นายกรัฐมนตรี ย้ำแผนที่จะเปิดฉีดวัคซีน walk-in จะเริ่มเดือนมิถุนายน 64 หากวัคซีนมีปริมาณเพียงพอ ขอให้มั่นใจว่าทุกคนได้ฉีดแน่นอน ช่วงนี้ขอให้ประชาชนลงทะเบียนจองผ่านระบบก่อน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ และตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด 19 กรุงเทพมหานคร - สภาหอการค้าไทย - โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ - สามย่านมิตรทาวน์ ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ       

 

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ย้ำว่าต้องดูแลทั้งหมด โดยเฉพาะวันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมด้วย เพราะเป็นแหล่งจ้างงานแรงงานและมีผลิตภัณฑ์ส่งออก ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ จึงต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดในโรงงานต่างๆโดยต้องขอบคุณเจ้าของโรงงานที่มีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็ง แต่ทุกที่วันนี้มีโอกาสเสี่ยงหมด ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อเกิดแล้วเราต้องแก้ปัญหากันต่อไปด้วยความร่วมมือของทุกคน

“วันนี้เรื่อง walk in ก็ได้ให้กรุงเทพฯและกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงให้ชัดเจนแล้ว ไม่เช่นนั้นจะไม่เข้าใจกัน ซึ่งเป็นการเตรียมการไว้สำหรับเดือนมิ.ย. ถ้าวัคซีนเพียงพอก็ได้เตรียมการส่วนนี้ไว้ แต่เมื่อเข้ามาก็ต้องรวมในระบบหมอพร้อม เดี๋ยวจะไม่เข้าใจมากันเต็มไปหมดแล้วไม่ได้ฉีด ซึ่งก็มีหลายคนก็เอารูปนายกฯ ไปใส่นู้นนี่ นายกก็โดนเละไปหมดเหมือนกัน คือจริงๆแล้วบางทีต้องฟังทางหมอและดูให้ละเอียด บางทีไปย่อในโซเชียลก็คือปัญหา ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง วันนี้ยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนงานในการเปิดให้เดินเข้ามาแล้วฉีด ถ้าวัคซีนเพียงพอ ซึ่งในแต่ละวันเราก็มี สำรองไว้บ้างอาจจะเหลือบ้างคนที่ไม่มา แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจว่าทุกคนได้ฉีดแน่ จะช้าจะเร็วก็อาจมีบ้าง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันวันนี้ที่กังวลที่สุดคือ เรื่องของร้านอาหารภาคบริการที่จะตกงานกัน เพราะรายได้ลดลง ดังนั้นต้องดูทุกกลุ่ม ทั้งแรงงานโรงงาน ผู้ให้บริการสาธารณะ รถเมล์ มอเตอร์ไซค์ แกร็ปและแทกซี่ ทั้งหมด ที่จะเติมกลุ่มเหล่านี้ไปตามลำดับความเสี่ยงในขณะนี้ โดยจะดูแลอย่างใกล้ชิดที่สุด

ในส่วนของจังหวัดมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดฉีดวัคซีนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯ เป็นประธานคณะกรรมการ ร่วมกับสสจ.จังหวัด และมีคณะแพทย์ของสาธารณสุขอยู่แล้ว ซึ่งต้องเข้าใจคำว่าแผน และมาตรการ ถ้ามีอะไรต้องปรับเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้ อยากให้สับสนอลหม่านไปกว่านี้เลย เพราะนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและประกาศวาระแห่งชาติ ได้กำหนดนโยบายและนำให้นำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นกังวลกับเฟคนิวส์ที่ทีอยู่เยอะแยะไปหมด ขอร้องอย่าแพร่กันต่อเลย แล้วก็นำไปเป็นประเด็น ซึ่งห้ามไม่ได้ แต่ทุกคนต้องถือว่าวันนี้เป็นวาระแห่งชาติ เป็นวาระที่เราต้องรักสามัคคีและร่วมมือกันให้มากที่สุด

ส่วนระบบหมอพร้อม ขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่หรือไม่และจะพิจารณาใช้ระบบอื่นแทนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบวันนี้ไม่มี แต่ทุกอย่างก็มีปัญหา อะไรที่ไม่เคยทำแล้วทำก็มีปัญหาหมด โดยเฉพาะเรื่องทางเทคนิค วันนี้จำเป็นต้องเร่งรัดในระยะแรกที่มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ต้องแก้ไป เพราะระบบเช่นนี้ยังไม่เคยทำในประเทศไทยมาก่อน นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเราและเตรียมความพร้อมมาหลายปีถึงมีวันนี้ ถ้าเราไม่เริ่มมาหลายปีก่อนในเรื่องดิจิตอล ออนไลน์ 5G และ 4G ก็จะทำวันนี้ไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่เกิดในประเทศไทยมาแล้ว แต่บางทีเราไม่รู้ตัวเมื่ออยากจะใช้ แต่ยังติดขัดอยู่ก็ต้องเห็นใจกันบ้าง ตนก็เห็นใจประชาชน ซึ่งไม่มีอะไรจะ 100% เราอยากให้ถึงร้อยแต่ยังไม่ถึงก็ต้องแก้กันไป ตนปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้อยู่แล้ว

กรณีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่จะเข้ามาเดือนมิ.ย. ยังไม่มีอะไรสะดุดใช่หรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ที่ยืนข้างๆ ได้กล่าวตอบแทนทันทีว่า “ไม่มีสะดุดครับ”

ก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะสะดุดอะไร นายอนุทิน ยืนยันไม่มีสะดุด เราพูดคุยเจรจาได้และขอให้ส่งตามที่สัญญาเอาไว้ ยืนยันวันนี้ยังไม่หยุดหาวัคซีนอื่นและไม่ปิดกั้นใคร แต่ก็มีการไปพูดกันให้เสียหาย ซึ่งใครมีผลประโยชน์เรื่องนี้ ตนยืนยันจะต้องลงโทษเต็มที่อยู่แล้ว ต้องไม่มีใครได้รับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น แต่คนได้รับประโยชน์คือประชาชน

นายกฯ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันนี้ตนได้ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยและได้ตอบคำถามว่าเราจะเดินหน้าประเทศอย่างไรหลังโควิด พร้อมลดปัญหาอุปสรรค ความขัดแย้ง ดึงนักลงทุนเข้ามาและเปิดการท่องเที่ยว ตนคิดว่าเมื่อสถานการณ์โควิดเบาบางลงประเทศไทยดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ถ้าเราช่วยกันตอนนี้ ดังนั้นเราอย่าทำลายกันตอนนี้ เพราะโอกาสจะหายไปเรื่อยๆ เราต้องไม่ทำลายประเทศชาติของเรา และความเป็นหนึ่งเดียวของเราต้องไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งนายกฯ โทษใครไม่ได้ แต่กำกับดูแลและบริหารได้

ขอบคุณ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์