สลด! เด็กหญิง 16 ปี แจ้งความ ถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนนาน 9 ปี เผยให้เลิกเรียนตั้งแต่ ป.6 กลัวไปมีแฟน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (14 ก.ค.65) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน เดินทางไปยัง สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี พา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี ผกก.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายบี (นามสมมติ) อายุ 54 ปี หลังข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ ลูกสาวแท้ๆมานานกว่า 9 ปี ( 7 ขวบ - 16 ปี) โดยหลังจากเรียนจบ ป.6 นายบี ได้บอกกับ ด.ญ.เอ ว่าไม่ต้องไปเรียนแล้ว กลัวไปเรียนเดี๋ยวมีแฟน ให้อยู่แต่บ้านเพื่อเป็นเมียตนเอง

นายหนึ่ง (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ตนเองสังเกตุเห็นน้องเอ มีพฤติกรรมซึมเศร้า ไม่เล่นกับใคร ชอบนั่งร้องไห้อยู่ริมถนน คล้ายเด็กเก็บกด ตนเห็นผิดสังเกตุจึงเข้าไปสอบถาม แรกๆน้องไม่พูดอะไร พอเค้นถามหลายครั้งน้องจึงเล่าให้ฟังว่า ถูกพ่อแท้ ๆ ของตนเองข่มขืนมานานกว่า 9 ปี ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.2 ตอนนั้นพ่อกับแม่แยกห้องนอนกัน พ่อได้เอาน้อง ไปนอนด้วยและเริ่มข่มขืนเรื่อยมา และข่มขู่ไม่ให้บอกใคร จนกระทั่ง น้อง เรียนถึงชั้น ป.6 พ่อเริ่มมีพฤติกรรมหึงหวง และทุบตีน้องประจำเนื่องจากกลัวน้องจะไปมีแฟน น้องเครียดมากจึงตัดสินใจผูกคอตาย โดยปีนบันไดนำเชือกมาผูกกับขื่อบ้าน และทิ้งตัวลงมา แต่แม่เข้ามาช่วยได้ทัน

ต่อมาเมื่อน้องเรียนจบ ป.6 พ่อก็ไม่ให้เรียนต่อ โดยบอกกับน้องว่าให้อยู่บ้านเป็นเมียพ่ออีกคนนึง จากนั้นพอน้องอายุได้ 14 ปี แม่ก็มาเสียชีวิต หลังจากแม่เสีย น้องถูกพ่อข่มขืนเกือบทุกวัน โดยพ่อจะมีความต้องการทางเพศมาก หากน้องไม่ยอมจะถูกทุบตี ทุกวันพ่อจะให้เงินน้องไว้กินวันละ 20 บาท หากวันไหนน้องขัดขืนไม่ยอมให้พ่อมีอะไรด้วย พ่อจะไม่ให้เงิน และไม่ซื้อข้าวให้ น้องต้องทนหิวกินเพียงน้ำเปล่าเท่านั้น น้องยอมรับว่าสาเหตุที่ไปนั่งริมถนนทุกวัน เพราะอยากวิ่งออกไปให้รถชนให้ตายเพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อข่มขืนอีก

นายหนึ่งกล่าวต่อว่า หลังจากตนทราบเรื่อง จึงได้สอบถามน้องว่า ต้องการให้ช่วยหรือไม่ น้องเอ ร้องไห้และขอให้ตนช่วยเหลือ โดยน้องบอกว่า หากไม่มีใครช่วยน้องก็จะตัดสินใจจบชีวิต เพราะน้องไม่ไหวแล้ว ตนจึงแนะนำให้น้องปรึกษาเรื่องนี้กับพี่ชายของน้องแท้ๆ ที่มีอายุ 18 ปี เพื่อพาเข้าแจ้งความ แต่พี่ชายปฏิเสธ เนื่องจากกลัวพ่อจะมาเอาเรื่อง ต่อมาเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เรื่องนี้รู้ไปถึงหูพี่สาวของน้องกับป้าแท้ ๆ ของน้อง ที่อยู่ต่างจังหวัด ทางพี่สาวจึงได้ติดต่อมาหาน้อง พร้อมขอไม่ให้แจ้งความ โดยบอกกับน้องว่า "โดนพ่อข่มขืน ยังดีกว่าโดนคนอื่นข่มขืน เพราะพ่อเป็นผู้มีพระคุณ" และยังข่มขู่ว่า หากแจ้งความ พี่สาวก็จะประจานว่าน้องเต็มใจนอนให้พ่อมาข่มขืนเอง ตนจึงตัดสินใจจะพาน้องเข้าไปแจ้งความเอง แต่ภรรยาตนบอกว่าพ่อของ ด.ญ.เอ รู้จักคนในพื้นที่เยอะ เกรงว่าหากตนพามาแจ้งความ คดีอาจจะล่าช้าและน้องก็จะไม่ปลอดภัย เพราะพ่อน้อง เคยข่มขู่ว่า หากบอกใครจะฆ่าให้ตาย ตนจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือมายัง เพจสายไหมต้องรอด เพราะเห็นว่าทางเพจลงพื้นที่ช่วยเหลือคนทั่วประเทศมาตลอด

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดกล่าวว่า หลังทราบเรื่องตนได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.กิตติพงศ์ พันธ์ศรี ผกก.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที เพราะเรื่องนี้รอไม่ได้ หากเราปล่อยเวลาผ่านไป เท่ากับเราต้องปล่อยให้เหยื่อเสี่ยงที่จะถูกพ่อใจทรามข่มขืนไปเรื่อย ๆ ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องเร่งดำเนินการ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง นางแรมรุ่ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักสังคมสงเคราะห์ - นักจิตวิทยา ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยมี พมจ.ชลบุรี และ น.ส.นัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เป็นตัวแทนเข้าร่วมการสอบสหวิชาชีพเด็ก นอกจากนี้ยังเตรียมประสาน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อีกด้วย

โดยหลังจากเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเสร็จ ทางหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี ได้แยกพา ด.ญ.เอ ไปเข้ารับการคุ้มครอง ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชลบุรี สังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทันที ในส่วนของข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต