ตำรวจ สน.ดินแดง นำเอกสารหลักฐานไปยื่นขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นตำรวจไม่น้อยกว่า 4 คน อุ้มชาวจีน-ล่ามคนไทย รีดเงิน

วันที่ 21 มี.ค. 2566 จากกรณีที่มี น.ส.นามี แซ่ลี อายุ 38 ปี หญิงชาวไทย ซึ่งเป็นล่ามแปลภาษาจีน ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เธอถูกนาย “นายตี้หลุง”(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นชายชาวจีน อายุ 62 ปี ติดต่อให้มาหาที่บ้านพักในซอยประชาสงเคราะห์ 2 แขวงและเขตดินแดง กทม. อ้างว่าจะให้ไปต่ออายุหนังสือเดินทางและวีซ่าเป็นเพื่อน ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ

เมื่อมาถึง มีเพื่อนชายชาวจีนของนายตี้หลุง ขับรถเก๋งมารับพาไปยังที่หมาย แต่สุดท้ายปรากฏว่าสุดท้ายไม่สามารถทำธุรกรรมได้ เพราะเอกสารของ นายตี้หลุงไม่ปกติ จึงเริ่มรู้สึกเอะใจ จากนั้นจึงเดินทางกลับบ้านของนายตี้หลุง แต่พอมาถึง กลับมีชายฉกรรจ์รูปพรรณสัณฐานคล้ายตำรวจ จำนวน 5 คน ขับรถเก๋ง 3 คัน มารออยู่ ก่อนที่นายตี้หลุงและเธอจะถูกอุ้มขึ้นรถไปคนละคัน โดยมีเพื่อนของนายตี้หลุง ขับตามประกบเป็นขบวน จากนั้นขับรถไปวนบนถนนเส้นแจ้งวัฒนะ ใช้เวลาอยู่ราวประมาณ 4-5 ชั่วโมง ก่อนที่ขับรถพาตนและนายตี้หลุง มาปล่อยทิ้งไว้ที่ซอยประชาสงเคราะห์ 2 ในช่วงใกล้ค่ำ

ต่อมา “นายตี้หลุง” ยอมรับกับเธอว่า เพื่อนชายชาวจีนคนดังกล่าว แนะนำช่องทางให้สวมบัตรประชาชนคนไทย เพื่ออยู่ในประเทศไทย ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนคนนี้โทรศัพท์มาบอกว่า วีซ่ากับหนังสือเดินทางมีปัญหาใกล้หมดอายุ ให้เดินทางไปทำด้วยกันที่หน่วยงานรับผิดชอบ ย่านถนนแจ้งวัฒนะ ก่อนที่จะเหตุเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น โดยระหว่างทางที่ถูกชายฉกรรจ์คุมตัวอยู่บนรถ ชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ข่มขู่นายตี้หลุง เรียกเงินค่าไถ่เป็นเงินคริปโต จำนวน 60,000 USDT หรือประมาณ 2 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเป็นอิสรภาพ ไม่ดำเนินคดีในโทษฐานปลอมแปลงบัตรประชาชน แต่นายตี้หลุง ขอต่อรองเหลือครึ่งหนึ่ง เป็นเงินคริปโตจำนวน 30,000 USDT หรือประมาณ 1 ล้านบาท โอนผ่านแอปพลิเคชัน imtoken ไปที่บัญชีปลายทางซึ่งก็ไม่รู้เป็นของผู้ใด ก่อนจะยอมปล่อยตัว

ความคืบหน้าทางคดีล่าสุดวันนี้ (21 มี.ค.66) ที่ สน.ดินแดง พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง นำเอกสารหลักฐานไปยื่นขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาไม่น้อยกว่า 4 คนที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มลักพาตัว หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน มาสอบสวนแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยทั้งหมดถูกแยกสอบปากคำ และยังคงให้การปฏิเสธ

ขณะที่ข้อมูลจากตำรวจเมื่อตรวจสอบแล้ว ก็พบว่านายฉี มีบัตรประชาชนคนไทย ปรากฏชื่อนายสาโรจน์ ทองค้าไม้ อายุ 55 ปี เป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ และเคยใช้บัตรนี้ทำธุรกรรมในไทย หลังจากนี้ตำรวจก็จะตรวจสอบว่าเจ้าของบัตรตัวจริงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ และนายฉีทำบัตรประชาชนนี้ได้อย่างไร

ทางด้าน พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีทั้งตำรวจและพลเรือนร่วมอยู่ด้วย เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร 3 นาย และชั้นประทวน 1 นาย ขณะนี้อยู่ระหว่างขอหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ราย หลังได้รวบรวมพยานหลักฐานตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดในข้อหา “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น / ร่วมกันกักขังและหน่วงเหนี่ยว / และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 ”

เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการอุ้มรีดทรัพย์ครั้งนี้ 5 คน ในจำนวนนี้มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 คน ส่วนตำรวจ 4 นาย ยศสูงสุดพันตำรวจตรี และได้เชิญตัวตำรวจทั้ง 4 นายมาสอบปากคำแล้วระหว่างขอศาลออกหมายจับ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คนยังไม่ยืนยันว่าเป็นตำรวจหรือไม่อยู่ระหว่างหลบหนี