ตำรวจนครพนม เร่งประสาน ปปง.เข้าตรวจสอบกิจการ "เจ๊สุ" นายทุนดอกเบี้ยโหด เพื่ออายัดทรัพย์สินหากพบหลักฐานฟอกเงิน ขณะที่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ แต่ยอมรับปล่อยเงินกู้จริง คาดส่งสำนวนคดีให้อัยการพิจารณา ได้ไม่เกิน 1 เดือน

พันตำรวจเอกอุกฤษฏ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในการดำเนินคดีกับ นางสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน หรือ "เจ๊สุ" นายทุนเงินกู้นอกระบบ เจ้าของธุรกิจจำหน่ายจักรยานยนต์ ในจังหวัดนครพนมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน ได้เร่งสอบปากคำของผู้เสียหาย ในคดีนี้ โดยจะรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนพร้อมสรุปสำนวน คาดว่า น่าจะสรุปสำนวนส่งให้อัยการได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือนหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น นางสุพิชญ์ฌา ยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่า ได้เปิดให้กู้เงินจริง และมีการรับจำนองจำนำจริง แต่ไม่ได้เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การอย่างไรก็ได้

แต่เนื่องจากคดีนี้ เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเข้ามูลฐานความผิดข้อหาฟอกเงิน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งหนังสือถึงเลขาธิการ ปปง.ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมสอบสวนและอายัดทรัพย์สิน ที่คาดว่า น่าจะได้มาจากการกระทำความผิดอย่างเร่งด่วนแล้ว

นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวน ยังมีการเปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ตัวของ "เจ๊สุ" นอกจากจะเปิดร้านขายรถจักรยานยนต์แล้ว เบื้องหลังยังลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบและคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด โดยใช้วิธีติดป้ายตามหมู่บ้านต่างๆ ทั่วทั้งจังหวัด และมีนายหน้าเข้าไปชักชวนชาวบ้านที่ต้องการเงิน นำโฉนดที่ดินไปขอกู้ ก่อนจะใช้อุบายต่างๆ เพื่อยึดที่ของลูกหนี้อย่างไม่เป็นธรรม

ขณะที่พลตำรวจตรี ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม เพื่อตรวจสอบสำนวนต่างๆ จากพนักงานสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ปปง.จำนวน 3 นาย เข้าร่วมประชุมร่วมกัน เพื่อให้รายละเอียด

เบื้องต้นพลตำรวจตรี ธนาศักดิ์ ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำคดีนี้อย่างรัดกุม และละเอียดรอบคอบที่สุด เนื่องจากผู้ต้องหารู้ช่องทางกฎหมายเป็นอย่างดี และเชื่อว่า ผู้ต้องหา จะต้องต่อสู้เรื่องคดีความแน่นอน

ส่วนเอกสารใด ถ้าตรวจสอบแล้วเข้าการข่ายฟอกเงิน ทาง ปปง.ก็จะเข้าดำเนินการทันที พร้อมร่วมตรวจสอบเพิ่มในเรื่องการเสียภาษี ต่อกรมสรรพากรอย่างละเอียดด้วย

ส่วนบรรยากาศหน้าบริษัทจำกัด มิตรศิลป์ มอเตอร์ไซด์ ของเจ๊สุ เมื่อวานที่ผ่านมา (18 ม.ค.) ก็ยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ไม่คึกคักเหมือนทุกวันที่ผ่านมา ส่วนตัวของเจ๊สุ ก็ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในที่พัก โดยมิได้ออกไปไหน

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม ก็มีลูกหนี้อีกจำนวนหนึ่ง เข้ามาสอบถามรายละเอียด และแจ้งความเพิ่มเติมร่วม 10 คน

โดยหนึ่งในนั้นมี นางสาวปรานี สมบัติ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาวของนางบังอร ค่ำคูณ อายุ 86 ปี ที่ตรอมใจตาย จากการถูกเจ๊สุยึดที่ดิน แล้วนำมาสร้างเป็น บริษัทจำกัด มิตรศิลป์ มอเตอร์ไซด์ ในปัจจุบัน ได้เดินทางมาขอให้รื้อฟื้นคดี

เนื่องจากคุณยายไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกู้ยืมเงินจากเจ๊สุ มาเพียง 200,000 บาท แต่กลับถูกฟ้องว่า มีหนี้ค้างชำระรวมทั้งสิ้น 4 ล้านบาท ทั้งที่มีการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยมาตลอด

ปปง.เข้าตรวจสอบธุรกิจ "เจ๊สุ" หากพบมูลฟอกเงินยึดทรัพย์ทันที