ยายวัย 65 ปีเบิกเงินเบี้ยคนชรา-คนพิการของสามีวัย 86 ปี ไม่ได้ เพราะนอนป่วยติดเตียง ธนาคารให้พามาสแกนหน้ายืนยันตัวตน

นางแดง ทองจันทร์ อายุ 65 ปี ร้องเรียนขอความช่วยเหลือผ่านผู้สื่อข่าวว่า นายสมศักดิ์ โมหะพันธ์ อายุ 86 ปี สามีที่ป่วยอัมพฤกษ์ติดเตียง ตนมีความจำเป็นที่จะต้องเบิกเงินเบี้ยผู้สูงอายุของสามีเพื่อมาดูแล แต่สามีเดินทางไปเบิกเงินที่ธนาคารไม่ได้ ธนาคารยืนยันที่จะต้องให้พาสามีไปเบิกเงินด้วยตนเองเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับนางแดง ที่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สภาพบ้านเป็นบ้านไม้ ยกใต้ถุนสูง หลังคาสังกะสี นางแดง กำลังดูแล นายสมศักดิ์ สามีที่นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียง

นางแดง เปิดเผยว่า ตนและสามีเป็นคนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้อยู่กินกันมาร่วม 30 ปี ไม่มีลูก แต่ก่อนสามีเคยทำงานเป็น รปภ. จนกระทั่งเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน สามีประสบอุบัติเหตุล้ม กระแทกกับพื้น จนร่างกายซีกซ้ายไม่มีแรงเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ ส่วนตนเองมีโรคประจำตัวหลายโรค ต้องรักษาตัวเองด้วยและคอยดูแลสามีด้วย ยังโชคดีมีญาติพี่น้องลูกหลานที่ ช่วยเหลือนำข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมเงินเล็กน้อยคอยมาช่วยเหลือ รวม ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการ รวมเดือนละ 1,400 บาท

ช่วงแรกๆ มีคนที่รู้จักกันเป็นเจ้าหน้าที่ของ อบต. รับมอบอำนาจไปช่วยเบิกเงินเบี้ยผู้สูงอายุและเบี้ยคนพิการให้ ระยะหลังสามีไม่ได้เบิกเงินออกมาเลยหลายปีมาก ส่วนของตนเองไปเบิกด้วยตนเองทุกเดือน

ตนจึงได้ไปติดต่อธนาคาร เพื่อขอดูบัญชีเงินของสามี และพบว่า มีเงินอยู่ในบัญชี เกือบ 40,000 บาท ตนจึงอยากขอเบิกเงินเพื่อนำมาใช้จ่าย แต่ธนาคารแจ้งว่า ต้องนำตัวสามีมาธนาคารด้วยตนเอง ตนก็เข้าใจในหลักการของธนาคาร และก็แจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารทราบว่าสามีของตนเองนั้นป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินทางมาธนาคารได้ สอบถามกับกับทางเจ้าหน้าที่ว่าสามารถออกมาทำเรื่องเบิกเงินให้สามีได้หรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าไม่ได้จะต้องมาเองเพื่อมายืนยันตัวตน สแกนใบหน้า ตนเองจึงให้ประธานชุมชนช่วยมายืนยันและรับรองว่าสามีนั้นป่วยติดเตียงจริง แต่ทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ยืนยันว่า จะต้องนำตัวสามี ที่ป่วยติดเตียงมาที่ธนาคารเท่านั้น และจะต้องไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักอีกด้วย เกิดความเครียดมาก สามีป่วยเดินทางไปไหนมาไหนไม่ได้แล้วจะต้องทำอย่างไรต่อไป

จึงอยากวิงวอนทางเจ้าหน้าที่ธนาคารช่วยอำนวยความสะดวก ออกมาเปิดสมุดธนาคารเพื่อสแกนใบหน้า และพิมพ์ลายนิ้วมือสามีของตนที่บ้านได้หรือไม่ นางแดงยังบอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ตนเองพร้อมจะดูแลสามีที่ป่วยติดเตียงไปตลอด จนกว่าตนเองจะหมดลมหายใจไป เพราะตนเองกับสามีคือคู่รักแท้ที่เกิดมาคู่กัน

ต่อมา พันจ่าอากาศเอกสุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา ทราบข่าวได้เดินทางมาพบกับครอบครัวคุณตาคุณยายที่บ้านพร้อมทั้งรับปากว่าจะติดต่อพร้อมประสานกับทางธนาคารให้กับคุณยายเรื่อง การเบิกจ่ายเงินสวัสดิการของคุณตาสามารถทำที่บ้านได้หรือไม่ แต่ถ้าหากว่าทางธนาคารจะต้องให้คุณตาไปที่ธนาคารเองทาง ตนเองก็จะนำรถพยาบาลฉุกเฉินของทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยามารับตัวคุณตาไปที่ธนาคาร เพื่อยืนยันตัวตนและไม่ให้เป็นภาระ ของคุณยาย

ส่วนเรื่องสวัสดิการด้านอื่น เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาลงมาดูแลครอบครัวของคุณตาและคุณยายมาอย่างสม่ำเสมอ เพราะครอบครัวนี้อยู่เพียงกันแค่สองตายายเท่านั้น