ศาลรัฐธรรมนูญคุมเข้ม ตัดสินคดี "บ้านหลวง" ของนายกรัฐมนตรี

ในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญนัดออกนั่งบัลลังก์ ในเวลา 15.00 เพื่ออ่านคำวินิจฉัยคดีที่พรรคเพื่อไทย ร้องให้วินิจฉัยคุณสมบัติของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีอาศัยบ้านพักทหาร หลังเกษียณอายุราชการมานานกว่า 6 ปี ถือว่า เข้าข่ายรับประโยชน์อื่นใด จากหน่วยงานราชการหรือไม่ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี หากพบว่า ผิดจริง

แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมหารือ เพื่อแถลงคำวินิจฉัยส่วนตน ก่อนจะลงมติ ซึ่งแนวทางจะออกมาได้เพียง 2 แนวทางเท่านั้น คือ 1. ศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด ก็ถือเป็นคุณกับนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไปได้

ทางที่ 2.ศาลตัดสินว่า ความผิด นายกรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง และจะส่งผลไปยังคณะรัฐมนตรีต้องพ้นสภาพไปทั้งคณะ ต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหม่  ขณะที่นายกรัฐมนตรีจะต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปี 

ส่วนคำร้องเรื่องผลประโยชน์ขัดกันตามกฎหมาย ป.ป.ช. และการฝ่าฝืนจริยธรรม ไม่ได้อยู่ในอำนาจการพิจารณาของ ซึ่งเป็นไปได้ที่จะถูกยกคำร้อง

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากการจัดพื้นที่วางรั้วเหล็กกำหนดพื้นที่ห้ามเข้าแล้ว พบว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีการจัดกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน มาตรึงกำลังบริเวณทางเข้าออกศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในเขตศาล

โดยวันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดกำลังตำรวจผลัดละ 3 กองร้อย สลับสับเปลี่ยนกันดูแลพื้นที่ 4 ผลัดตลอด 24 ชั่วโมง เบื้องต้น เป็นกำลังตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นหลัก

ส่วนมวลชนที่ก่อนหน้านี้ มีข้อมูลว่า จะเดินทางมาสังเกตการณ์ในช่วงที่ศาลอ่านคำวินิจฉัย พบว่า หลังจากกลุ่มราษฎรประกาศย้ายจุดชุมนุมไปที่ห้าแยกลาดพร้าว มวลชนกลุ่มอื่นๆ ก็ประกาศย้ายไปรวมตัวที่นั้นด้วย ทำให้จนถึงขณะนี้ ยังไม่พบมวลชนทั้งกลุ่มที่มาสังเกตการณ์ และมาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีบริเวณรอบศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด