ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศว่า บรรดาประเทศที่ไม่เป็นมิตรทั้งหลาย หากต้องการซื้อพลังงานก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย จะต้องใช้สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียเท่านั้น

 

(24 มี.ค. 65) สืบเนื่องจากวันที่ 23 มี.ค. 65 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียประกาศว่า จะตอบโต้การตัดสินใจที่ผิดกฎหมายของชาติตะวันตกในการอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย โดยจะกำหนดให้ประเทศเหล่านี้ต้องจ่ายเงินซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล หรือสกุลเงินของรัสเซีย นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป โดยทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า การส่งสินค้ารัสเซียไปขายในสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ แต่ได้รับเงินกลับมาในสกุลดอลลาร์ ยูโร หรือสกุลอื่น ๆ เป็นอะไรที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

โดยประธานาธิบดีปูติน กล่าวในระหว่างการประชุมกับข้าราชการฝ่ายบริหารว่า ประธานาธิบดีปูตินได้ตัดสินใจว่า ประเทศที่ไม่เป็นมิตรทั้งหลาย จะต้องเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินรูเบิล ในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติ และจะเลิกใช้สกุลเงินอื่นที่มีความเสี่ยงในการซื้อขายเสียที และย้ำว่า รัสเซียจะยังคงเดินหน้าส่งก๊าสธรรมชาติ ในปริมาณ และราคาตามระบบกลไกที่มีอยู่ในข้อตกลง

อีกทั้งประธานาธิบดีปูติน ยังได้สั่งการให้ธนาคารกลางรัสเซีย พัฒนา และจัดเตรียมระบบกลไกทางการเงิน ให้พร้อมเพื่อรองรับการซื้อก็าสธรรมชาติด้วยสกุลเงินรูเบิลภายใน 1 สัปดาห์

ขณะที่ ทางด้านสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในช่วง 15 วันแรกของเดือนมีนาคมนี้ บริษัทก๊าซพรอม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ได้ส่งออกก๊าซไปยังต่างประเทศที่ไม่ใช่อดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ได้แก่กลุ่มประเทศยุโรป, จีน และตุรกี เฉลี่ย 500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยแบ่งเป็นการส่งออกไปยังยุโรป 384 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

โดยท่าทีของปูตินในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นนโยบายเศรษฐกิจของรัสเซีย ที่จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มประเทศยุโรปอย่างที่สุด และอาจจะส่งกระทบต่อการเมืองของยุโรปด้วย เพราะชาติสมาชิกสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ อยู่ในรายชื่อประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย และพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นปริมาณจำนวนมหาศาล