ปัญหาหมอกควันในเชียงรายเริ่มส่งผลต่อสุขภาพ แต่ยังไม่ส่งผลกระทบถึงการบินในจังหวัด

สถานการณ์หมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แม้วันนี้กรมควบคุมมลพิษจะตรวจคุณภาพอากาศมีค่าต่ำกว่า 4 วันที่ผ่านมา แต่ยังคงเป็นค่าที่เกินมาตรฐาน โดยฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 64 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10) มีค่า 83 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นค่าที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยหมอกควันที่หนาแน่นทำให้ทั่วทุกพื้นยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควันไฟ รวมไปถึงบริเวณท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติประจำจังหวัดด้วย

นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน แม่ฟ้าหลวง เชียงราย เปิดเผยว่าหมอกควันไฟที่เกิดขึ้นในปัจจุบันยังไม่รุนแรงจนถึงขั้นที่จะส่งผลกระทบต่อการบินของสายการบินต่างๆ ที่เดินทางเข้าออกท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ทัศนวิสัยในการมองเห็น ยังเป็นไม่เป็นอุปสรรคต่อการขึ้นลงของเครื่อง อย่างไรก็ตามทางท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงมีการเตรียมแผนรองรับหากหมอกควันทำให้รัศมีในการมองเห็นต่ำก็จะงดให้บริการหรือให้ไปลงจอดยังท่าอากาศยานใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย แต่ที่ผ่านมายังไม่ถึงขั้นนั้น นอกจากนี้ยังเตรียมบุคลากรและอุปกรณ์เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบจากหมอกควันไว้พร้อมทุกด้านแล้ว

จากการคาดการณ์คาดว่าหมอกควันไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการบินเพราะสนามบินตั้งอยู่ในพื้นที่โล่ง กว้าง แต่อาจจะมีผลกระทบในด้านการใช้บริการของผู้โดยสาร เพราะหากสถานการณ์หมอกควันมีความรุนแรง ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพื้นที่ก็อาจมีจำนวนน้อยลง จึงอยากขอความร่วมมือภาคประชาชนให้ช่วยกันลดหมอกควันและไม่สร้างหมอกควันโดยลดการเผาทุกชนิด ซึ่งอยากให้หน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาขับเคลื่อนในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะปัจจุบันการท่องเที่ยวของเชียงรายกำลังเติบโต หากนักท่องเที่ยวไม่มารายได้ละเศรษฐกิจของพื้นที่จะลดน้อยลง.