กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนให้ปรับกลุ่มยาแอมเฟตามีนออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 1 เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อวงการแพทย์ เพราะรักษาโรคสมาธิสั้นได้ ด้าน 'พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา' เตรียมเสนอใช้มาตรา 44 ปรับยาบ้ามาเป็นยารักษาโรค

พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับยาบ้าออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 1 มาเป็นยาเสพติดประเภท 2 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาปรับยาบ้าให้มาอยู่ในยาเสพติด ประเภท 2 เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์

หากจำเป็นอาจเสนอให้ใช้มาตรา 44 เพื่อปรับยาบ้าออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 1 แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขด้วย

นอกจากนี้จะมีการปรับบัญชียาเสพติดประเภท 5 อาทิ กัญชา และใบกระท่อม เพราะกฎหมายปัจจุบันระบุว่า กระท่อม กัญชา เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ปัจจุบันทางการแพทย์พิสูจน์มาแล้วว่าสามารถช่วยรักษาโรคได้

จึงกำลังพูดคุยกันว่า หากมีคนนำไปปลูกเป็นยาสามัญประจำบ้านก็ไม่น่าจะผิดกฎหมาย แต่หากนำมากลั่นกรองเป็นยาเสพติดถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้นจะต้องแยกประเภทพืชเหล่านี้ให้ชัดเจนว่าลักษณะไหนเป็นยาเสพติด และลักษณะไหน เป็นการรักษาโรค

ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการหารือเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุขมองว่า ควรจะใช้ยากลุ่ม 'แอมเฟตามีน' หรือ ยาบ้า เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพราะจากการศึกษาพบว่า สามารถนำมาใช้ในเชิงระบบบำบัดและรักษาด้านประสาท รวมถึงกระตุ้นทางจิตประสาทได้

ขณะที่นายแพทย์วิโรจน์ วีรชัย ผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กล่าวว่า ยากลุ่ม 'แอมเฟตามีน' มีประโยชน์ในทางการแพทย์ เพราะสามารถใช้รักษาโรคสมาธิสั้นได้ และจากการศึกษาทั้งในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียพบว่า สามารถรักษาผู้ติดยาบ้ารุนแรงได้

โดยจะใช้ทดแทนยาบ้าในช่วง 2-3 เดือนแรก แต่ประเทศไทยยังไม่มีการใช้ยาดังกล่าว เพราะยาบ้าถือเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1

ส่วนตัวเห็นด้วยที่จะปรับลดกลุ่มแอมเฟตามีนออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้

'พล.อ.ไพบูลย์' เล็งเสนอใช้ ม.44 ลดระดับยาบ้าเป็นยารักษาโรค