด่าแม่ ตามใช้ 9 มม.ไล่ยิง โดนเพื่อนสาวคู่อริที่นั่งซ้อนท้าย จยย.เสียชีวิต

เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 29 ม.ค. ร.ต.อ. เลิศ ศรีรักษา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุทะเลาะวิววาทและมีการใช้อาวุธปืนยิงมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนวัดภูธรอุทิศ-ทุ่งใหญ่  พื้นที่หมู่ 7 ต.ขุนทะเล  จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อมร ชัยศิลป์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สมเกียรติ สังข์นาค สว.สืบสวน.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี

 

ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิง ทราบชื่อ คือ น.ส. อัจฉราภรณ์ อายุ 21 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดเข้าที่ ราวนมซ้าย 1 นัด อาการสาหัส หน่วยกู้ภัยจึงเร่งนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อให้การช่วยเหลือ ไม่สามารถทนพิษบาดแผลได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

ขณะเดียวกันชุดสืบสวน ได้นำตัวเพื่อนผู้ตาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ อายุ ระหว่าง 15-18 ปี จำนวน 5 ราย เป็นผู้ชาย 3 คน และหญิง 2 คน ไปสอบสวน โดยนายธนพนธ์ อายุ 17 ปี แจ้งว่า พวกตนทั้ง 6 คน พากันมาเที่ยวดื่มกินที่ร้าน จนถึงเวลาร้านปิด ได้พากันออกจากร้านขับไปตามถนนเส้นหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏ แล้วขับรถสวนกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งเคยมีปัญหากันมาก่อน จึงพากันเร่งเครื่องหลบหนี จนถูกคู่อริตามมาทันที่บริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะถูก 1 รายที่มาด้วยกัน 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ตน แต่กระสุนพลาดไปถูก น.ส. อัจฉราภรณ์ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตน  ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มะขามเตี้ย

 

ต่อมา พ.ต.ต.สมเกียรติ สังข์นาค สว.สืบสวน กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังออกติดตามตัวด้วยการกดดันไปตามบ้านญาติ ก่อนญาติจะประสาน เข้ามอบตัวที่ สภ.บ้านนาเดิม เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปควบคุมตัว ประกอบด้วย นายชิษณุพงศ์ อายุ 18 นายปริญญา อายุ 18 ปี  นายอารักษ์ อายุ 18 ปี และนายศิริวัฒน์  อายุ 18 ปี ทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ม.6 จึงนำตัวทั้งหมดมาซักถามปากคำ ที่ สภ.ขุนทะเล

 

โดย พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ซึ่งได้เดินทางไปซักถามปากคำผู้ก่อเหตุด้วยตนเอง จนผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ ว่านายปริญญา หรือ พร้อม เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย พร้อมนำตรวจยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่บ้านพัก รถจักยานยนต์ที่ใช่ก่อเหตุ 2 คัน และให้การว่า ขณะที่พวกนายพร้อม ได้พากันขับรถจักรยานยนต์มาบนที่เกิดเหตุ ได้ขับรถสวนกับกลุ่มผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคู่อริเก่ากันมาก่อน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงด่าแม่มาจากกลุ่มของคู่อริ จึงได้เลี้ยวรถกลับมาขับไล่ยิง ส่วนอาวุธปืน รับว่าสั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต ในราคา 20000 บาท เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังเกิดปัญหากับกลุ่มของนายธนพนธ์  เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และพกพาอุธปืน เครื่องกระสุนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และควบคุมตัวไว้สอบสวนปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

 

 

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยสอบถาม น.ส.ศวรรยา อายุ18 ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ และกลุ่มของตนเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ยกเว้นผู้เสียชีวิตไม่รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน ช่วงเกิดเหตุตนและเพื่อนอีก4คนรวมผู้เสียชีวิต ได้กลับจากกินข้าวต้มและเจอผู้ก่อเหตุระหว่างทางหลังจากนั้นได้มีปากเสียงกัน ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุคิดว่าคนในกลุ่มของตนด่าบุพการี หลังจากนั้นกลุ่มของตนเห็นว่าเริ่มมีท่าทีไม่ดีจึงพยายามขับรถหลบหนี กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด ก่อนกลุ่มตนจะเร่งเครื่องเพื่อหลบหนี ขับตามมาอีก 2 กิโลเมตร ก่อนจะยิงใส่เข้ามาที่กลุ่มของตนเอง

 

ส่วนที่วัดเขาชาวนาราม ต.ทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี   นางไพรมณี สารบูรณ์ อายุ 48 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งได้มาจัดเตรียมสถานที่รอรับร่างลูกสาว กล่าวว่า  ตนเองเป็นชาวอีสานแต่มาตั้งรกรากที่ ต.ช้างขวา ตั้งแต่ปี 38 มารับจ้างกรีดยาง น้องอุ้มเป็นลูกคนที่ 3 ในพี่น้อง 5 คน ถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในบ้าน ในการช่วยดูแลน้อง ซึ่งที่ผ่านมาเวลาน้องอุ้มจะออกไปเที่ยวกลางคืนตนมักจะเตือนเสมอและไม่ค่อยอยากให้ไป จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ก็ห้ามว่าอย่าไปเลยมันอันตราย และช่วงเวลา 00.30 น. น้องอุ้มได้โทรมาถามว่าแม่จะไปกรีดยางหรือไม่ หากไป จะนำรถจยย.มาคืน แต่ตนเองบอกว่า คืนนี้ไม่ได้กรีดยาง น้องอุ้มจึงไม่ได้เอารถมาคืนและเที่ยวต่อ จนเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งตนเองทำใจไม่ได้ เพราะว่า น้องอุ้มไม่ได้มีปัญหาอะไรกับกลุ่มคนที่ก่อเหตุ และยิ่งรู้ว่าผู้ก่อเหตุคือเยาวชนตนยิ่งรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งจะเอาเรื่องถึงที่สุด