ชายวัย 32 ปี คลุ้มคลั่งจับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และพนักงานคนไทย รวม 6 คน เป็นตัวประกัน พร้อมชักปืนยิงขู่ 4 นัด กลางร้านอาหารที่อ่าวไร่เลย์ จังหวัดกระบี่ พบดื่มเหล้าและเสพยา จนเกิดอาการหลอน กลัวคนจะมาทำร้าย

ตำรวจภูธรจังหวดกระบี่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รวมกว่า 50 นาย นำกำลังเข้าจับกุมตัว ชายอายุ 32 ปี หลังเกิดอาการคลุ้มคลั่งจับนักท่องเที่ยว และพนักงานคนไทย รวม 6 คน เป็นตัวประกันภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่อ่าวไร่เลย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ในพื้นที่ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ พร้อมใช้ปืนยิงข่มขู่หลายนัด สร้างความตื่นตระหนกแก่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และต่างชาติเป็นอย่างมาก

พันตำรวจเอกพิษณุ พ่วงพร้อม ผู้กำกับการกองกำกับการสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางมาหาเพื่อนที่อ่าวไร่เลย์ ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม และได้เข้าพักอยู่กับเพื่อน กระทั่งก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และหวาดระแวงตลอดเวลา โดยกลัวว่า จะมีคนมาทำร้าย จึงนำอาวุธปืนที่พกออกมา แล้วเดินถือไปตามร้านค้าอ่าวไร่เลย์

จากนั้น ได้เข้าไปในร้านอาหารที่เกิดเหตุ ก่อนเดินขึ้นไปบนชั้น 2 ของร้าน แล้วใช้ปืนขู่ให้นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย จำนวน 3 คน และพนักงานคนไทยอีก 3 คนไว้เป็นตัวประกัน หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้ห้ามไม่ให้ใครขึ้นไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมยิงปืนขึ้นฟ้าประมาณ 4 นัด สร้างความตื่นตระแก่นักท่องเที่ยวบริเวณดังกล่าว เป็นอย่างมาก โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย

โดยหลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมร้านอาหารดังกล่าว ได้พยายามเกลี้ยกล่อม แต่เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ ก็เกิดอาการหวาดระแวง และใช้ปืนเล็งไปมาตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังพ่อของผู้ต้องหา เพื่อให้ช่วยเกลี้ยกล่อม และยอมมอบตัว จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 45 นาที จึงยอมทิ้งอาวุธปืน แล้วลงมาจากชั้น 2 ของร้าน เจ้าหน้าที่จึงเข้าชาร์จตัวได้สำเร็จ

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า นายเอกพจน์ ได้ดื่มเหล้าและเสพยาจนเกิดอาการหลอน กลัวคนจะมาทำร้าย ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปทำการสงบสติอารมณ์ และตรวจปัสสาวะ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา "กังขังหน่วงเหนี่ยว / พกอาวุธพื้นในที่สาธารณะ และยิงปืนในที่สาธารณะ" ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป