ไฟป่าเชียงรายยังไหม้ต่อเนื่อง ทำหมอกควันปกคลุมทั้งจังหวัด

นายบุญธรรม ทองพิจิตร นายอำเภอเมืองเชียงราย ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการฯอำเภอเมืองเชียงราย ร่วมกับจนท.อุทยานแห่งชาติ สำนักบริการอนุรักษ์ที่ 15  อาสาสมัครป้องกันไฟป่า ตลอดจนชุดปฏิบัติการไฟป่าฯตำบล สนธิกำลังร่วมกับพระอาจารย์วิบูลย์ วัดดอยอินทรีย์ เทศบาลตำบลดอยฮาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อาสาสมัครไฟป่าของตำบล  เข้าทำการดับไฟบริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ภายหลังเกิดไฟไหม้ป่าชุมชนของหมูบ้าน ซึ่งล่าสุดทางชุดปฎิบัติงานสามารถควบคุมได้แล้วแต่ยังต้องเฝ้าระวังเนื่องจากยังมีเชื้อไฟที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ

 

ขณะที่สถานการณ์การเกิดไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงราย ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง  ทั้งเขตพื้นที่ ต.บ้านดู่ และต.นางแล อำเภอเมือง พื้นที่ดอยจระเข้ ต.แม่จัน และ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ซึ่งลุกไหม้ติดต่อกันมาหลายวันโดยหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงและทำแนวกันไฟได้แล้ว ปรากฎว่าไฟได้คุกรุ่นขึ้นมาใหม่และลุกไหม้ไปทาง อ.เมืองเชียงราย ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของดอยจระเข้โดยไฟได้ลามไปใกล้กับสำนักสงฆ์สุวรรณคีรีพื้นที่หมู่บ้นดอยบ่อ ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กรมป่าไม้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 อาสาดับไฟป่าและส่วนท้องถิ่น ต้องระดมกำลังกันทำแนวกันไฟไม่ให้ไฟไปถึงสำนักสงฆ์จนสามารถกั้นไฟไม่ให้ลามไปถึงได้

 

ทั้งนี้ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย ได้ตรวจสอบจุดความร้อนหรือ Hot Spot จากการรับสัญญาณของ Gistda ในช่วงวันที่ 15-16   เม.ย.นี้ พบมีจำนวนทั้งหมด 106 จุด โดยมีมากที่สุดเขต อ.เมืองเชียงราย จำนวน 27 จุด อ.เวียงป่าเป้า 27 จุด อ.แม่สรวย 17 จุด อ.แม่จัน 12 จุด ฯลฯ ทำให้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการ ศบก.ไฟป่า จ.เชียงราย ยังคงให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนดำเนินการควบคุมไฟในพื้นที่ของตนไม่ให้เกิดจุดความร้อนหรือจุดฮอทสปอต

 

แม้ก่อนหน้านี้ทางกรมฝนหลวงได้พยายามนำเครื่องบินเข้าโปรยสารทั่วทั้งจังหวัดเชียงราย เพื่อหวังให้เกิดฝนตกมาชำระล้างแต่เนื่องด้วยความชื้นสัมพัทธ์ไม่เพียงพอทำให้ยังไม่เกิดฝนตก ซึ่งงฝนในพื้นที่เชียงรายได้ทิ้งช่วงนานกว่า 1-2 เดือนจึงเกิดการสะสมของงหมอกควัน ส่งผลทำให้หมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่จ.เชียงราย ทั้ง 18 อำเภอ โดยกรมควบคุมมลพิษยังคงตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือpm 2.5  ในพื้นที่ อ.งแม่สาย ยังมีค่าสูงสุดอยู่ที่  247 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อ.เชียงของวัดได้ 212ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและพื้นที่ อ.เมือง วัดได้179 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งหมอกควันที่ปกคลุมหนาแน่นและยาวนาน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพแสบตา แสบจูกแสบคอ ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ เข้าไปใช้บริการตามร้านเภสัชและโรงพยาบาลชุมชนเป็นจำนวนมาก