ทหารพรานที่ 35 พร้อมฝ่ายปกครอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก  ร่วมกันบุกทลายโรงเลื่อยไม้เถื่อนกลางป่าสงวนแห่งชาติท่าสองยางได้ของกลางเป็น ต้นกระยาเลยถูกโค่น 20 ต้น และไม้ที่ถูกเลื่อยแปรรูปเป็นแผ่นอีกจำนวน 150 แผ่น

 

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ( 16.00 น.) พันเอก จักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้นำกำลังทหารพรานชุดกองร้อยทหารพรานที่ 3503 สนธิกำลังฝ่ายปกครองอำเภอท่าสองยาง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 344 และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตก.20 อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ร่วมกันเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบภายในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติท่าสองยาง บริเวณป่าท้ายหมู่บ้านตะโต๊ะโกร หมู่ที่ 7 ต.แม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก หลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหาข่าวของกองร้อยทหารพรานที่ 35 สืบทราบว่าพบกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้สงวนแอบลักลอบเข้าไปตัดไม้หวงห้ามภายในพื้นที่ป่าดังกล่าว

โดยกำลังเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าขึ้นภูเขาสูงและลาดชันนานหลายชั่วโมงท่ามกลางการป้องกันรักษาความปลอดภัยในทีมของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันกับดักของกลุ่มขบวนการที่อาจวางไว้ในพื้นที่เป้าหมาย จนในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายและเร่งเข้าตรวจสอบรอบพื้นที่รัศมี 200 เมตรเจ้าหน้าที่พบชุดเครื่องเลื่อยยนต์ขนาดใหญ่พร้อมแท่นตั้งอยู่กลางกองขี้เลื่อยไม้จำนวนมากกองตกอยู่ในป่า นอกจากนี้ยังพบต้นกระยาเลยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างกว่าครึ่งเมตรซึ่งมีอายุหลายสิบปีถูกตัดโค่นจำนวน 20 ต้นขนาดใหญ่ และยังพบไม้กระยาเลยที่ถูกเลื่อยแปรรูปเป็นแผ่นแล้วพร้อมลำเลียงส่งขายอีกจำนวน 150 แผ่นถูกซุกซ่อนในป่าทึบแต่ไม่พบกลุ่มผู้กระทำผิดซึ่งคาดว่าจะไหวตัวหลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่จึงบันทึกตรวจยึดไม้ทั้งหมดพร้อมอุปกรณ์เลื่อยไม้ไว้เป็นของกลางพร้อมลำเลียงไม้ของกลางทั้งหมดออกนอกพื้นที่แต่การลำเลียงก็เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าลาดชันและคาดว่าต้องใช้เวลานานอีกหลายชั่วโมงจึงจะสามารถลำเลียงไม้ของกลางทั้งหมดออกจากป่าได้ทั้งหมด

ด้านพันเอก จักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 กล่าวว่าการเข้าตรวจยึดไม้ทั้งหมดในครั้งนี้ชุดลาดตระเวนทหารพรานที่ 35 สืบทราบจากการแจ้งข่าวของชาวบ้านว่าช่วงฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมดินสไลด์ในหลายพื้นที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยเร่งออกช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยจนทำให้กลุ่มขบวนการแอบฉวยโอกาสลักลอบเข้าป่าเข้าไปลักลอบตัดโค่นไม้หวงห้ามในป่าสงวนซึ่งคาดว่ากลุ่มขบวนการนี้เป็นกลุ่มใหญ่และคงมีคำสั่งซื้อจากกลุ่มนายทุนค้าไม้เถื่อนแนวชายแดน ซึ่งขนาดนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกฝ่ายกำลังเร่งสืบสวนขยายผลหากลุ่มผู้กระทำผิดกลุ่มนี้พร้อมเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้าไปเพิ่มความเข้มงวดในการออกลาดตระเวนเพื่อคุ้มกันพิทักษ์รักษาไม้หวงห้ามที่ยังเหลืออยู่ในป่าอีกหลายต้นซึ่งไม้หวงห้ามที่เหลืออยู่นี้ในขนาดนี้ก็ตกอยู่ในสภาพที่เสี่ยงต่อการถูกลักลอบตัดโค่นได้ตลอดเวลาจนต้องจัดกำลังเฝ้าระวังคุ้มกันต้นไม้ที่เหลืออย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง